JJNY : ดร.อนันต์ เผยทีมวิจัย│หมอมนูญ เปิดข้อมูล│เสียงสะท้อนนโยบายหาเสียง│แม่ทัพนอร์เวย์คาด ทหารรัสเซียไม่ตายก็เจ็บ 1.8

ดร.อนันต์ เผยทีมวิจัย พบปอดอักเสบดับ 27 ราย เคยติดโควิด แต่ตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7471762

ดร.อนันต์ เผยทีมวิจัยอิตาลี-อังกฤษ พบผู้เสียชีวิตจากปอดอักเสบ 27 ราย มีประวัติติดโควิด แต่ตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อ โดยไวรัสยังติดเชื้อ เพิ่มจำนวนอยู่ในเซลล์

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์ในเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” ใจความว่า
 
ทีมวิจัยในอิตาลี และ UK ทำการตรวจสอบชิ้นส่วนเนื้อเยื่อปอด ของผู้เสียชีวิตจากอาการปอดอักเสบ จำนวน 27 ราย โดยผู้เสียชีวิตทุกราย มีประวัติการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 มาทุกราย และตรวจไม่พบเชื้อไวรัสด้วยวิธี RT-PCR จากตัวอย่างที่เก็บจาก swab หรือน้ำล้างปอด แล้ว โดยผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา (11-300 วัน หลังจากตรวจเชื้อเป็นลบ)
 
โดยทีมวิจัยรายงานว่า เซลล์ในเนื้อเยื่อปอดหลายตำแหน่ง ยังสามารถตรวจพบการสร้างโปรตีนของไวรัส (spike และ nucleocapsid) ได้ ซึ่งทีมวิจัยเชื่อว่า ถึงแม้การตรวจด้วยวิธี RT-PCR หลายครั้ง จะบ่งชี้ว่าไม่มีสารพันธุกรรมของไวรัสที่ตรวจพบได้ แต่ไวรัสยังสามารถติดเชื้อ และเพิ่มจำนวนได้อยู่ในเซลล์ หรือส่วนของปอดที่การเก็บตัวอย่างไปไม่ถึง
 
ทีมวิจัยเชื่อว่า ไวรัสที่ติดเข้าสู่เซลล์ปอดในผู้ป่วยบางราย อาจจะสามารถสร้างปัญหาในระยะยาวหลังการตรวจเชื้อไวรัสด้วยวิธีมาตรฐานไม่พบ ซึ่งอาจอยู่ในสภาวะ Long COVID ที่พบได้ในผู้ป่วย ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่ได้ระบุว่า ไวรัสใช้กลไกใดในการหนีภูมิคุ้มกันในร่างกายได้นานขนาดนั้น และการสร้างความเสียหายในเซลล์ปอด จะเป็นสาเหตุหลักของอาการปอดอักเสบที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหรือไม่
 
https://www.facebook.com/anan.jongkaewwattana/posts/pfbid02m4peg1Z3Po7aHuXcN5R67yL9V8C6mCocS4EcUhhAr7p9umHLBe5tTbMcYEWcA7zel
 


หมอมนูญ เปิดข้อมูล รพ.วิชัยยุทธ พบสารพัดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจกลับมาระบาดทุก ปท.หลังปลดล็อกดาวน์ ไม่จำกัดการเดินทาง
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3784934

หมอมนูญ เปิดข้อมูล รพ.วิชัยยุทธ พบสารพัดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจกลับมาระบาดทุก ปท.หลังปลดล็อกดาวน์ ไม่จำกัดการเดินทาง
 
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า

ช่วง 2 ปีแรกหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสตัวอื่นๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากที่มีการปลดล็อกดาวน์ ไม่จำกัดการเดินทางทั้งใน และนอกประเทศ เด็กไปโรงเรียนได้ตามปกติ คนใส่หน้ากากอนามัยน้อยลง เชื้อไวรัสทางเดินหายใจต่างๆ เริ่มกลับมาแพร่ระบาดใหม่ในทุกประเทศ
 
ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2565 พบเชื้อไวรัสโควิด-19 RSV ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสชนิดอื่นๆ จากการตรวจ ATK ตรวจแอนติเจน และรหัสพันธุกรรม RT-PCR ดังนี้ :
 
เชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 5,904 ราย
เชื้อไวรัส RSV 343 ราย
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 313 ราย
เชื้อ Rhinovirus 45 ราย
เชื้อโคโรนาไวรัส OC43 จำนวน 27 ราย
เชื้อ Human metapneumovirus 24 ราย
เชื้อ Parainfluenza ไวรัส 19 ราย

การใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่มีผู้คนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี เวลาเดินทางบนระบบขนส่งสาธารณะ ใช้บริการในโรงพยาบาล เวลาตัวเองมีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เป็นสุขนิสัยที่ดี ช่วยลดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจได้ทุกชนิด

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02LvK3azqDywVsL9NsEqcZv9X5L9Faz1y5p1YAVadtJszASiegsszbXEsgWrhWUXo4l&id=100066692243273



เสียงสะท้อนนโยบายหาเสียง ต้องทำได้จริงไม่ใช่‘ขายฝัน’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3784744

หมายเหตุ – ความเห็นนักธุรกิจและหอการค้าจังหวัดต่างๆ ต่อนโยบายพรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีความเหมาะสมหรือไม่ และมีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง
 
ธนวัฒน์ พูนศิลป์
ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา

การนำเสนอนโยบายในการหาเสียงของพรรค การเมืองต่างๆ ที่มีอย่างหลากหลาย เกือบทุกพรรคการเมืองที่เตรียมที่จะส่งว่าที่ผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ส.ส.ในสนามเลือกตั้งของภาคใต้ โดยส่วนตัวเท่าที่ติดตามเห็นการนำเสนอนโยบายของพรรค การเมืองต่างผ่านสื่อรวมถึงแผ่นป้ายหาเสียงแนะนำตัวนั้น ยังไม่มีนโยบายไหนเข้าตา จนถึงขนาดเห็นด้วย หรือรู้สึกมีส่วนร่วม หรือพึงพอใจ เนื่องจากพบว่านโยบายในการหาเสียงนั้นยังเป็นการหาเสียงเป็นนามธรรม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหายาเสพติด การปรับขึ้นค่าแรง การแก้ปัญหาหนี้สิน เรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตร การสร้างงาน สร้างคน สร้างรายได้ ทั้งหมดมองว่าเป็นนโยบายเป็นนามธรรม ไม่มีอะไรจับต้องได้ มีแต่การนำเสนอนโยบาย ไม่เห็นว่าแนวปฏิบัติจะสามารถทำได้อย่างไร
 
นโยบายที่นำเสนอกันนั้น มองว่าเป็นการนำปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันมาเป็นการหาเสียง เป็นการเขียนนโยบายในภาพกว้าง ขายฝัน ไม่สามารถยืนยันการปฏิบัติได้จริง ตนว่ายังไม่มีนโยบายจะสามารถทำได้ชัด ในนโยบายเขียนออกมาจะต้องปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายขายฝันเพื่อหาเสียง นโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ออกมาแล้วนั้น เป็นการเขียนขึ้นมาเพื่อหาเสียงกับคนในระดับกลางถึงล่าง อาจจะไม่ได้วิเคราะห์อะไรมาก เมื่อประชาชนเลือกเข้าไปก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามนโยบายที่เขียนเอาไว้ ครบวาระ 4 ปี ก็กลับมาเขียนนโยบายจากปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นมานำเสนอกับประชาชนใหม่ ไม่ได้เกิดประโยชน์มากนัก

สิ่งที่พรรคการเมืองควรทำนั้น การเขียนนโยบายไม่ว่าจะเรื่องใด ก็ควรจะมีแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้นโยบายนั้นสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเห็นผลในช่วงเวลากำหนด ควรจะมีการเขียนนโยบาย พร้อมแผนยุทธศาสตร์จะสามารถปฏิบัติเพื่อให้นโยบายนั้นๆ เป็นรูปธรรมได้ หากมีพรรคการเมืองที่เขียนนโยบายที่ชัดเจนพร้อมแนวปฏิบัติเป็นไปได้ เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติในระยะยาว แทนที่จะนำเสนอนโยบายขายฝันเช่นในปัจจุบัน
 
