‘ชลน่าน’ พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมือง อ้อนกาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805542
‘ชลน่าน’ พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมือง พร้อมอ้อนชาวเชียงใหม่ กาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ‘ทัศนีย์’ ลั่น เอาลุง 3 ป.ออกจากระบอบ ปชต.
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ช
ลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนาย
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่, นาย
ณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 2, น.ส.
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่, นาย
วิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4, นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5, นาย
บรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 นาย
นิธิกร วุฒินันไชย ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 7, นาย
สุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8, น.ส.
ศรีโสภา โกฎคำลือ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 9, นาย
โกวิทย์ พิริยะอนันต์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 10, และนพ.
ไกร ดาบธรรม ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 11 ขึ้นรถแห่หาเสียงบริเวณ กาดหลวง ภายหลังเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมผู้สมัครส.ส. ภาคเหนือตอนบนของพรรค โดยก่อนเริ่มการหาเสียงทางพรรค พท.ได้สักการะอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้าน นพ.
ชลน่าน ปราศรัยด้วยภาษาเหนือว่า พรรคพท.เป็นพรรคการเมืองของพี่น้องชาวเชียงใหม่ อยู่ในหัวใจของพี่น้องชาวเชียงใหม่ วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องเลือกทั้งคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ ขอฝากพรรค พท.ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย ขณะนี้พี่น้องทนทุกข์ทรมานมา 8 ปีในยุคพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราร่วมกันเอาอนาคตของพวกเรากลับคืนมาด้วยกัน เข้าคูหากาพรรค พท. ให้แลนด์สไลด์ เพื่อไปเป็นรัฐบาล
ด้าน นาย
จุลพันธ์ ปราศรัยว่า วันนี้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ ทั้ง 11 เขต มาขอคะแนนให้กับพรรค พท. วันนี้เราอยู่กับพล.อ.
ประยุทธ์ มา 8 ปี พี่น้องเดือดร้อน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม บ้านเมืองมียาเสพติดเต็มไปหมด เราต้องการเปลี่ยนประเทศ พรรค พท.จะนำสิ่งดีๆ กลับมา เรามีความพร้อมในตัวบุคคล มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 11 คน มาอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราต้องการพรรคที่เป็นประชาธิปไตยขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรค พท.ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตรทั้งสองใบ
ด้าน น.ส.
ทัศนีย์ ปราศรัยว่า เลือกตั้งครั้งนี้ พรรค พท. ขออาสาเติมเงินในกระเป๋าให้กับพี่น้องทุกท่าน การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเอาลุงทั้ง 3 ป. ออกไปจากระบอบประชาธิปไตย เอาพรรค พท.มาบริหารประเทศให้กับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการขึ้นรถแห่ของพรรค พท.ที่จ.เชียงใหม่วันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก และได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีประชาชนโบกมือให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง
'ก้าวไกล' ขึ้นเหนือ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร 'น่าน-แพร่-ลำปาง' ครบทุกเขต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805723
‘ก้าวไกล’ ขึ้นเหนือ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ‘น่าน-แพร่-ลำปาง’ ครบทุกเขต ชูนโยบายตอบโจทย์พื้นที่ครบวงจร
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค ก.ก. ประกอบด้วย นพ.
วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นาย
นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นาย
อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ร่วมเวทีปราศรัยที่ห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขตของ 3 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดน่าน แพร่ และลำปาง พร้อมปราศรัยนโยบายและวิสัยทัศน์ของพรรค ก.ก.
นาย
พิธา ปราศรัยว่า การปราศรัยในวันนี้ที่ห้าแยกหอนาฬิกา เป็นการบ่งบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันต่อหน้าเวลา เวลาเป็นสิ่งมีค่า เวลาเดินไปข้างหน้าโดยไม่รอใคร 4 ปีที่ผ่านมาเราเดินทางมาไกลเกินกว่าจะแพ้อีกต่อไป ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา การเดินทางของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก.ก. วันนี้เราเดินทางเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดแพร่โดยตรงอย่างสุราก้าวหน้า ที่จะเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ เปลี่ยนสินค้าเกษตรเป็นโอกาสของเกษตรกร แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราแพ้ไปแค่ 2 คะแนนในสภาฯ แต่เราก็เข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกที และนี่คือเรื่องที่จะทำได้สำเร็จแน่นอนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคก.ก.เป็นรัฐบาล
นาย
พิธา กล่าวว่า สำหรับจังหวัดลำปาง 25% ของชาวลำปางเป็นผู้สูงอายุ เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุคือสิ่งที่เราพยายามผลักดันตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะบำนาญประชาชน 3,000 บาท เราก็เกือบทำได้แล้วเหมือนกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช้อำนาจปัดตก ไม่ให้แม้แต่โอกาสนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ
นาย
พิธา กล่าวว่า ส่วนชาวน่าน เป็นจังหวัดที่มีพี่น้องชาติพันธุ์หลายเผ่าอยู่อาศัย ที่ผ่านมาต้องประสบปัญหากับการถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม ในรอบสภาฯ ที่กำลังจะหมดลงนี้ เราได้เห็นการขับเคลื่อนของพวกเขาในการยื่นกฎหมายถึง 6 ฉบับ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะปัดตกไปถึง 4 ฉบับ แต่นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและขอเพียงมีการผลักดันโดยผู้แทนในสภาฯ อีกเพียงเล็กน้อย เราก็จะมีเขตวัฒนธรรมพิเศษให้พี่น้องชาติพันธุ์อยู่ร่วมกับป่าได้แล้ว
ย้อนไป 4 ปีที่แล้ว เรื่องเหล่านี้ที่ตนพูดถึง อาจไม่มีใครจินตนาการมาก่อนว่าจะเกิดการผลักดันขึ้นในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เรามาไกลมากเกินกว่าจะแพ้แล้ว อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้ว เราจะปล่อยทิ้งตรงนี้ไม่ได้ ต้องขอแรงพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดันให้เราพรรคก้าวไกลได้เข้าสภาอีกครั้ง แก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้
ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา บวกกับอีก 2 ปีข้างหน้าที่กลุ่มการเมืองทหารจำแลงพยายามจะต่อยอดให้ประเทศไทยเข้าสู่ทศวรรษแห่งความสูญหายอีกครั้ง เราสูญเสียทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่เพิ่มขึ้นมีเพียงการทุจริตและยาเสพติด สภาพการเมืองวันนี้ไม่ต่างอะไรกับสภาพที่เกิดขึ้นย้อนหลังไป 42 ปี ในวันที่ตนเกิด รัฐธรรมนูญที่เขียนปีนี้กับ 42 ปีที่แล้วมาจากคนเขียนคนเดียวกัน ยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างการเมืองแบบลากตั้งหรือแบบเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีวันนี้ ก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ 12 ปีในยุคนั้น หรือจะย้อนไป 130 ปีที่แล้วที่เป็นจุดกำเนิดของรัฐราชการสยาม ทุกวันนี้ประเทศไทยก็ยังคงบริหารราชการด้วยโครงสร้างแบบเดิมของเมื่อ 130 ปีที่แล้ว
นาย
พิธา กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยวันนี้ คือการพาทุกคนย้อนหลังกลับไปสู่อดีต การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญมากของการเมืองไทย ทางเลือกให้แก่อนาคตของประเทศไทยอยู่ในประชาชนทุกคนแล้ว จะเอาการย้อนอดีตทวนเข็มนาฬิกา หรือกาก้าวไกลเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้ประชาชนทุกคนได้มีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
“ความเสี่ยงของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเลือกแบบเดิมแล้วคาดหวังจะได้สิ่งใหม่ การเลือกแบบเดิมไม่มีวันที่จะนำไปสู่สิ่งใหม่ได้ ความเสี่ยงที่น้อยที่สุดคือการเลือกพรรคก้าวไกล ไปนำทหารออกจากการเมือง กระจายอำนาจ หยุดทุนผูกขาด เพื่อให้ประเทศไทยดีกว่านี้ ทางเลือกอยู่ในมือของพี่น้องประชาชนแล้ว” นาย
พิธา กล่าว
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลในทั้ง 3 จังหวัดภาคเหนือที่มีการเปิดตัววันนี้ ประกอบด้วย
จ.น่าน เขต 1 นาย
เชาว์วิชญ์ อินน้อย ผู้ประกอบธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง เขต 2 นาย
อภิชาต จ่าแสน สมาชิกสมาคมกู้ชีพสายฟ้าวัดห้วยหลอด เขต 3 นาย
เจริญ อภิภัทรโกศล ทนายความอิสระ อดีตคนทำงานด้านการแก้ไขปัญหาสถานภาพบุคคล และปัญหากรรมสิทธิที่ดิน
จ.แพร่ เขต 1 นาย
ติรานนท์ เวียงธรรม ทนายความอิสระ เขต 2 น.ส.
