สวัสดีค่ะ วันนี้ขอระบายหน่อย เนื้อหาอาจจะดูความคิดเด็กน้อย ไม่ได้มีเหตุผลจะต่อว่าบุพการี รึคนในครอบครัวแต่อย่างใดนะคะ ขอโทษในที่นี้ไว้ก่อนค่ะ
เราเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ จนทุกวันนี้ ยังไม่เลิกเกลียดชังกันเลย เราอยู่กับย่า ป๊าม๊า (มีศักดิ์เป็นลุงกับป้า) และลูกพี่ลูกน้อง พ่อกับแม่มีสามีภรรยาใหม่กันหมดแล้ว แม่กับคนใหม่ มีลูกด้วยกัน1คน พ่อไปอยู่กรุงเทพ แม่ไปอยู่บ้านสามีใหม่ ช่วงนี้พ่อติดการพนันเมื่อปีที่แล้ว เป็นหนี้เขา ไปกู้หนี้นอกระบบมา พ่อเราทำงานเงินเดือนต่อเดือนได้ประมาณ2หมื่นต้นๆ เงินเดือนออก3-4 วันก็โทรมาขอตังค์ย่าแล้วค่ะ ซึ่งติดการพนันหนักเลย บางครั้งก็ทักมาขอตังค์เราด้วย เหนื่อยมากๆค่ะ ทางย่าหนักใจมาก ม๊า(พี่สาวแท้ๆของพ่อ) ก็พูดจนปากเปียกปากแฉะ ให้เลิกก็ไม่เลิก แต่พ่อก็ไม่ฟัง พอมาหลังโควิด เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็ต้องเร่งทำงานหาเงินไปใช้หนี้ให้พ่อ ทางเราแอบไปร้องไห้ทุกวัน เหนื่อยมากจริงๆค่ะ สุดท้ายก็ขายทองไปใช้หนี้พ่อจนหมด
ส่วนเรื่องแม่ เรื่องส่งตังค์มาให้ก็ไม่เคย แม่มีลูกใหม่ก็ต้องดูแลน้องเข้าใจอยู่ค่ะ แม่ชอบมาเล่าเรื่องแย่ๆของพ่อเมื่อตอนยังอยู่ด้วยกันให้ฟัง ชอบนินทาย่าให้เราฟัง ฟังจนบอกให้แม่เลิกเล่า แม่ก็ไม่ยอม ทางตายายที่นู่นก็สุขภาพไม่ดีนัก เจ็บป่วยบ่อย เงินรักษาก็ไม่ค่อยมี ทางชนบทโรงพยาบาลก็หายาก เลยลำบากเรื่องนี้
ส่วนเราก็น้อยใจหลายๆอย่างที่นี่เหมือนกัน ประถมตอนนั้นม๊าป๊ามีตังค์ส่งไปเรียนเอกชน เพราะช่วงนั้นไม่มีโควิดพอส่งเรียนได้ รู้สึกว่าสังคมตอนนั้น จำเพื่อนที่น่ารักๆได้หลายคนเลยค่ะ แต่พอมีโควิดมานี้ ม๊าต้องส่งไปเรียนรร.รัฐ ซึ่งไม่อยากไปเลย ไปไหนก็มองเราแปลกๆ สูบบุหรี่ที่ห้องน้ำบ้างแหละ แอบโดดเรียนกันบ้างแหละ มีทั่วโรงเรียนเลย เราต้องซึมซับกับที่นี่6ปีเต็มๆ เพื่อนในห้องคบกันอยู่3คน งานกลุ่ม5-6คน ก็เป็นเศษเขาตลอด แต่พอได้ทำงานกลุ่มจริง เราต้องแบกค่าอุปกรณ์แบกทุกอย่าง เหนื่อยมากค่ะ เคยขอม๊าว่าถ้าม.4 ขอไปเอกชนได้ไหม ไม่ไหวจริงๆ ม๊าบอกว่า เอกชนค่าเทอมมันแพง ส่งไม่ไหว เราบอกไปว่า ค่าเทอมมัธยมเอกชน 5,000ต้นๆต่อเทอมก็มี สังคมโอเคกว่าที่นี่ด้วย ม๊าบอกอย่าเรื่องเยอะ ไม่ส่งไปเรียนโรงเรียนวัดก็ดีแล้ว ซึ่งประถมเรากับพี่เรียนเอกชน ค่าเทอมสองคนรวมกันก็หมื่นปลายๆแล้วค่ะ ตอนนั้นยังส่งไหวก็น้อยใจไม่อยากต่อที่นี่ ต้องอยู่กับพวกนี้อีกนานแค่ไหน ม๊าบอกว่า ตอนนั้นเศรษฐกิจไม่เหมือนตอนนี้ เรามีที่เรียนก็ดีแล้ว ไหนค่ารถค่าบ้านค่าไฟค่าสารพัด มันเยอะ ซึ่งเราก็แอบคิด ทำไมไม่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อม แต่ก็เข้าใจค่ะ ม๊าป๊าไม่ได้คลอดเรา แต่แกเลี้ยงเรามาทั้งชีวิต
