ผมซื้อห้องชุดจากโครงการอสังหาชื่อดังมูลค่า 14.5 ล้านบาท ผ่อนดาวน์ผ่านธนาคารจนครบทุกงวดเป็นเวลาเกือบ 3 ปีโดยไม่เคยผิดนัดเป็นเงินเกือบสองล้านบาท โครงการทำการส่งจดหมายมานัดหมายให้ไปตรวจรับห้องในวันที่ 22-23 ต.ค. 65 และแจ้งว่าต้องการโอนในวันที่ 30 พ.ย.65 แต่เนื่องจากผมติดธุระต้องไปต่างจังหวัดและได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้านานแล้ว จึงแจ้งขอให้เจ้าหน้าที่โครงการนัดวันตรวจรับห้องมาใหม่ ซึ่งนับจากวันที่แจ้งก็ไม่เคยได้รับการติดต่อมาอีกเลยทั้งทางจดหมายหรือโทรศัพท์ แต่ทางผมเองก็ยังวางใจเพราะเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเราจ่ายเงินดาวน์ครบแล้วคงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ก็ได้เดินทางเข้าไปตามที่โครงการหลังจากกลับมาและได้รับการแจ้งว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปนัดใหม่
จนวันที่ 8 ธ.ค. 66ที่ผ่านมาพาครอบครัวไปที่โครงการโดยมีจุดประสงค์ที่จะให้พ่อแม่ได้ดูห้องชุดที่ดาวน์ไว้ และเพื่อตามเรื่องเนื่องจากเห็นว่านานแล้วควรทำการโอนเสียที แต่ปรากฎว่า ทางโครงการแจ้งว่าเนื่องจากผมไม่ได้ไปทำการโอนในวันที่ 30 พ.ย. 65 โครงการจึงทำการยกเลิกสัญญาและขายห้องชุดของเราไปแล้ว
ผมเองตกใจมากเพราะความตั้งใจอยากได้ห้องของโครงการซึ่งอยู่ในทำเลที่ดีและติดแม่น้ำ เป็นห้องที่เตรียมไว้สำหรับอนาคตของลูก จึงได้ทำการสอบถามถึงสาเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับการอธิบายได้แต่คำตอบว่าเราผิดนัดเอง และทางนั้นมีจดหมายจากสำนักงานที่ดินยืนยันว่าเราไม่ได้ไป โดยผมมีโอกาสเห็นและถ่ายรูปจดหมายนั้นมา มีความผิดปกติมากเพราะไม่ระบุชื่อของบุคคลที่เป็นตัวแทนบริษัทที่ไปทำเรื่องรวมถึงเนื้อความในจดหมายแจ้งเพียงว่าเจ้าหน้าที่โครงการไปในวันโอนและไม่พบผมจึงขอแจ้งว่าผมผิดนัด
เจ้าหน้าที่โครงการยังยืนยันว่าทำถูกต้องทุกอย่าง และได้ใช้หนังสือจากสำนักงานที่ดินในการยกเลิกสัญญาของผม รวมถึงไม่มีคำตอบถึงเรื่องเงินเกือบสองล้านที่ผมชำระไว้ ทางผมเองได้แต่แจ้งว่าวันที่ 30 พ.ย. ไม่เคยมีคนโทรมายืนยันทำการโอน รวมทั้งโดยปกติการจะโอนต้องมีการติดต่อเรื่องสินเชื่อธนาคารคงไม่ใช่อยู่ๆจะไปทำการโอนได้เลยโดยไม่ได้เตรียมตัว
เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการผมได้ทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวันรวมทั้งแจ้งผ่านช่องทางติดต่ออื่นๆทุกทางที่ทางบริษัทมี รวมทั้งช่องทางแจ้งทุจริต แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จนสุดท้ายผมปรึกษาทนายและพบข้อพิรุธที่โครงการเป็นฝ่ายผิดสัญญาเนื่องจากขายห้องชุดผมไปโดยไม่ได้มีการทำการยกเลิกสัญญา โดยสัญญาระบุว่าจะขายได้ต่อเมื่อมีหนังสือยกเลิกสัญญามาถึงผม และจะขายได้หลังจาก 30 วันเมื่อได้รับการยกเลิกสัญญาแล้ว ซึ่งดูจากระยะเวลาจากวันที่ 30 พ.