มีครอบครัวแบบนี้ ควรจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไงคะ?

(หวังว่าจะมีคนเข้ามาอ่านนะคะ 🥺 )

เล่าย้อนก่อนจะมาเป็นแบบนี้ (เขียนไม่เก่งค่ะ )
ตอนนั้นเราเรียน มหาลัย ปี2 อายุ 19 ปี มีแฟนคนนี้เขาอายุ 28 ปี คบกันไป ปีกว่าๆเราท้องค่ะ ก็เรียนไปท้องไป เพื่อนๆที่มีเขาก็อายไม่อยากไปไหนกับคนท้อง เราเลยเสียความสึกเลยแยกตัวออกมาพร้อมกับเพื่อนก็ตีห่าง จนไม่มีเพื่อน พักอยู่หอคนเดียว บ้านแฟนอยู่ต่างอำเภอ เปิดร้านขายของเล็กๆ พอท้องก็แต่งงานกัน เขาเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ทำให้ทุกอย่าง คือ ความรู้สึกเราตอนนั้น ถึง ตอนนี้ เพื่อนมาอันดับ 1 พ่อแม่ 2 เราและลูก สุดท้าย เสมอ นานๆเขาจะมาเราทีนึงเพราะนัดกินเหล้ากับเพื่อน กินเสร็จเมา แล้วถึงมาเราที่หอ ส่วนเราก็แบบอยู่คนเดียวเหงาตั้งตารอ พอเจอก็มาหลับซะงั้น เฮ้อ ยันเรียนจบมเพื่อนสนิทไม่มีสักคน เราเป็นคนไม่ค่อยสนุก อาย ไม่ชอบอยู่เป็นอากาศ เราก็อดทนนะจนจบแต่ละงานของเพื่อนเขา เขาติดเพื่อน ดูเขาก็อายเพื่อนนะ ที่ทำเราท้อง ไปกินข้าวด้วยกันแฟนชอบทำเหมือนเราไม่มีตัวตนตลอดจนเราไม่อยากไป ตอนนั้นก็ยังถือว่าไม่ได้แย่มากเพราะตอนอยู่กัน 2 คน เขาก็มายอกล้อเล่นกับเรา มันก็เลยรู้สึกดีอยู่บ้าง เขาไม่มีเพื่อนแถวบ้าน มีแต่ต่างอำเภอ เราก็เช่นกัน ตอนนี้นก็เลยแบบสนิทกันกับแฟนแบบไหนมาไหนตัวตืดกัน พอผ่านไป 4 ปี ย้ายบ้านใหม่ร้านใหญ่กว่าเดิม ไม่ได้ทำงานใกล้ชิดกัน เขาก็ไปสนิทกับลูกน้องผู้ชายแทน ความสัมพันธ์เราลดลง เพราะเขาไม่มีเวลาให้เรา ตอนย้ายบ้าน ฝากลูกให้แม่แฟนเลี้ยง เพราะเราทำงานที้งคู่ตั้งแต่เช้าจนมืด ตอนนั้นแม่แฟนก็ไม่ได้รักเรานะ แต่ก็ไม่ได้เกลียดเรามาก อยู่ร้านใหม่มา ปีแรกแฟนได้มีเพื่อนใหม่ผู้ชายในเฟสแบบสายงานเดียวกันต้องคอยช่วยเหลือกันตลอดเวลาเป็นงานแบบวิจัยเครื่องใช้ไฟฟ้า เจาะระบบ  อะไรแบบนี้ เวลากลางวันก็แยกกันทำงาน ส่วนกลางคืนเขาก็จะคลุก vdo call แต่กับเพื่อคนนี้ จนถึง ตี 3 ทุกวันมาแบบ 2 ปี คือเราเหงามาก เราไม่มีเพื่อน แฟนไม่มีเวลาให้ วันๆแค่เจอหน้ากัน เราก็เรียกกินข้าวเสมอๆ เขาบอกก็อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้วไม่มีเวลาให้ตรงไหน?? (ยิ้มแห้งเลยค่ะ ) [[แล้วเราเป็นคนเซ้นซิทิฟง่าย เกิดมาแบบยายเลี้ยงมา ไม่มีพี่น้อง คือเราเป็นคนขาดความรักตั้งแต่เด็ก โตมาก็อยากจะหาเติมเต็มให้ตัวเองแล้วเติมให้คนอื่นด้วย]] ก็มีทะเลากกันมาตลอดค่อนข้างแรงขึ้นเรื่อยๆ แรงจนรับไม่ได้ ครั้ง 1 ไล่ให้เราออกจากบ้านแรกๆก็บอกว่าขอร้องให้ออกไปจากชีวิตเขาได้ไหมเขาอยากได้อิสระ จะไม่ให้ลำบากเลยเป็นหนี้อะไร เงินเดือน จะส่งให้ใช้ไม่ขาด เราก็เสียใจมากนะ เราก็บอกเขาว่าเราไม่มีที่ไป บ้านที่เคยอยู่ก็ไม่ใช่ของยายเรา พอเราย้ายออกหลังแต่งงาน ก็ไม่มีพื้นที่ให้เราแล้ว ต้องผ่อนรถอีก เราต้องใช้เงิน บลาๆๆ พอมาขอโทษก็ใจอ่อน  เขาพูดตอนเมา แต่ก็ผ่านไปเกือบสัปดาห์ถึงมาง้อ เราก็ร้องไห้ตลอดทุกวัน แยกห้องกันนอน แต่กลางวันต้องทำงานด้วยกัน ไม่มีใครคุยกันสักคำ แต่กับข้าวก็ยังหาไว้ให้เขากิน 5555 รักเขา  คือ เราไม่มีที่ไป เรามีลูก ตอนนั้น อายุได้ 23  พอทะเลาะกันอีกเรื่องที่เราน้อยใจที่เขาไม่มีเวลาให้จากแต่ก่อนตัวติดกันมเราอยู่ที่นี่ไม่มีเพื่อนเลยสักคน เพราะไม่ค่อยออกจากบ้านมีแต่ลูกค้าเข้ามาหา ยิ่งแฟนนี่ไม่ออกจากบ้านเลย ออกตอนไปกินเหล้ากับเพื่อนในเมือง ต่อมาทะเลาะกันรอบ 2 ก็ขอให้เราออกจากชีวิตเขาไปได้ไหม เดี๋ยวจะซื้อบ้านให้อยู่ไปเลือกเอาเลยเดี๋ยวเขาผ่อนจ่ายให้เอง เราก็แบบเสียใจหนักมาก เขาถามว่ามีความสุขด้วยตัวเองไม่ได้หรอ ทำไมต้องมาเรียกร้องจากเขาด้วย เขาต้องทำงาน (มันเป็นสิ่งที่เขาชอบ เขาเลยอยู่กับมันได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่เบื่อ ) จะให้เขาเลิกงานนี้เพื่อมาใช้ชีวิตแบบเดิม แล้วก็เงินเท่าเดิม ซื้ออะไรก็ไม่ได้มาก หมุนไปหมุนมา ที่ทำอยู่ก็ทำเพื่อครอบครัวนะ จะให้เลืกทำแล้วมาใช้ชีวิตแบบเดิมก็แล้วแต่นะ เราก็อยู่บ้านหลังเดียวกัน เรื่องผู้ ญ ก็ไม่มี จะเป็นอะไรนักหนาไม่มีเวลาให้ตรงไหน  ก็อยู่บ้านเดียวกันตลอด (คือวันนี้คุยกันแค่ เรียก ตัวกินข้าว วันละ 2 มื้อ ก็แค่ไม่กี่คำเขารีบกินรีบไป เพราะกำลังสนุกกับงานและมีเพื่อนใหม่ เวลาไหนที่ไม่ทำงาน เราต่างคนก็ไม่คุยกัน เราก็ไปงอนอะไรไม่รู้อยากให้เขาเริ่มก่อน