เขียนนิยายจบไปหลายเรื่อง แต่มีอยู่ 1 เรื่องที่ไม่ว่าจะเขียนอย่างไรก็ไม่สามารถปิดจบได้ (โปรดใช้วิจารณญาณ)

*การเม้าท์มอยนี้มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและเม้นท์อย่างมีสติ ให้เกียรติกัน ไม่ถากถางกัน เราเป็นคนอ่อนไหวแต่ไม่ยอมคน*

สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องราวบางอย่างอยากจะมาชวนเม้าท์ชวนคุยกัน คือต้องเท้าความว่า เราเป็นนักเขียนนิยายผ่านเว็บคนหนึ่ง และเขียนนิยายจบไปหลายเรื่องแล้ว ซึ่งอันนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่ทีนี้จะมีนิยายเรื่องหนึ่ง พล็อตเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐีคนหนึ่งและนักแสดงงิ้วคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวจะย้อนกลับไปประมาณ100 กว่าปีก่อน แต่ไม่ว่าเราจะพยายามแต่งเรื่องนี้ให้จบยังไง มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี ทั้งพยายามรื้อคาแร็คเตอร์ พล็อตบางส่วนออก แต่มันก็ไมไ่ด้แตกต่างจากเดิมมากเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าตรงนี้ที่ปูมามันโอเคแล้ว ไม่ได้ขัดแย้งหรือโอเว่อร์อะไร (ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบแต่งนิยายโดยอิงสังคมและความเป็นจริง ไม่ได้แต่งแนวผู้นำชุมชนหรือฉันมาเพื่อเปลี่ยนความจริงอะไรทำนองนี้)

ก็เลยมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่สาวนะย๊ะคนหนึ่ง เป็นหมอดูที่เรารู้สึกนับถือเป็นพี่คนหนึ่งถึงเรื่องการเขียนนิยายเรื่องนี้ เขาก็ถามขึ้นมาว่า นี่ แก่เชื่อเรื่องจิตเชื่อมต่อมั้ย?
เราไม่ค่อยเข้าใจก็เลยลองถามเขาเพื่อเป็นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ๆ นี้ เขาบอกว่าบางครั้งเวลาเราจะเขียนนิยายสักเรื่อง เราต้องมีสมาธิและค่อนข้างที่จะต้องใช้ความสงบทางจิต บางทีความสงบทางจิตใจของเราอาจจะทำให้เราเชื่อมต่อกับอะไรบางอย่างรอบตัวหรือในอีกมิติหนึ่งก็ได้ ทำให้เราย้อนนึกคิดไปถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง 

ก่อนหน้านั้นที่เราจะเริ่มร่างพล็อตนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา ก่อนหน้านั้น 2-3 วัน เราได้ฝันถึงผู้ชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างลีน ๆ หน่อย สวมชุดฉางซานสีอ่อนสะอาดยืนอยู่ในตรอกซอยเล็ก ๆ มองตรงมาที่เราแล้วก็ยิ้มให้ เท่าที่สังเกตในซอยนั้นทุกคนแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้า ผู้ชายส่วนมากก็สวมชุดฉางซาน มีร้านตัดชุด ร้านผ้าและร้านค้าขายต่าง ๆ เยอะแยะไปหมด แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร พออีกคืนเราก็ฝันเห็นเขาอีก แต่คราวนี้เราฝันเห็นว่าเขากำลังแสดงงิ้วอยู่บนเวที แสดงเป็นตัวละครประเภทอู่ตั้น แล้วก็มองมาที่เรา เหตุการณ์ครั้งนั้นเหมือนกับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากลองเขียนนิยายเกี่ยวกับการแสดงงิ้ว ระหว่างร่างพล็อตในหัวเรามีภาพไหลมาไม่หยุดหย่อน เราก็ทำการเขียนลงกระดาษทันทีจนถึงตอนจบของเรื่องราว แต่พอเริ่มเขียนขึ้นมาจริง ๆ ไม่ว่าจะพยายามเขียนยังไง ก็ไม่มีทีท่าว่าเรื่องราวมันจะไปได้ไกลมากกว่า 8 ตอนได้เลย เราตัดสินใจดองนิยายเรื่องนี้เอาไว้และไปเขียนนิยายเรื่องอื่น จนตอนนี้เราเขียนนิยายเรื่องอื่นจบไป 2 เรื่องแล้ว ก็ลองกลับมาเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะอยากให้มันจบเรื่องจริง ๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่จบอยู่ดี ตอนนี้ก็ขึ้นเรื่องใหม่อีกแล้วค่ะ 

พี่สาวของเราบอกว่าบางทีผู้ชายคนนี้อาจจะเป้นเจ้าของเรื่องราวที่เราได้รับร่างมา (บอกก่อนว่าส่วนตัวเราเป็นคนมีเซ้นส์คนหนึ่ง แต่เรื่องนี้เราไม่มั่นใจมากนักเพราะเราฝันเห็นแค่ 2 คืนและเห็นแค่นั้น ไม่ได้เห็นอะไรไปมากกว่านั้น) พี่สาวนางบอกว่าบางทีอาจจะเป็นแค่จิตเราและเขามาบรรจบกันพอดี(?) เขาอาจจะให้แค่รับรู้ไม่ได้ให้ถ่ายทอด ซึ่งข้อนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้พบเห็นผู้ชายคนนั้นอีกเลย ตอนนี้นิยายเรื่องนี้กลายเป็นนิยายที่มีจุดเริ่มต้นและตอนจบแต่ไม่มีเนื้อเรื่องตรงกลางที่สมบูรณ์มาลง

แต่ก็ยังยึดมั่นว่าจะต้องเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบได้ในสักวันหนึ่ง ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ 100 % มั้ย แต่เราเชื่อว่าสักวันมันต้องจบให้ได้แน่ ๆ ค่ะ ก็เลยอยากชวนทุกคนเม้าท์มอยว่าเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการเขียนนิยายกับเรื่องลี้ลับมาบ้างมั้ย หรือคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างไร สามารถมีทฤษฎีอะไรมาทัดทานกับเหตุการณ์ได้บ้าง มาเม้าท์กัน


(หาชุดฉางซานกับตัวละครประเภทอู่ตั้นมาฝากค่ะ เผื่อใครไม่เคยเห็นแล้วนึกไม่ออก)
รูปแรกคือชุดฉางซาน รูปที่ 2 คือตัวละครประเภทอู่ตั้น
 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่