ย. 65 จนถึงวันที่ผมทราบเรื่องในวันที่ 8 ธ.ค. 66 แล้วมีความผิดปกติมาก ผมพยายามติดต่อทุกทางจนได้ช่องทางไปยังผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ในที่สุดผมก็ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ยอมรับในความผิดพลาด โดยเสนอทางเลือกจะเปลี่ยนห้องให้โดยไม่ได้แจ้งว่าห้องใหม่จะมีมูลค่าเท่าไหร่ หรือทางเลือกจะเก็บเงินให้เราอีก 3 ปีเผื่อเรามีโครงการอื่นที่สนใจจะทำการหักเงินส่วนต่างนี้ให้ ซึ่งทางผมเองยืนยันว่าไม่พอใจกับสองทางเลือกนี้
จนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโครงการโทรมาขอโทษ และแจ้งให้ผมเข้าไปเจรจา รวมทั้งให้เราเสนอความต้องการของเราเข้าไปเพื่อเสนอผู้บริหารทำการชดเชย ซึ่งผมแจ้งไปว่าเราไม่ต้องการเปลี่ยนห้อง ถ้าให้ห้องเดิมไม่ได้ขอให้คืนเงินพร้อมค่าชดเชย เจ้าหน้าที่จึงให้เราทำจดหมายแจ้งความต้องการเข้าไป ซึ่งผมก็แจ้งไปว่าต้องการเงินจองและเงินดาวน์คืน พร้อมดอกเบี้ยตามกฏหมาย รวมถึงค่าเสียโอกาสเป็นเงินส่วนต่างตามมูลค่าของห้องแบบเดียวกันที่โครงการขายในราคาปัจจุบัน
จนวันนี้ทางโครงการโทรมาแจ้งว่าความต้องการทั้งหมดไม่ได้รับการอนุมัติ โครงการยืนยันที่จะคืนเพียงเงินจองและเงินดาวน์ ไม่มีทั้งดอกเบี้ยและค่าชดเชยใดๆทั้งสิ้น ซึ่งผมเองมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากความผิดพลาดที่ดูไม่โปร่งใสนักของโครงการ และจากการกระทำทั้งหมดผมไม่รู้สึกถึงเจตนาที่ทางโครงการรู้สึกผิดหรืออยากแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ จึงอยากขอความเห็นเพื่อนๆสมาชิกว่าใครเคยโดนโครงการอสังหาทำในลักษณะนี้ หรือเราพอทำอะไรได้บ้างไหมครับ
ห้องชุดที่ผ่อนดาวน์ครบแต่ถูกโครงการนำไปขายต่อให้คนอื่นและไม่รับผิดชอบ เจอแบบนี้ทำยังไงดีครับ
จนวันที่ 8 ธ.ค. 66ที่ผ่านมาพาครอบครัวไปที่โครงการโดยมีจุดประสงค์ที่จะให้พ่อแม่ได้ดูห้องชุดที่ดาวน์ไว้ และเพื่อตามเรื่องเนื่องจากเห็นว่านานแล้วควรทำการโอนเสียที แต่ปรากฎว่า ทางโครงการแจ้งว่าเนื่องจากผมไม่ได้ไปทำการโอนในวันที่ 30 พ.ย. 65 โครงการจึงทำการยกเลิกสัญญาและขายห้องชุดของเราไปแล้ว
ผมเองตกใจมากเพราะความตั้งใจอยากได้ห้องของโครงการซึ่งอยู่ในทำเลที่ดีและติดแม่น้ำ เป็นห้องที่เตรียมไว้สำหรับอนาคตของลูก จึงได้ทำการสอบถามถึงสาเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับการอธิบายได้แต่คำตอบว่าเราผิดนัดเอง และทางนั้นมีจดหมายจากสำนักงานที่ดินยืนยันว่าเราไม่ได้ไป โดยผมมีโอกาสเห็นและถ่ายรูปจดหมายนั้นมา มีความผิดปกติมากเพราะไม่ระบุชื่อของบุคคลที่เป็นตัวแทนบริษัทที่ไปทำเรื่องรวมถึงเนื้อความในจดหมายแจ้งเพียงว่าเจ้าหน้าที่โครงการไปในวันโอนและไม่พบผมจึงขอแจ้งว่าผมผิดนัด
