รายการ พบหมอศิริราช ช่อง 7 HD เรื่องโรคน้ำกัดเท้า ?

ออกอากาศ : วันที่ 9 กันยายน 2561  เวลา 13.50 น. (โดยประมาณ) ณ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เรื่อง:
โรคน้ำกัดเท้า
บทคัดย่อ:
        หลายท่านอยากทราบว่า เวลาเราเดินในพื้นที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน ๆ ทำไมจึงเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้ โรคน้ำกัดเท้าเกิดจากอะไรและจะรักษาป้องกันการเกิดโรคนี้ได้อย่างไร ผศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ ภาควิชาตจวิทยา จะมาตอบคำถามเหล่านี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

     โรคน้ำกัดเท้าเกิดจากการติดเชื้อราที่เท้า พบบ่อยในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น โดย เฉพาะผู้ที่เท้าสัมผัสน้ำตลอดเวลาหรือผู้ที่มีภาวะเท้าผิดรูป เช่น นิ้วเท้าเกและมีการเกยทับกันของนิ้ว ทำให้ซอกนิ้วมีการอับชื้นบริเวณซอกนิ้วเท้าและก่อให้เกิดโรคน้ำกัดเท้า
        โรคน้ำกัดเท้าสามารถติดต่อจากคนอื่นที่มีโรคเชื้อราอยู่แล้ว หรือสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิด เช่น สุนัขหรือแมว การติดต่อสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงหรือผ่านสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว รองเท้า รวมถึงการเดินในพื้นที่สาธารณะ ในห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือสระน้ำสาธารณะ ก็สามารถทำให้เกิดการติดต่อและเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้
        ผู้ป่วยโรคน้ำกัดเท้ามักมาด้วยอาการคันบริเวณที่ซอกนิ้วเท้า เท้าลอกเป็นขุย บางท่านมีผื่นหนาเกิดขึ้นที่เท้า หากไม่ได้รับการรักษาโรคเชื้อราที่เท้าอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ เช่น แพร่กระจายไปที่ขาหนีบผ่านการใส่กางเกงชั้นใน หากไม่ได้รับการรักษาโรคน้ำกัดเท้าอาจเกิดแผลเป็นทางเข้าของเชื้อแบคทีเรีย และเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังต่อไปได้ค่ะ นอกจากนั้นในส่วนของการวินิจฉัยโรคเชื้อราที่เท้า แพทย์ส่วนใหญ่จะทำการวินิจฉัยจากการดูลักษณะของผื่นร่วมกับการขูดผิวหนังไปส่งตรวจหาเชื้อราที่ห้องปฏิบัติการ
        การรักษาโรคน้ำกัดเท้าส่วนใหญ่สามารถใช้ยาทารักษาโรคเชื้อราได้ แต่ต้องทาเป็นระยะเวลา นานประมาณ 4 สัปดาห์ ในส่วนของยารับประทานต้านเชื้อราซึ่งมีผลข้างเคียงต่อตับจะพิจารณาเฉพาะในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อราที่เล็บร่วมด้วย หรือมีการติดเชื้อราที่ผิวหนังบริเวณอื่นเป็นบริเวณกว้างร่วมด้วย
        การป้องกันโรคน้ำกัดเท้าที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาสุขอนามัยของเท้า โดยการล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่และซับให้แห้งโดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วเท้า หากท่านสงสัยว่าเป็นโรคน้ำกัดเท้าสามารถมาพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษา

โรคผิวหนังที่เกิดจากน้ำท่วม
 
“โรคผิวหนังที่เกิดจากน้ำท่วม”
ผศ.พญ.สุเพ็ญญา  วโรทัย
ผศ.นพ.สุมนัส  บุณยะรัตเวช
ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
เมื่อเกิดอุทกภัย
          กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี  รวมถึงเชื้อโรคต่างๆให้แพร่กระจายและปะปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง    ก่อให้ เกิดโรคผิวหนังบางชนิด โรคผิวหนังที่พบร่วมกับภาวะน้ำท่วมได้บ่อยมีดังนี้
น้ำกัดเท้า
          เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังเนื่องจากความเปียกชื้นและการสัมผัสสิ่งสกปรก สารเคมีต่างๆในน้ำท่วมขัง  ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ  ผิวหนังจะมีลักษณะเปื่อยลอก  โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าอาจมีผื่นแดง  แสบคันร่วมด้วย
การรักษาเบื้องต้น  คือ ใช้ยาทาแก้คันกลุ่มสเตียรอยด์ครีม  ทาบริเวณผื่นผิวหนังอักเสบ  และอาจใช้ยาฆ่าเชื้อราในกรณีที่มีการติดเชื้อราร่วมด้วย
 การติดเชื้อราที่ผิวหนัง
          หากเกิดมีภาวะน้ำกัดเท้าต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ ผิวที่เปื่อยลอก โดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วจะติดเชื้อราได้  ซึ่งจะมีผื่นแดง แฉะ มีขุยขาวลอกบริเวณซอกนิ้ว  หรือเป็นชนิดผื่นหนา เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุย  ทั้งที่ฝ่าเท้าและซอกนิ้ว  มีกลิ่นเหม็น หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “ฮ่องกงฟุต” ซึ่งเกิดจากเชื้อกลากชนิดหนึ่งนั่นเอง
การติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้น
          นอกจากการสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรงแล้ว ภาวะที่ผิวหนังอับชื้นอยู่เป็นเวลานานในแต่ละวัน เช่น การสวมรองเท้าบู๊ทยาง  อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้นที่บริเวณฝ่าเท้าได้  ซึ่งจะมีลักษณะเปื่อยยุ่ยเป็นหลุมเล็กๆ ส่งกลิ่นเหม็น
แนวทางการดูแลผิวหนังเมื่อประสบอุทกภัย
          - หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรกโดยตรง หรือใส่รองเท้าบู๊ทยางเมื่อต้องเดินลุยน้ำท่วมขัง
          - หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากสัมผัสน้ำท่วมขัง ให้รีบถอดรองเท้าและเสื้อผ้าที่เปียกน้ำออกแล้วล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที เช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วซึ่งเกิดการอับชื้น ได้ง่าย
          - หากมีบาดแผลถลอกในบริเวณที่สัมผัสน้ำสกปรกควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชะล้างด้วย
ต้องรีบไปพบแพทย์เมื่อ
          - มีบาดแผลที่เกิดจากของมีคมใต้น้ำทิ่มตำ นอกจากการปฏิบัติการดูแลเบื้องต้นแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับประทานยาป้องกันแผลติดเชื้อและต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วย
          - มีการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามลงในผิวหนังชั้นลึกจนเกิดเป็นกลุ่มโรคจำพวกไฟลามทุ่ง ผิวหนังจะบวม แดง ร้อน กดเจ็บ และ ลามเร็วไปยังบริเวณใกล้เคียง  ต่อมาอาจมีไข้สูง  และต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตร่วมด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด
          - มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นลึกของเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เช่น เบาหวาน ตับแข็ง โลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นต้น ในกรณีนี้การติดเชื้อมักจะรุนแรง ลามเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องรีบไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน
 

           หากต้องการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง  ติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่  หน่วยตรวจโรคผิวหนัง
       โรงพยาบาลศิริราช  โทร.  02-4197380-1, 02-4199628  เพื่อมารับการตรวจในเวลาราชการ
               หรือ  โทร.  02-4199801 เพื่อนัดหมายการตรวจ ณ คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ

ท่านสมาชิกชาวพันทิป มีประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคน้ำกัดเท้า จริงหรือไม่ครับ ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่