รฐรส เกิดสรรค์ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าตลาดนัด เขต 3 นาง
ภาวัช จันทร์ใส อดีตรองนายกเทศมนตรี ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ จ.ลำปาง เขต 1 น.ส.
ทิพา ปวีณาเสถียร อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และผู้ประกอบธุรกิจโรงน้ำแข็ง เขต 2 นาย
กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ อดีตเกษตรกร และผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตเสื้อ
เขต 3 นาย
ชลธานี เชื้อน้อย อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.ลำปาง เขต 4 น.ส.
รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
สมชัย จี้ กกต.ทวนแบ่ง 33 เขตเลือกตั้ง กทม. ชี้จำนวนราษฎรระหว่างเขตต่างกันมหาศาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805598
สมชัย จี้ กกต.ทบทวนแบ่ง 33 เขตเลือกตั้ง กทม. หลังพบ 5 รูปแบบ จำนวนราษฎรระหว่างเขตต่างกันมหาศาล
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊กถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส 33 เขตเลือกตั้ง จำนวน 5 รูปแบบของ กกต.กทม. ว่า
กกต. กทม. โชว์แบ่งเขต 33 เขต ถึง 5 รูปแบบ มีข้อสังเกตอะไรบ้าง ค่าเฉลี่ยราษฎรต่อเขตของ กทม. คือ 166,513 คน การแบ่งเขตที่ดีควรเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 10
วันนี้ (3 ก.พ.) กกต.กทม.โชว์ผลงานแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เป็น 33 เขตแล้ว เป็นการดำเนินการก่อนกำหนดที่ กกต.กลางระบุคือเริ่มประกาศพรุ่งนี้ ถือเป็นผลงานที่ทำได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่น เพราะกฎหมายกำหนดให้ทำไม่น้อยกว่า 3 รูปแบบ แต่มีออกมาถึง 5 รูปแบบ
แต่เมื่อพิจารณาดูเนื้อในของทั้ง 5 รูปแบบ พบว่า กกต. กทม.จะใช้การรวมพื้นที่ระดับเขตเป็นหลัก ไม่ค่อยมีการฉีกบางแขวงออก ทำให้จำนวนความแตกต่างของราษฎรระหว่างเขต แตกต่างกันมหาศาล มีผลต่างจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อ ส.ส. หนึ่งคน คิดเป็นร้อยละ เกินกว่าที่จะรับได้
ตัวอย่าง เช่น
• แบบที่ 1 เขต 11 สายไหม มีราษฎร 208,928 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.47 เขต 26 ทุ่งครุ มีราษฎร 123,761 คน ต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.67 เท่ากับ ห่างกันถึง 85,167 คน
• แบบที่ 2 เขตที่ 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.59 เขต 22 สวนหลวง มีราษฎร 122,676 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.33 เท่ากับห่างกันถึง 86,444 คน
• แบบที่ 3 เขตที่ 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 25.59 เขตที่ 10 หลักสี่ ดอนเมือง(เฉพาะแขวงสนามบิน) ราษฎร 122,411 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.49 เท่ากับห่างกันถึง 86,709 คน
• แบบที่ 4 เขต 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.59 เขต 6 บางซื่อ มีราษฎร 119,431 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 28.28 เท่ากับห่างกัน 89,689 คน
• แบบที่ 5 เขต 22 สวนหลวง ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอนและแขวงดอกไม้) 217,818 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 30.81 เขต 10 บางซื่อ มีราษฎร 119,431 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 28.28 เท่ากับห่างกันถึง 98,387 คน
สรุปทั้ง 5 แบบที่นำเสนอ มีราษฎรแตกต่างระหว่างเขตสูงสุด กับเขตน้อยสุด ตั้งแต่ 85,167 ถึง 98,387 คน จากค่าเฉลี่ยที่มี คือ 166,513 คน แบ่งแบบนี้จะไหวหรือครับ ฝากท่าน กกต.กลาง ที่มีความรู้ด้านสถิติดีช่วยแนะนำด้วย แก้ใหม่ยังทันครับ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02Z53vMLjQLsJjAtmp3DUiubGCSc4VzFZ2JkQNpKyajtvcK8pZv1f5ZtC23A2V6wBbl
JJNY : ‘ชลน่าน’ ขึ้นรถแห่หาเสียง│'ก้าวไกล'ขึ้นเหนือ│สมชัยจี้ กกต.ทวนแบ่ง 33 เขต│‘แอตต้า’ ประเมิน ทัวร์จีนยังไม่ทะลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805542
‘ชลน่าน’ พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมือง พร้อมอ้อนชาวเชียงใหม่ กาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ‘ทัศนีย์’ ลั่น เอาลุง 3 ป.ออกจากระบอบ ปชต.