เจ้าหน้าที่โครงการยังยืนยันว่าทำถูกต้องทุกอย่าง และได้ใช้หนังสือจากสำนักงานที่ดินในการยกเลิกสัญญาของผม รวมถึงไม่มีคำตอบถึงเรื่องเงินเกือบสองล้านที่ผมชำระไว้ ทางผมเองได้แต่แจ้งว่าวันที่ 30 พ.ย. ไม่เคยมีคนโทรมายืนยันทำการโอน รวมทั้งโดยปกติการจะโอนต้องมีการติดต่อเรื่องสินเชื่อธนาคารคงไม่ใช่อยู่ๆจะไปทำการโอนได้เลยโดยไม่ได้เตรียมตัว
เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการผมได้ทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวันรวมทั้งแจ้งผ่านช่องทางติดต่ออื่นๆทุกทางที่ทางบริษัทมี รวมทั้งช่องทางแจ้งทุจริต แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จนสุดท้ายผมปรึกษาทนายและพบข้อพิรุธที่โครงการเป็นฝ่ายผิดสัญญาเนื่องจากขายห้องชุดผมไปโดยไม่ได้มีการทำการยกเลิกสัญญา โดยสัญญาระบุว่าจะขายได้ต่อเมื่อมีหนังสือยกเลิกสัญญามาถึงผม และจะขายได้หลังจาก 30 วันเมื่อได้รับการยกเลิกสัญญาแล้ว ซึ่งดูจากระยะเวลาจากวันที่ 30 พ.ย. 65 จนถึงวันที่ผมทราบเรื่องในวันที่ 8 ธ.ค. 66 แล้วมีความผิดปกติมาก ผมพยายามติดต่อทุกทางจนได้ช่องทางไปยังผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ในที่สุดผมก็ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ยอมรับในความผิดพลาด โดยเสนอทางเลือกจะเปลี่ยนห้องให้โดยไม่ได้แจ้งว่าห้องใหม่จะมีมูลค่าเท่าไหร่ หรือทางเลือกจะเก็บเงินให้เราอีก 3 ปีเผื่อเรามีโครงการอื่นที่สนใจจะทำการหักเงินส่วนต่างนี้ให้ ซึ่งทางผมเองยืนยันว่าไม่พอใจกับสองทางเลือกนี้
จนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโครงการโทรมาขอโทษ และแจ้งให้ผมเข้าไปเจรจา รวมทั้งให้เราเสนอความต้องการของเราเข้าไปเพื่อเสนอผู้บริหารทำการชดเชย ซึ่งผมแจ้งไปว่าเราไม่ต้องการเปลี่ยนห้อง ถ้าให้ห้องเดิมไม่ได้ขอให้คืนเงินพร้อมค่าชดเชย เจ้าหน้าที่จึงให้เราทำจดหมายแจ้งความต้องการเข้าไป ซึ่งผมก็แจ้งไปว่าต้องการเงินจองและเงินดาวน์คืน พร้อมดอกเบี้ยตามกฏหมาย รวมถึงค่าเสียโอกาสเป็นเงินส่วนต่างตามมูลค่าของห้องแบบเดียวกันที่โครงการขายในราคาปัจจุบัน
จนวันนี้ทางโครงการโทรมาแจ้งว่าความต้องการทั้งหมดไม่ได้รับการอนุมัติ โครงการยืนยันที่จะคืนเพียงเงินจองและเงินดาวน์ ไม่มีทั้งดอกเบี้ยและค่าชดเชยใดๆทั้งสิ้น ซึ่งผมเองมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากความผิดพลาดที่ดูไม่โปร่งใสนักของโครงการ และจากการกระทำทั้งหมดผมไม่รู้สึกถึงเจตนาที่ทางโครงการรู้สึกผิดหรืออยากแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ จึงอยากขอความเห็นเพื่อนๆสมาชิกว่าใครเคยโดนโครงการอสังหาทำในลักษณะนี้ หรือเราพอทำอะไรได้บ้างไหมครับ