เขาหวงเรามากค่ะ ไปไหนกับใครไม่เคยได้ งานกลุ่มไม่ให้ไปบ้านใครทั้งนั้น และไม่ให้คนอื่นมาบ้านด้วย จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่เคยได้ไปเลย ป๊าบอกว่าถ้าป๊ามีตังค์ป๊าไม่ส่งลูกเรียนรัฐหรอก ป๊าส่งไปเรียนรร.ดังๆแล้ว แต่มันติดที่เงิน ป๊าขอโทษลูกมากๆ เราเสียใจอยู่ที่ไม่ได้มีแบบเขา ไม่พร้อมหลายๆอย่าง ต้องซึมซับกับสงคมรร.รัฐไปอีกนานแค่ไหน ม๊าบอกว่าเรียนที่ไหนก็เรียนไปค่าใล้จ่ายไปใช้มหาลัยทีเดียว พยายามคิดตอนนี้ว่าต้องต้งใจเรียน แต่มันไม่ไหวจริงๆ ไม่ชอบที่ต้องอยู่ในรั้วโรงเรียนที่มีสังคมอะไรก็ไม่รู้ มันน่าน้อยใจนะคะ
เคยร้องไห้อยากเกิดในครอบครัวที่เขาพร้อมทุกอย่าง
เรื่องเงินและเรื่องบริหารชีวิตและให้ความรักแก่ลูก
เครียดบางครั้งอยากตายเกิดใหม่ก็มี
ถ้าในเนื้อหามีความคิดเด็กขอโทษนะคะ รับฟังหมด แค่น้อยใจตัวเองที่เกิดมาแบบนี้ สงสารตัวเองเหมือนกันอยากหาเงินไปใช้ชีวิตที่ตัวเองใฝ่ฝัน 🙏🏻🙏🏻
อยากเกิดในครอบครัวที่พร้อม
เราเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ จนทุกวันนี้ ยังไม่เลิกเกลียดชังกันเลย เราอยู่กับย่า ป๊าม๊า (มีศักดิ์เป็นลุงกับป้า) และลูกพี่ลูกน้อง พ่อกับแม่มีสามีภรรยาใหม่กันหมดแล้ว แม่กับคนใหม่ มีลูกด้วยกัน1คน พ่อไปอยู่กรุงเทพ แม่ไปอยู่บ้านสามีใหม่ ช่วงนี้พ่อติดการพนันเมื่อปีที่แล้ว เป็นหนี้เขา ไปกู้หนี้นอกระบบมา พ่อเราทำงานเงินเดือนต่อเดือนได้ประมาณ2หมื่นต้นๆ เงินเดือนออก3-4 วันก็โทรมาขอตังค์ย่าแล้วค่ะ ซึ่งติดการพนันหนักเลย บางครั้งก็ทักมาขอตังค์เราด้วย เหนื่อยมากๆค่ะ ทางย่าหนักใจมาก ม๊า(พี่สาวแท้ๆของพ่อ) ก็พูดจนปากเปียกปากแฉะ ให้เลิกก็ไม่เลิก แต่พ่อก็ไม่ฟัง พอมาหลังโควิด เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็ต้องเร่งทำงานหาเงินไปใช้หนี้ให้พ่อ ทางเราแอบไปร้องไห้ทุกวัน เหนื่อยมากจริงๆค่ะ สุดท้ายก็ขายทองไปใช้หนี้พ่อจนหมด
ส่วนเรื่องแม่ เรื่องส่งตังค์มาให้ก็ไม่เคย แม่มีลูกใหม่ก็ต้องดูแลน้องเข้าใจอยู่ค่ะ แม่ชอบมาเล่าเรื่องแย่ๆของพ่อเมื่อตอนยังอยู่ด้วยกันให้ฟัง ชอบนินทาย่าให้เราฟัง ฟังจนบอกให้แม่เลิกเล่า แม่ก็ไม่ยอม ทางตายายที่นู่นก็สุขภาพไม่ดีนัก เจ็บป่วยบ่อย เงินรักษาก็ไม่ค่อยมี ทางชนบทโรงพยาบาลก็หายาก เลยลำบากเรื่องนี้