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่, นายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 2, น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่, นายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5, นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 นายนิธิกร วุฒินันไชย ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 7, นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8, น.ส.ศรีโสภา โกฎคำลือ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 9, นายโกวิทย์ พิริยะอนันต์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 10, และนพ.ไกร ดาบธรรม ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 11 ขึ้นรถแห่หาเสียงบริเวณ กาดหลวง ภายหลังเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมผู้สมัครส.ส. ภาคเหนือตอนบนของพรรค โดยก่อนเริ่มการหาเสียงทางพรรค พท.ได้สักการะอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้าน นพ.ชลน่าน ปราศรัยด้วยภาษาเหนือว่า พรรคพท.เป็นพรรคการเมืองของพี่น้องชาวเชียงใหม่ อยู่ในหัวใจของพี่น้องชาวเชียงใหม่ วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องเลือกทั้งคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ ขอฝากพรรค พท.ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย ขณะนี้พี่น้องทนทุกข์ทรมานมา 8 ปีในยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราร่วมกันเอาอนาคตของพวกเรากลับคืนมาด้วยกัน เข้าคูหากาพรรค พท. ให้แลนด์สไลด์ เพื่อไปเป็นรัฐบาล
ด้าน นายจุลพันธ์ ปราศรัยว่า วันนี้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ ทั้ง 11 เขต มาขอคะแนนให้กับพรรค พท. วันนี้เราอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ มา 8 ปี พี่น้องเดือดร้อน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม บ้านเมืองมียาเสพติดเต็มไปหมด เราต้องการเปลี่ยนประเทศ พรรค พท.จะนำสิ่งดีๆ กลับมา เรามีความพร้อมในตัวบุคคล มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 11 คน มาอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราต้องการพรรคที่เป็นประชาธิปไตยขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรค พท.ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตรทั้งสองใบ
ด้าน น.ส.ทัศนีย์ ปราศรัยว่า เลือกตั้งครั้งนี้ พรรค พท. ขออาสาเติมเงินในกระเป๋าให้กับพี่น้องทุกท่าน การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเอาลุงทั้ง 3 ป. ออกไปจากระบอบประชาธิปไตย เอาพรรค พท.มาบริหารประเทศให้กับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการขึ้นรถแห่ของพรรค พท.ที่จ.เชียงใหม่วันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก และได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีประชาชนโบกมือให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง
'ก้าวไกล' ขึ้นเหนือ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร 'น่าน-แพร่-ลำปาง' ครบทุกเขต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805723
‘ก้าวไกล’ ขึ้นเหนือ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ‘น่าน-แพร่-ลำปาง’ ครบทุกเขต ชูนโยบายตอบโจทย์พื้นที่ครบวงจร
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค ก.ก. ประกอบด้วย นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ร่วมเวทีปราศรัยที่ห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขตของ 3 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดน่าน แพร่ และลำปาง พร้อมปราศรัยนโยบายและวิสัยทัศน์ของพรรค ก.ก.
