เพราะมันเหมือนเดินเข้าสู่หลักประหารชัด ๆ คนชอบเอาเปรียบจะยอมหรือ ?
คนทั้งประเทศรู้ แล้วทำไมคนร้อยเล่ห์พันเหลี่ยมจะไม่รู้
ว่าการเลือกตั้ง ก็คือสนาม "กำจัด" ตัวเองออกไปจากวงจรอำนาจแบบฝังกลบ
เลือกยังไงก็แพ้ เพราะดูสภาพแล้ว ที่ถูลู่ถูกังไม่ยอมยุบอยู่นี่ ก็เพราะยังไม่มีความพร้อมอะไรเลย
ไปนั่นมานี่ เพื่อหาเสียง หวังสร้างคะแนนนิยม ก็แค่การแสดง ที่แสดงไม่เนียน ยิ้มไม่ชื่น อารมณ์ไม่แจ่มจริง ฝืน ๆ เฟค ๆ
ต่อให้กรรมการช่วยยังไงก็ไม่ไหว เพราะสังคมจับจ้องกรรมการตาเขม็ง
ยิ่งมีลูกเล่น มีฉ้อฉลกลเม็ดเพื่อช่วยเหลือกัน สังคมยิ่งจะเทคะแนนไปอีกฝั่ง และกรรมการมีสิทธิ์ซวยไปด้วยเอาง่าย ๆ
รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แล้ว ครบวาระต้องเลือกเมื่อไร ถ้ายุบต้องเลือกวันไหน
เป็นกฎหมายสูงสุดที่ขัดที่ฝืนไม่ได้ ทำได้มากสุดคือยื้อ แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้ายิ่งยื้อก็ยิ่งจะแพ้หนักกว่าเดิม
หนทางที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปให้ได้ ก็มีทางเดียว คือล้มกติกาล้างกฎหมายทำลายรัฐธรรมนูญ
เคยทำมาแล้วนี่ ทำอีกสักครั้งเพื่อรักษาอำนาจจะเป็นไร สำเร็จก็นิรโทษตัวเอง ให้อำนาจตัวเองมากกว่าเดิม นี่คือทางไปต่อทางเดียว
แล้วอะไรล่ะจะเป็นหัวเชื้อเพื่อให้เกิดสถานการณ์ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการล้มการเลือกตั้ง ?
.
วันนี้รู้ครับ คอยดูไม่เกินเย็น หรือหัวค่ำวันนี้ รู้ ว่าเงื่อนไขเร่งให้เกิดสถานการณ์จะมีไหม
ถ้ามี ก็ชัวร์เลย ว่าการเลือกตั้งไม่มี แต่หากหัวเชื้อไม่เกิด ก็เตรียมตัวเข้าคูหากันได้เลย
ก็เรื่องเด็กสองคนอดข้าวอดน้ำมากว่าสองสัปดาห์นั่นแหละครับ
อาการหนักมาก จะไปมิไปแหล่แล้ว เหมือนเทียนไขโดนลมแรง จะดับมิดับแหล่อยู่แล้ว
เมื่อวาน หากไม่ต่อสายน้ำเกลือ ก็ไม่น่าอยู่รอดถึงวันนี้ แต่เพราะเด็กสองคนรอ "คำสั่ง" ของศาล อยากรู้เลยยอมต่อชีวิตตัวเอง
หากคำสั่งออกมาวันนี้ เย็นน้ำ ค่ำนี้ ว่าให้ประกัน ชีวิตเด็กก็รอด (หรืออาจไม่เพราะสภาพแย่เหลือเกิน) แต่คงต้องรักษาตัวอีกยาวนานมาก
แต่หากคำสั่งยังออกมาเหมือนเดิมว่า ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง
คราวนี้ ผมว่าเกิดการสูญเสียแน่นอน เด็กสองคนคงไม่ยอมรับการรักษาใด ๆ อีกแล้ว
และเมื่อถึงตอนนั้น หากเด็กเสียชีวิตไป ย่อมเกิดความขุ่นเคืองคับแค้นชิงชัง และหากมีการกระตุ้นจะโดยใครก็แล้วแต่
ก็เหมือนเทน้ำมันถังใหญ่มหึมาราดลงบนกองเพลิง ความวุ่นวายจะเกิด การสวมรอยจะตาม ความรุนแรงโกลาหลจะลามไปทั่ว
เงื่อนไขก็เบ่งบาน สถานการณ์เปิด ด้วยข้ออ้างรักษาความสงบ ปราบปรามผู้ทำผิดกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมาย
ฉวยโอกาสทำลายกฎหมายฉีกรัฐธรรมนูญ เข้าควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จอีกครั้ง
เพื่อสร้างกฎกติกา ร่างกฎหมายอีกรอบ
กฎ 8 ปี ตกไป ช่องโหว่อำนาจที่ผ่านมามีตรงไหนอุดให้หมด
ที่ผ่านมาเคยคิดว่าหลายปีจะเอาอยู่ แต่ไม่ได้ผล ก็ต้องเอาใหม่ให้แรงกว่าเดิม
ผลกระทบต่อบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ไม่สน
.