ส่วนเราก็น้อยใจหลายๆอย่างที่นี่เหมือนกัน ประถมตอนนั้นม๊าป๊ามีตังค์ส่งไปเรียนเอกชน เพราะช่วงนั้นไม่มีโควิดพอส่งเรียนได้ รู้สึกว่าสังคมตอนนั้น จำเพื่อนที่น่ารักๆได้หลายคนเลยค่ะ แต่พอมีโควิดมานี้ ม๊าต้องส่งไปเรียนรร.รัฐ ซึ่งไม่อยากไปเลย ไปไหนก็มองเราแปลกๆ สูบบุหรี่ที่ห้องน้ำบ้างแหละ แอบโดดเรียนกันบ้างแหละ มีทั่วโรงเรียนเลย เราต้องซึมซับกับที่นี่6ปีเต็มๆ เพื่อนในห้องคบกันอยู่3คน งานกลุ่ม5-6คน ก็เป็นเศษเขาตลอด แต่พอได้ทำงานกลุ่มจริง เราต้องแบกค่าอุปกรณ์แบกทุกอย่าง เหนื่อยมากค่ะ เคยขอม๊าว่าถ้าม.4 ขอไปเอกชนได้ไหม ไม่ไหวจริงๆ ม๊าบอกว่า เอกชนค่าเทอมมันแพง ส่งไม่ไหว เราบอกไปว่า ค่าเทอมมัธยมเอกชน 5,000ต้นๆต่อเทอมก็มี สังคมโอเคกว่าที่นี่ด้วย ม๊าบอกอย่าเรื่องเยอะ ไม่ส่งไปเรียนโรงเรียนวัดก็ดีแล้ว ซึ่งประถมเรากับพี่เรียนเอกชน ค่าเทอมสองคนรวมกันก็หมื่นปลายๆแล้วค่ะ ตอนนั้นยังส่งไหวก็น้อยใจไม่อยากต่อที่นี่ ต้องอยู่กับพวกนี้อีกนานแค่ไหน ม๊าบอกว่า ตอนนั้นเศรษฐกิจไม่เหมือนตอนนี้ เรามีที่เรียนก็ดีแล้ว ไหนค่ารถค่าบ้านค่าไฟค่าสารพัด มันเยอะ ซึ่งเราก็แอบคิด ทำไมไม่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อม แต่ก็เข้าใจค่ะ ม๊าป๊าไม่ได้คลอดเรา แต่แกเลี้ยงเรามาทั้งชีวิต
เขาหวงเรามากค่ะ ไปไหนกับใครไม่เคยได้ งานกลุ่มไม่ให้ไปบ้านใครทั้งนั้น และไม่ให้คนอื่นมาบ้านด้วย จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่เคยได้ไปเลย ป๊าบอกว่าถ้าป๊ามีตังค์ป๊าไม่ส่งลูกเรียนรัฐหรอก ป๊าส่งไปเรียนรร.ดังๆแล้ว แต่มันติดที่เงิน ป๊าขอโทษลูกมากๆ เราเสียใจอยู่ที่ไม่ได้มีแบบเขา ไม่พร้อมหลายๆอย่าง ต้องซึมซับกับสงคมรร.รัฐไปอีกนานแค่ไหน ม๊าบอกว่าเรียนที่ไหนก็เรียนไปค่าใล้จ่ายไปใช้มหาลัยทีเดียว พยายามคิดตอนนี้ว่าต้องต้งใจเรียน แต่มันไม่ไหวจริงๆ ไม่ชอบที่ต้องอยู่ในรั้วโรงเรียนที่มีสังคมอะไรก็ไม่รู้ มันน่าน้อยใจนะคะ
เคยร้องไห้อยากเกิดในครอบครัวที่เขาพร้อมทุกอย่าง
เรื่องเงินและเรื่องบริหารชีวิตและให้ความรักแก่ลูก
เครียดบางครั้งอยากตายเกิดใหม่ก็มี
ถ้าในเนื้อหามีความคิดเด็กขอโทษนะคะ รับฟังหมด แค่น้อยใจตัวเองที่เกิดมาแบบนี้ สงสารตัวเองเหมือนกันอยากหาเงินไปใช้ชีวิตที่ตัวเองใฝ่ฝัน 🙏🏻🙏🏻