เริ่มต้นเลยนะคะ พ่อของดิฉันเป็นข้าราชการครูบำนาญ พ่อได้ทิ้งแม่  เรา น้องชาย และน้องสาวไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่ (แต่ไม่ได้จดทะเบียนหย่ากับแม่ของเรา เพราะแม่ของดิฉันไปหางานที่ต่างประเทศกับน้องสาว ก็เลยไม่ได้หย่าขาด) ตั้งแต่ปี 2538 โดยตลอดเกือบ 30 ปี พ่อไม่เคยส่งเสีย เลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนเลย จะติดต่อดิฉันมาบ้างเพื่อขอเงิน ซึ่งดิฉันก็ให้ไปบ้างตามกำลังทรัพย์เท่าที่จะช่วยได้

เมื่อ 4 เดือนก่อนพ่อของดิฉันได้เสียชีวิตกระทันหัน  ดิฉันก็ได้จัดงานศพให้เรียบร้อย โดยมีเงินช่วยจาก ชพค.  200,000 บาท และ ฌสอ. 50,000 บาท ส่วนที่เหลือก็ช่วยๆกันระหว่างพี่น้อง 3 คน  หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ออมทรัพย์ครูได้โทรมาเพื่อให้ไปติดต่อเงินสวัสดิการ ซึ่งดิฉันไม่รู้ว่ายอดเท่าไหร่ แต่เนื่องจากน้องสาวอยู่ต่างประเทศ มายื่นเอกสารไม่ได้  และอีกทั้ง ดิฉันเคยสัญญาว่า จะไม่ยุ่งเรื่องเงิน เรื่องหนี้สินของพ่อโดยเด็ดขาด ก็เลยปฏิเสธที่จะเข้าไปเคลียร์กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู  ซึ่งพ่อของดิฉันไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆให้จัดการมรดก ไม่มีที่ดิน ไม่มีรถ ไม่มีเงินในบัญชี  มีแค่บ้าน 1 หลัง ที่อาศัยอยู่กับภรรยาใหม่ (ซึ่งเป็นของภรรยาใหม่และไม่มีโฉนด)

วันนี้จู่ๆมีหนังสือแจ้งมาว่าพ่อเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู กู้เงิน 2 ครั้ง เมื่อปี 2554 กับ 2555  จำนวน 1,627,000 บาท ให้ดิฉันกับน้องชาย ซึ่งเป็นทายาท (แต่ไม่มีชื่อน้องสาวที่อยู่เมืองนอก) และคนค้ำประกันอีก 3 คน ให้ไปรับหนี้สิน ภายใน 15 วัน ถ้าเกินนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

และยังมีหนี้ของธนาคารออมสินอีก 3,000,000 บาท แต่พ่อได้ทำประกันชีวิตไว้วงเงิน 1,800,000 บาท (เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้ง) ซึ่งทางธนาคารบอกว่าจะเอาไปหักลบกลบหนี้กับ ชพค.ด้วย ซึ่งดิฉันก็บอกว่าให้จัดการกันเลย เพราะดิฉันจะไม่ขอยุ่งโดยเด็ดขาด

 ดิฉันเลยจะถามว่า

1.กรณีนี้ เราต้องใช้หนี้แทนพ่อหรือไม่ เพราะดิฉันก็ไม่มีรายได้มากพอ ที่จะมาใช้หนี้ให้? 

2. ถ้าเราไม่มีเงินมาชดใช้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสามารถเอาผิดเราได้หรือไม่ 

ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