แต่เขาก็ไม่เริ่ม จนสุดท้าย ผ่านไปหลายๆวันเราอึดอัดมาก เลยคุยกับเขาก่อนไปเลยเบื่อแล้วความรู้สึกแบบนี้) บางทีวันไหนเราหน้าบึ้งแบบไม่ได้ทะเลาะกัน เขาก็บึ้งกลับมาค่ะ ไม่คุยไม่ถามว่าเราเป็นอะไรสักคำ อ่ะพอเราเห็นว่าเขาไม่สนใจเราแถมยังไม่พูดกับเราหน้าก็บึ้งเป็นตูดยิ่งกว่าเรา แต่คุยกับคนอื่น ยิ้มสนุกเฮฮา หัวเราะทั้งวัน  ทีนี่เราก็น้อยใจอีกค่ะ 55555 ก็เลยได้อยู่คยเดียว ด้วยเหตุผลที่เขาเคยบอกว่า ไม่ชอบอะไรแบบนี้ คือแบบจะงอนอะไรกูกูไม่ชอบกูไม่ง้อนะกูรำคาญ กลายเป็นเขาอารมณ์ไม่ดีไปเลยค่ะ โมโหร้าย มีคำด่าออกมาจากปาก เรื่องทั้งหมด แค่เราหน้าบึ้ง หรือบางทีเราพูดเสียงผิดคีย์ไปกระแทกเสียงใส่ ตวัดปลายเสียงแบบดุดัน ทั้งไที่ตอนคบกันเราก็เป็นคนแบบนี้ ขี้เล่นชอบพูดเลียนแบบเสียง พูดล้อเลียนน่ารักๆ เขาก็ชอบนะ ดูเขาก็สนุกไปกับเรา ตัดภาพมาที่ลูกน้องพูดจาหวานหูเพราะพริ้งกริยาดี เขาก็พูดตอบแบบเพราะ เราไม่ได้พูดแย่เสียง-ดันนะคะ แต่คุยกับเจาไม่มีคะขา มันเลยดูไม่หวาน เฮ้ออออ เป็นโทนเสียงไม่หวานใส สรุปก็ต้องไปง้อเขาแทนค่ะ  เฮ้ออ

ทีนี้ ตอนปี 63  เราก็เลยบอกเขาไปว่า ถ้าตัวจะไล่เราอีก ตัวต้องซื้อบ้านให้เราก่อนเราถึงจะยอมออกไปจากบ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้กว้างเราอยู่กับแฟน 2 คนค่ะ มันก็เลยเหงามากๆ เพราะเขาคุยกับเพื่อนทั้งวัน ทั้งคืน  หลังๆทะเลาะกันบ่อย อะไรนิดหน่อยเขาก็หงุดหงืดแล้ว ทั้งๆที่บ้านคนอื่นมองเป็นเรื่องปกติไม่สมควรเอามาโกรธ  ปีนี้เราทะเลาะกันแบบเรื่องคล้ายๆเดิมค่ะ ไม่มีเวลา บวกกับเพื่อนออนไลน์เยอะขึ้นเรื่มเป็นคนดังเริ่มเป็นอาจารย์สอนการเจาะระบบให้คนอื่นๆ คนอื่นนับหน้าถือตา เป็นที่ยอมรับของสังคม จากที่เราเหงาอยู่แล้ว ก็หนักกว่าเดิมอีก เราบอกเขาตอนคบแรกๆแล้วว่าไม่ชอบอยู่คนเดียว บอกมาตลอด บอกเรื่อยยๆกลัวเขาลืม แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเขาไม่สนใจ ทะเลาะกันรอบนี้ ปี 63 เขาก็ไล่เราอีกค่ะ เราก็เลยบอกว่างั้นก็ไปซื้อบ้านให้เค้าสิ แฟนตอบว่า จำได้ไหมตอนมา มาตัวเปล่านะ ตอนไปก็ต้องไปตัวเปล่า กูกับใช้ชีวิตไปด้วยกันไม่ได้หรอก เลิกกันเถอะแล้วออกไป