จุลนิตย์ วังวิวัฒน์  
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
 
พรรคการเมืองชูนโยบายหาเสียง เพื่อเรียกความนิยมการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า พรรคการเมืองประกาศนโยบายต่อสาธารณชนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องประชานิยมและรัฐสวัสดิการ ยังไม่ใช่นโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจแท้จริง ยังไม่ตอบสนอง หรือตอบโจทย์ผู้ประกอบการ นักลงทุนมากนัก เพราะนโยบายดังกล่าวพุ่งเป้า เพื่อเรียกคะแนนหาเสียงให้กับพรรค และผู้สมัครเท่านั้น ก่อนนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล และได้ผู้นำประเทศคนใหม่
 
สังเกตนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) ค่าจ้างวันละ 600 บาท ภายในปี 2570 เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และทักษะฝีมือแรงงาน ดังนั้นรัฐต้องพัฒนาการศึกษา พร้อมยกระดับทักษะฝีมือ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการพร้อมจ่ายค่าจ้างดังกล่าว แต่เป็นห่วงแรงงานต่างชาติได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว ดังนั้นต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน ว่ามีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
 
ส่วนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บัตรคนจนคนละ 700 บาท/เดือน ต้องดูว่ากระทบระบบการเงินการคลัง หนี้สาธารณะประเทศ และอัตราเงินเฟ้อหรือไม่ มีหลายประเทศใช้นโยบายดังกล่าวมีปัญหา หากฐานะการเงินการคลังอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวได้ ถ้าฐานะการเงิน การคลัง มีเสถียรภาพสามารถทำได้เช่นกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก

ด้านพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอนโยบายรัฐสวัสดิการ ต้องใช้งบประมาณมากนั้น ต้องดูว่าจัดเก็บภาษีได้มากน้อยแค่ไหนและนำภาษีไปใช้ในด้านไหน เกิดประโยชน์และคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ ขณะเดียวกันนักธุรกิจต่างชาติถือวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ได้เสียภาษีดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียเปรียบ เพราะต้นทุนสูงกว่า ทำให้สินค้าและบริการสูงขึ้นด้วย

ดังนั้นพรรคการเมือง ต้องปรับนโนยาย เพื่อตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น อาทิ การเพิ่มรายได้ชนชั้นกลาง และล่าง ลดหนี้ครัวเรือน และหนี้สาธารณะประเทศ พร้อมส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ เพื่อลดต้นทุนผลิต ประกอบการต่ำลง โดยเฉพาะค่าจ้าง และพลังงาน ถือเป็นต้นทุนการผลิต 20-30% ของต้นทุนทั้งหมด

นอกจากนี้ รัฐต้องเปิดตลาดส่งออกใหม่ เช่น ยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ แอฟริกา ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากบางประเทศมีกำลังซื้อสูงขึ้น ดังนั้นต้องลดขั้นตอนส่งออก การเก็บภาษี อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการธุกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เดินไปข้างหน้าด้วย
 
สิ่งที่เป็นห่วงและกังวลมากที่สุดคือ การทุจริต หรือคอร์รัปชั่น เกี่ยวกับการขออนุญาตประกอบการ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ หรือเงินใต้โต๊ะของเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนแฝง ส่งผลให้สินค้าและบริการสูงขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งเกิดการลงทุนข้ามชาติมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจสีเทา และอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งผลต่อความมั่นคง และเศรษฐกิจประเทศในอนาคต ดังนั้นรัฐต้องแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ใช่นโยบายแก้ทุจริต แต่ทำไม่ได้ ส่งผลให้เกิดทุจริตในวงกว้างมากขึ้น จึงไม่เกิดประโยชน์อะไร
 
ภาพรวมนโยบายพรรค ต้องเป็นนโยบายปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายเพ้อฝัน ทำไม่ได้ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายภายหลัง ที่สำคัญประชาชนต้องรับรู้ มีส่วนร่วม ตรวจสอบนโยบายได้ว่ามีผลดี ผลเสีย ใครได้ประโยชน์อย่างไร ต้องรอดูอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ว่าพรรคการเมือง จะชูนโยบายเศรษฐกิจทิศทางไหน เพื่อตอบโจทย์แก้ปัญหาปากท้องประชาชนอย่างไร เป็นเรื่องน่าติดตาม ก่อนใช้ดุลพินิจ และออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งหน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่