นายพิธา ปราศรัยว่า การปราศรัยในวันนี้ที่ห้าแยกหอนาฬิกา เป็นการบ่งบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันต่อหน้าเวลา เวลาเป็นสิ่งมีค่า เวลาเดินไปข้างหน้าโดยไม่รอใคร 4 ปีที่ผ่านมาเราเดินทางมาไกลเกินกว่าจะแพ้อีกต่อไป ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา การเดินทางของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก.ก. วันนี้เราเดินทางเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดแพร่โดยตรงอย่างสุราก้าวหน้า ที่จะเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ เปลี่ยนสินค้าเกษตรเป็นโอกาสของเกษตรกร แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราแพ้ไปแค่ 2 คะแนนในสภาฯ แต่เราก็เข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกที และนี่คือเรื่องที่จะทำได้สำเร็จแน่นอนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคก.ก.เป็นรัฐบาล
นายพิธา กล่าวว่า สำหรับจังหวัดลำปาง 25% ของชาวลำปางเป็นผู้สูงอายุ เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุคือสิ่งที่เราพยายามผลักดันตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะบำนาญประชาชน 3,000 บาท เราก็เกือบทำได้แล้วเหมือนกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช้อำนาจปัดตก ไม่ให้แม้แต่โอกาสนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ
นายพิธา กล่าวว่า ส่วนชาวน่าน เป็นจังหวัดที่มีพี่น้องชาติพันธุ์หลายเผ่าอยู่อาศัย ที่ผ่านมาต้องประสบปัญหากับการถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม ในรอบสภาฯ ที่กำลังจะหมดลงนี้ เราได้เห็นการขับเคลื่อนของพวกเขาในการยื่นกฎหมายถึง 6 ฉบับ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะปัดตกไปถึง 4 ฉบับ แต่นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและขอเพียงมีการผลักดันโดยผู้แทนในสภาฯ อีกเพียงเล็กน้อย เราก็จะมีเขตวัฒนธรรมพิเศษให้พี่น้องชาติพันธุ์อยู่ร่วมกับป่าได้แล้ว
ย้อนไป 4 ปีที่แล้ว เรื่องเหล่านี้ที่ตนพูดถึง อาจไม่มีใครจินตนาการมาก่อนว่าจะเกิดการผลักดันขึ้นในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เรามาไกลมากเกินกว่าจะแพ้แล้ว อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้ว เราจะปล่อยทิ้งตรงนี้ไม่ได้ ต้องขอแรงพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดันให้เราพรรคก้าวไกลได้เข้าสภาอีกครั้ง แก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้
ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา บวกกับอีก 2 ปีข้างหน้าที่กลุ่มการเมืองทหารจำแลงพยายามจะต่อยอดให้ประเทศไทยเข้าสู่ทศวรรษแห่งความสูญหายอีกครั้ง เราสูญเสียทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่เพิ่มขึ้นมีเพียงการทุจริตและยาเสพติด สภาพการเมืองวันนี้ไม่ต่างอะไรกับสภาพที่เกิดขึ้นย้อนหลังไป 42 ปี ในวันที่ตนเกิด รัฐธรรมนูญที่เขียนปีนี้กับ 42 ปีที่แล้วมาจากคนเขียนคนเดียวกัน ยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างการเมืองแบบลากตั้งหรือแบบเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีวันนี้ ก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ 12 ปีในยุคนั้น หรือจะย้อนไป 130 ปีที่แล้วที่เป็นจุดกำเนิดของรัฐราชการสยาม ทุกวันนี้ประเทศไทยก็ยังคงบริหารราชการด้วยโครงสร้างแบบเดิมของเมื่อ 130 ปีที่แล้ว
นายพิธา กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยวันนี้ คือการพาทุกคนย้อนหลังกลับไปสู่อดีต การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญมากของการเมืองไทย ทางเลือกให้แก่อนาคตของประเทศไทยอยู่ในประชาชนทุกคนแล้ว จะเอาการย้อนอดีตทวนเข็มนาฬิกา หรือกาก้าวไกลเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้ประชาชนทุกคนได้มีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
“ความเสี่ยงของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเลือกแบบเดิมแล้วคาดหวังจะได้สิ่งใหม่ การเลือกแบบเดิมไม่มีวันที่จะนำไปสู่สิ่งใหม่ได้ ความเสี่ยงที่น้อยที่สุดคือการเลือกพรรคก้าวไกล ไปนำทหารออกจากการเมือง กระจายอำนาจ หยุดทุนผูกขาด เพื่อให้ประเทศไทยดีกว่านี้ ทางเลือกอยู่ในมือของพี่น้องประชาชนแล้ว” นายพิธา กล่าว
