สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
จุดเด่นของซูโม่ คือน้ำหนักตัวค่ะ
เขาจะขุนร่างกายให้มีน้ำหนักตัวมากๆ เพื่อเพิ่มแรงปะทะในการโจมตี และลดแรงปะทะในการป้องกัน
ระดับ โยโกสึนะ ,โอเซกิ นี่คือน้ำหนักเกิน 150 - 250กก. กันเป็นปกติ (300-500ปอนด์)
บางคนหนักเกิน 600ปอนด์ก็มี เช่น ยามาโมโตยามะ ริวตะ ... ซึ่งถือว่าหนักกว่าศิลปะการต่อสู้อื่นๆมาก
และเค้ามีวิธีฝึกเฉพาะทาง อย่างหนักหลายปี เพื่อสร้างให้คนที่มีน้ำหนักตัวมากขนาดนั้น สามารถเคลื่อนไหวต่อสู้ได้คล่องแคล่ว
ถ้าเป็นคนปกติที่น้ำหนักมากขนาดนั้น อย่าว่าแต่ให้มาต่อสู้เลย แค่ใช้ชีวิตปกติก็ยังลำบากแล้ว
แต่นักซูโม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีในน้ำหนักตัวขนาดนั้น
ตรงนี้แหละค่ะ คือความอันตรายของซูโม่
(ลองนึกภาพตัวคุณ ถูกคนที่หนัก 250กก. พุ่งเข้ามาชาร์จดูสิ ต่อให้การ์ดไว้ก็กระดูกหักได้ง่ายๆเลย)
มันก็จริงส่วนนึง ที่ว่า ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ซูโม่ไม่น่าชนะ ยูโด ได้นะ
แต่ในความเป็นจริง นักยูโด ถ้าปล่อยน้ำหนักตัวเกิน200กก. ก็เคลื่อนไหวไม่ได้แบบนักซูโม่เช่นกันค่ะ
เพราะวิธีฝึกมันแตกต่างกันมาตั้งแต่แรกแล้ว
เขาจะขุนร่างกายให้มีน้ำหนักตัวมากๆ เพื่อเพิ่มแรงปะทะในการโจมตี และลดแรงปะทะในการป้องกัน
ระดับ โยโกสึนะ ,โอเซกิ นี่คือน้ำหนักเกิน 150 - 250กก. กันเป็นปกติ (300-500ปอนด์)
บางคนหนักเกิน 600ปอนด์ก็มี เช่น ยามาโมโตยามะ ริวตะ ... ซึ่งถือว่าหนักกว่าศิลปะการต่อสู้อื่นๆมาก
และเค้ามีวิธีฝึกเฉพาะทาง อย่างหนักหลายปี เพื่อสร้างให้คนที่มีน้ำหนักตัวมากขนาดนั้น สามารถเคลื่อนไหวต่อสู้ได้คล่องแคล่ว
ถ้าเป็นคนปกติที่น้ำหนักมากขนาดนั้น อย่าว่าแต่ให้มาต่อสู้เลย แค่ใช้ชีวิตปกติก็ยังลำบากแล้ว
แต่นักซูโม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีในน้ำหนักตัวขนาดนั้น
ตรงนี้แหละค่ะ คือความอันตรายของซูโม่
(ลองนึกภาพตัวคุณ ถูกคนที่หนัก 250กก. พุ่งเข้ามาชาร์จดูสิ ต่อให้การ์ดไว้ก็กระดูกหักได้ง่ายๆเลย)
มันก็จริงส่วนนึง ที่ว่า ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ซูโม่ไม่น่าชนะ ยูโด ได้นะ
แต่ในความเป็นจริง นักยูโด ถ้าปล่อยน้ำหนักตัวเกิน200กก. ก็เคลื่อนไหวไม่ได้แบบนักซูโม่เช่นกันค่ะ
เพราะวิธีฝึกมันแตกต่างกันมาตั้งแต่แรกแล้ว
สมาชิกหมายเลข 7534831 ถูกใจ, แสงเหนือในวันฟ้าหม่น ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3609814 ถูกใจ, อันตรายที่สุดคือการคาดหวัง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3845522 ถูกใจ, KuroKi ถูกใจ, yod_envi ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1493280 ถูกใจ, ลาบราดอร์สีดำ ถูกใจ, Hamiltonian ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 14
สำหรับผม ผมจะแยก 2 เรื่องนะครับ
1. ศิลปะการต่อสู้
2. ขีดจำกัดสูงสุด
ถ้าพูดศิลปะการต่อสู้ ด้วยน้ำหนักเท่ากัน ยูโต กับ ยิวยิตสู น่าจะได้เปรียบกว่า ซูโม่ เพราะเน้นจบที่ท่านอนด้วย
แต่ถ้าขีดจำกัดสูงสุด ก็น่าจะเป็นซูโม่ เพราะการต่อสู้ ต้องคำนึงถึงน้ำหนักด้วย เพราะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันเลย การที่ซูโม่สามารถทำน้ำหนักได้ขนาดนั้น มีน้อยมากๆ ที่นักกีฬาประเภทอื่นจะทำได้ ทำซูโม่ได้เปรียบด้านน้ำหนักอย่างชัดเจน
ดังนั้นในแง่ของนับด้านเทคนิคจริงๆ ซูโม่ ไม่น่าจะเหนือกว่า ยูโด กับ ยิวยิตสู เลย
แต่ในแง่ประวัติศาสตร์ ซูโม่ จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าศิลปะต่อสู้แขนงอื่นของญี่ปุ่น ดังนั้น จึงทำให้ ซูโม่จึงได้รับความเชิดชูและเคารพนับถือจากคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
และถ้ามองจากคนญี่ปุ่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ซูโม่ จะอยู่ในระดับบนๆ ของศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น
แต่มองจากคนทั่วไป ศิลปะการต่อสู้ ชนิดนี้ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในระดับบนของญี่ปุ่นมากนัก เพราะมีความเฉพาะตัวที่มากเกินไป
1. ศิลปะการต่อสู้
2. ขีดจำกัดสูงสุด
ถ้าพูดศิลปะการต่อสู้ ด้วยน้ำหนักเท่ากัน ยูโต กับ ยิวยิตสู น่าจะได้เปรียบกว่า ซูโม่ เพราะเน้นจบที่ท่านอนด้วย
แต่ถ้าขีดจำกัดสูงสุด ก็น่าจะเป็นซูโม่ เพราะการต่อสู้ ต้องคำนึงถึงน้ำหนักด้วย เพราะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันเลย การที่ซูโม่สามารถทำน้ำหนักได้ขนาดนั้น มีน้อยมากๆ ที่นักกีฬาประเภทอื่นจะทำได้ ทำซูโม่ได้เปรียบด้านน้ำหนักอย่างชัดเจน
ดังนั้นในแง่ของนับด้านเทคนิคจริงๆ ซูโม่ ไม่น่าจะเหนือกว่า ยูโด กับ ยิวยิตสู เลย
แต่ในแง่ประวัติศาสตร์ ซูโม่ จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าศิลปะต่อสู้แขนงอื่นของญี่ปุ่น ดังนั้น จึงทำให้ ซูโม่จึงได้รับความเชิดชูและเคารพนับถือจากคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
และถ้ามองจากคนญี่ปุ่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ซูโม่ จะอยู่ในระดับบนๆ ของศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น
แต่มองจากคนทั่วไป ศิลปะการต่อสู้ ชนิดนี้ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในระดับบนของญี่ปุ่นมากนัก เพราะมีความเฉพาะตัวที่มากเกินไป
แสดงความคิดเห็น
ซูโม่ นี่เก่งขนาดที่การ์ตูน อวยจริงไหมครับ
ซูโม่นี่เก่งที่หนึ่ง แบบที่บากิ หรือ แรกนาร็อค อวยไว้จริงไหมครับ
ผมว่า ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ไม่น่าชนะ ยูโด ได้นะ
คนญี่ปุ่น เขาคิดแบบนั้นจริงหรือ