ปฏิจจสมุปบาทเกิดทีละวงหรือเกิดพร้อมกันทีเดียวหลายวง

ปฏิจจสมุปบาทในแบบขณะจิต หรือขณะจิตเดียวอะไรเนี่ย มีตัวอย่างให้ดูไหมครับ จากอภิธรรมขอสักตัวอย่างหนึ่ง ถ้ามาจากพระสูตรขอแบบที่เริ่มด้วย พระพุทธเจ้าตรัสว่า ...เราจักแสดงปฎิจจสมุปปบาท ...แล้วแสดงไม่ครบ

จากที่สนทนา ที่คุณ 8284111 กล่าวว่า "ข้ามภพข้ามชาติ" ไปไม่ได้เลย ไม่ว่ากรณึใดๆ ในแง่ไหนๆ ซึ่งปฏิเสธอภิธรรมปิฏกและอรรถกถา ที่คุณ 8284111 กล่าวในกระทู้อื่นๆ ที่ตัดมาในประเด็นหลักสนทนา...

...การตีความเอาเองด้วยการใช้จินตนาการ นึกๆไป จะเกิดความ วิปลาส หลงผิด สติปัญญาเลอะเทอะ ไปได้ง่ายๆ แบบกู่ไม่กลับ เช่น บางคนที่เข้าใจว่า มีจิตเข้าไปอยู่ในนิพพาน ได้ .. โดยตีความเอาจากสำนวนโวหาร อุปมาอุป

แปลบาลีเป็นไทยจากdeep seek ขอแปลส่วนนี้ซึ่งเป็นพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนท่านพาหิยะให้ครับ ข้อความภาษาบาลีต้นฉบับ: ทุติยมฺปิ โข ภควา พาหิยํ ทารุจีริยํ เอตทโวจ อกาโล โข ตาว พาหิย อนฺตรฆรํ ปวิ

สภาวะ ความเป็นจริง คือ อนุภาคเกิดดับ คือ การปรุงแต่งก่อสร้างของอนุภาคสสาร และ การเลิกปรุงแต่งก่อสร้างของอนุภาคสสาร สสารนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็มี ดับไปเองตลอดเวลา เพราะไม่มีเหตุปัจจัยให้เกิดอีก คว

วิญญานะปัจจะยานามะรูปัง พระพุทธเจ้าเทศนาประโยคปฏิจจสมุปบาทอย่างนี้แล้ว เข้าใจได้อย่างไรกันบ้างโปรดอธิบาย ----- คือเรียนแล้วเกิดถามตนเองว่า ถ้าคำถามแบบนี้จะตอบกันยังไง ----- ตอบกันตามสบายครับ

https://www.youtube.com/watch?v=L4jX_0IVtYM ประมาณนาทีที่ 15 เป็นต้นไป

ai ได้ให้ข้อมูลกลับมา โดยไม่มีข้อความปฏิเสธ ดังนี้ สภาวะความเป็นจริงคือ การเกิดขึ้นและดับไปของอนุภาค หรือที่เรียกว่าอณู เป็นกระบวนการ การปรุงแต่ง (เกิด) และการเลิกปรุงแต่ง (ดับ) ข

กสฺส  นุ  โข  นาม  ตฺวํ  โมฆปุริส  มยา  เอวํ  ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสิ ? นนุ    มยา  &nb