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลในทั้ง 3 จังหวัดภาคเหนือที่มีการเปิดตัววันนี้ ประกอบด้วย
จ.น่าน เขต 1 นายเชาว์วิชญ์ อินน้อย ผู้ประกอบธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง เขต 2 นายอภิชาต จ่าแสน สมาชิกสมาคมกู้ชีพสายฟ้าวัดห้วยหลอด เขต 3 นายเจริญ อภิภัทรโกศล ทนายความอิสระ อดีตคนทำงานด้านการแก้ไขปัญหาสถานภาพบุคคล และปัญหากรรมสิทธิที่ดิน
จ.แพร่ เขต 1 นายติรานนท์ เวียงธรรม ทนายความอิสระ เขต 2 น.ส.รฐรส เกิดสรรค์ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าตลาดนัด เขต 3 นางภาวัช จันทร์ใส อดีตรองนายกเทศมนตรี ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ จ.ลำปาง เขต 1 น.ส.ทิพา ปวีณาเสถียร อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และผู้ประกอบธุรกิจโรงน้ำแข็ง เขต 2 นายกฤตภพ สติดีนิติวงศ์ อดีตเกษตรกร และผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตเสื้อ
เขต 3 นายชลธานี เชื้อน้อย อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.ลำปาง เขต 4 น.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
สมชัย จี้ กกต.ทวนแบ่ง 33 เขตเลือกตั้ง กทม. ชี้จำนวนราษฎรระหว่างเขตต่างกันมหาศาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3805598
สมชัย จี้ กกต.ทบทวนแบ่ง 33 เขตเลือกตั้ง กทม. หลังพบ 5 รูปแบบ จำนวนราษฎรระหว่างเขตต่างกันมหาศาล
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊กถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส 33 เขตเลือกตั้ง จำนวน 5 รูปแบบของ กกต.กทม. ว่า
กกต. กทม. โชว์แบ่งเขต 33 เขต ถึง 5 รูปแบบ มีข้อสังเกตอะไรบ้าง ค่าเฉลี่ยราษฎรต่อเขตของ กทม. คือ 166,513 คน การแบ่งเขตที่ดีควรเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 10
วันนี้ (3 ก.พ.) กกต.กทม.โชว์ผลงานแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เป็น 33 เขตแล้ว เป็นการดำเนินการก่อนกำหนดที่ กกต.กลางระบุคือเริ่มประกาศพรุ่งนี้ ถือเป็นผลงานที่ทำได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่น เพราะกฎหมายกำหนดให้ทำไม่น้อยกว่า 3 รูปแบบ แต่มีออกมาถึง 5 รูปแบบ
แต่เมื่อพิจารณาดูเนื้อในของทั้ง 5 รูปแบบ พบว่า กกต. กทม.จะใช้การรวมพื้นที่ระดับเขตเป็นหลัก ไม่ค่อยมีการฉีกบางแขวงออก ทำให้จำนวนความแตกต่างของราษฎรระหว่างเขต แตกต่างกันมหาศาล มีผลต่างจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อ ส.ส. หนึ่งคน คิดเป็นร้อยละ เกินกว่าที่จะรับได้
ตัวอย่าง เช่น
• แบบที่ 1 เขต 11 สายไหม มีราษฎร 208,928 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.47 เขต 26 ทุ่งครุ มีราษฎร 123,761 คน ต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.67 เท่ากับ ห่างกันถึง 85,167 คน
• แบบที่ 2 เขตที่ 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.59 เขต 22 สวนหลวง มีราษฎร 122,676 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.33 เท่ากับห่างกันถึง 86,444 คน
• แบบที่ 3 เขตที่ 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 25.59 เขตที่ 10 หลักสี่ ดอนเมือง(เฉพาะแขวงสนามบิน) ราษฎร 122,411 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.49 เท่ากับห่างกันถึง 86,709 คน
• แบบที่ 4 เขต 18 คลองสามวา มีราษฎร 209,120 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.59 เขต 6 บางซื่อ มีราษฎร 119,431 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 28.28 เท่ากับห่างกัน 89,689 คน
• แบบที่ 5 เขต 22 สวนหลวง ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอนและแขวงดอกไม้) 217,818 คน เกินกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 30.81 เขต 10 บางซื่อ มีราษฎร 119,431 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 28.28 เท่ากับห่างกันถึง 98,387 คน
สรุปทั้ง 5 แบบที่นำเสนอ มีราษฎรแตกต่างระหว่างเขตสูงสุด กับเขตน้อยสุด ตั้งแต่ 85,167 ถึง 98,387 คน จากค่าเฉลี่ยที่มี คือ 166,513 คน แบ่งแบบนี้จะไหวหรือครับ ฝากท่าน กกต.กลาง ที่มีความรู้ด้านสถิติดีช่วยแนะนำด้วย แก้ใหม่ยังทันครับ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02Z53vMLjQLsJjAtmp3DUiubGCSc4VzFZ2JkQNpKyajtvcK8pZv1f5ZtC23A2V6wBbl