เราสวนกลับเลย กูมาตัวเปล่า แต่กูก็ทำงานเพื่อใช้หนี้ให้ตอนสร้างบ้านหลังนี้มหมดไป หลายแสน ถ้ากูไม่ช่วยใช้หนี้ กูคงมีเงินเก็บหลายแสน เพราะกูก็ทำงานมาหลายปี ชีวิตกูก็พัง เพื่อนก็ไม่มี เพราะมันมักง่ายกูเลยต้องท้อง อนาคตกูที่สดใส ทำชีวิตกูพัง มันก็บอกว่าเราก็ทำชีวิตมันพังเหมือนกัน มันบอกเราอ่ะไม่มีใครชีวิตก็มีแค่ยาย ตอนนี้มีมันที่ดีกับเรา มันให้นึกภาพตามว่าขนาดป่วยกูก็พาไปหาหมอ อยากกินอะไรขอก็พาไปกินตลอด คนอื่นๆมาดีกับแบบนี้ไหม อารมณ์แบบว่า ที่มีเขาอยู่ทุกวันนี้ โชคดี อยู่รู้ตัวไหม เราก็สวนกลับ ก็เป็นผัวกูมั้ยวะ กูก็ดูแลนะ  สรุปเราก็ยังไม่ออกจากบ้านนะ เราไม่มีที่ไป ไม่มีใครเลย เราไม่รู้จะไปยังไง หนี้รถเรา หนี้ กยศ ก็ยังส่งไม่หมด ลูกเราอีก ทางแฟนอ่ะเลี้ยงได้เข้าใจอยู่แต่เราเป็นห่วงเขาไม่อยากให้เขาเติบโตมาเป็นแบบพ่อของเขา ที่มีความคิดตรรกกะกันแปลกๆๆ ทำอะไรเองไม่เป็น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็อดทนไป เราเลยไปบอกยายเราว่าเขาด่าเรานะ ด่าครอบครัวเราด้วย ยายบอกงั้นรอบนี้ก็เลิกเลยเขาก็รับไม่ได้ แต่คือ2-3 วัน เราก็คิดๆอยู่นะว่าเราจะเอายังไงดี เคยอยู่แต่ในเซฟโซน เราก็คิดๆว่าจะเอาของออกไปยังไงดี พอ ผ่านไป 4 วัน เขาก็มาขอโทษอีก ใจอ่อนอีกค่ะ ยกโทษให้ เพราะคำสัญญาที่เข้ามาใหม่ แต่ในหัวก็คิดแต่เรื่องหาทางออกอยู่ตลอด ว่าจะออกไปทำอะไร รายจ่ายต่อเดือนเราเยอะ กลัวไปไม่รอด ชีวิตก็ไม่อยากเป็นหนี้ ก็ใช้ชีวิต แบบนี้มาเรื่อยๆ จนปี 64 คลอดลูกคนที่ 2  ความสัมพันธ์ ก็แย่ไปอีก เราจ้างพี่เลี้ยงเลี้ยงลูก กลายเป็นว่าเขาเห็นเรามีเพื่อนคุยแล้ว ยิ่งห่างออกไปอีกค่ะ เราก็น้อยใจอีก หลังคลอด กลัวเป็นซึมเศร้ามากๆ  เออ แบบ ดูแลกูหน่อยได้ไหม ช่วยเข้าใจความรู้สึกกูบ้างได้มั้ย เขาก็รักลูกเขานะ แต่ก็ไม่ได้อยากดูแล ทางแม่ก็มาข่วยดูแลแทน คราวนี้ คือแบบ ไม่มีเลยจ้าาา ไม่มาใกล้เลยยย โอ้ยยย กูไม่ไหว เขียนไปน้ำตาไหลไป กูเลยคุยกันว่าเรารู้สึกแบบนี้ๆๆนะ เขาก็ตอบมาเหมือนเดิม ทำไมต้องมาขอความรักจากเขา มีความสุขด้วยตัวเองไม่ได้หรอ เราก็ไม่รู้ในมุมมองของเขาเนาะว่าสิ่งที่เราขอมันยากขนาดนั้นเลยหรือ เวลาเขาไปปาตี้กับเพื่อนๆต่างจังหวัด กลัวเขาหลับในเลยไปด้วย พอถึงงานก็จะทิ้งให้เราอยู่คนเดียว ถ้าไป 3 วัน ก็ได้อยู่คนเดียว 3 วัน 3 คืน ไม่เคยแนะนำใครให้รู้จัก ไม่เคยหาข้าวให้กิน ไปแต่ละทีกลับมา เฟล ทุกครั้งเลยค่ะ โดนซ้ำๆจนเข็ดจนเกลียดแฟน จนไม่พูดไม่อะไรด้วยแล้วทุกวันนี้ แบบเดิมค่ะ เราไม่พูดเขาไม่พูด เราไม่สนใจเขาเขาไม่สนใจเรา ไม่เคยมีคำถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า งอนมางอนกลับ ตึงมาตึงกลับ แต่ทุกอย่าง คูน 100 เท่า ไปเลยค่ะ 5555 ประสาทจะกิน  พอมา ปี 65 เอาวะ กัดฟัน ไหนๆก็เป็นแบบนี้ เปลี่ยนเขาไม่ได้ เปลี่ยนตัวเองนี่แหละ ตั้งแต่ ปี 65-66 วันๆไม่เคยคุยกัน ไม่มองหน้ากัน ไปไหนมาไหนคนเดียว เขามีเวลาให้งานของเขาเพื่อนของเขาเสมอ ยกเว้นครอบครัวของเขาเองที่เขาไม่เคยมองมา เขารักลูกนะ แต่ก็ไม่ได้ดูแล เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ชีวิตมันแย่เพราะรักเขาเพราะกลัว ชีวิตที่เหลือก็ไม่อยากเป็นแบบนี้ เอาวะต้องหาทางให้ได้ ตอนนี้ก็จะ 29 แล้ว กลัวมันสายเกินไป

อยากจะถามเพื่อนๆพี่ๆที่คล้ายๆเรา
1.ไม่มีญาติ ไม่มีพี่น้อง ไม่มีเพื่อน
2. มีหนี้สิน รายจ่ายเยอะ
3. กลัวลูกเสียคนเพราะการอบรมเก่าๆ
4. เราไม่สวย อ้วน เป็นคนไม่สนุก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อาจจะเป็น อินโทเวิท ด้วย
5. มีเงินติดตัวนิดหน่อย
6. รายจ่ายต่อเดือน ประมาณ 4-5 หมื่น (ค่ารถ ประกันลูก ซ่อมบำรุงต่างๆ กินอยู่ ให้ยายกิน ค่ารักษายาย)


คำถามคือ
1.ไม่รู้จะต้องวางแผนชีวิตยังไง เราอึดอัดมากจริงๆ
2. บ้านอื่น สามี ภรรยา มีเป็นแบบนี้มั้ย แล้วทำยังไง
3. เรื่องของเรา เป็นเรื่องชีวิตที่ปกติมั้ย ถ้าปกติแล้วรับมือมันยังไงกันคะให้มีความสุข
4. หรือเป็นเรา ใช่มั้ยคะ ที่แปลกเอง งี่เง่า หาความสุขด้วยตัวเองไม่ได้ หรือเป็นโรคซึมเศร้าไหมคะแบบนี้  (เราไม่ชอบอยู่คนเดียวจริงๆค่ะ แต่ก็พยายามอย่างหนักมาก ได้ลองใช้ชีวิตคนเดียวบ่อยๆ ยิ่งรู้สึกไม่ชอบค่ะ 555)


ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ
ขอบคุณคำตอบล่วงหน้าด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่