นี่เป็นประตูเดียวที่จะทำให้ได้ไปต่อครับ
การเลือกตังไม่ใช่หนทางไปต่อ เลือกตั้งวันนี้ แพ้วันนี้ เลือกเมื่อไรแพ้เมื่อนั้น
มันน่ากลัวนะครับ เล่นใครต่อใครไว้ไม่รู้เท่าไร เพราะถือว่ามีอำนาจ เพราะครองอำนาจไว้
หมดอำนาจเมื่อไร โดนเอาคืนแน่ แม้มีที่คุ้มหัว แต่ชีวิตไม่เป็นสุขแน่ ต้องเดินเหลียวหน้าเหลียวหลังไปจนตาย
เรียกว่า หลับไม่สนิทไปตลอดชีวิต
เครียดตายเองอย่างทรมาน
.
รอดูครับ
ผมว่า ไม่น่ามีการเลือกตั้งนะ
เพราะมันเหมือนเดินเข้าสู่หลักประหารชัด ๆ คนชอบเอาเปรียบจะยอมหรือ ?
คนทั้งประเทศรู้ แล้วทำไมคนร้อยเล่ห์พันเหลี่ยมจะไม่รู้
ว่าการเลือกตั้ง ก็คือสนาม "กำจัด" ตัวเองออกไปจากวงจรอำนาจแบบฝังกลบ
เลือกยังไงก็แพ้ เพราะดูสภาพแล้ว ที่ถูลู่ถูกังไม่ยอมยุบอยู่นี่ ก็เพราะยังไม่มีความพร้อมอะไรเลย
ไปนั่นมานี่ เพื่อหาเสียง หวังสร้างคะแนนนิยม ก็แค่การแสดง ที่แสดงไม่เนียน ยิ้มไม่ชื่น อารมณ์ไม่แจ่มจริง ฝืน ๆ เฟค ๆ
ต่อให้กรรมการช่วยยังไงก็ไม่ไหว เพราะสังคมจับจ้องกรรมการตาเขม็ง
ยิ่งมีลูกเล่น มีฉ้อฉลกลเม็ดเพื่อช่วยเหลือกัน สังคมยิ่งจะเทคะแนนไปอีกฝั่ง และกรรมการมีสิทธิ์ซวยไปด้วยเอาง่าย ๆ
รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แล้ว ครบวาระต้องเลือกเมื่อไร ถ้ายุบต้องเลือกวันไหน
เป็นกฎหมายสูงสุดที่ขัดที่ฝืนไม่ได้ ทำได้มากสุดคือยื้อ แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้ายิ่งยื้อก็ยิ่งจะแพ้หนักกว่าเดิม
หนทางที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปให้ได้ ก็มีทางเดียว คือล้มกติกาล้างกฎหมายทำลายรัฐธรรมนูญ
เคยทำมาแล้วนี่ ทำอีกสักครั้งเพื่อรักษาอำนาจจะเป็นไร สำเร็จก็นิรโทษตัวเอง ให้อำนาจตัวเองมากกว่าเดิม นี่คือทางไปต่อทางเดียว
แล้วอะไรล่ะจะเป็นหัวเชื้อเพื่อให้เกิดสถานการณ์ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการล้มการเลือกตั้ง ?