คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
บทละครเน้นแนวบู๊ 70% ของช่อง คือ ทุกคนต้องเล่นบทนี้ ต้องได้ฉากบู๊ติดไม้ติดมือ
พระเอก-นางเอก โอกาสได้รับไม่เท่าเทียมกัน บางคนไม่มีศักยภาพหรือเสน่ห์ แต่กลับได้ผลงานมากกว่า
ผู้จัดละครล็อคคิวไว้ให้แค่คนที่เคยร่วมงานกัน ไม่เปิดใจให้คนอื่นมาร่วมงาน
career path ค่อนข้างแคบ เพราะส่วนใหญ่ได้แต่อะไรเดิม ๆ
ไร้ช่องทางโปรโมทนักแสดง และที่สำคัญที่สุด ไร้วิสัยทัศน์
พระเอก-นางเอก โอกาสได้รับไม่เท่าเทียมกัน บางคนไม่มีศักยภาพหรือเสน่ห์ แต่กลับได้ผลงานมากกว่า
ผู้จัดละครล็อคคิวไว้ให้แค่คนที่เคยร่วมงานกัน ไม่เปิดใจให้คนอื่นมาร่วมงาน
career path ค่อนข้างแคบ เพราะส่วนใหญ่ได้แต่อะไรเดิม ๆ
ไร้ช่องทางโปรโมทนักแสดง และที่สำคัญที่สุด ไร้วิสัยทัศน์
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าเคยทำงานในองค์กรจะไม่มีความสงสัยเลยค่ะว่ามีเหตุผลอะไรคนเราถึงย้ายงาน ถ้าคุณมีประสบการณ์การทำงานสูง อัพเกรดตัวเองเพิ่มดีกรีความสามารถ เพิ่มระดับการศึกษา คุณย่อมหวังความก้าวหน้าค่ะ ไม่ใช่ยังย่ำอยู่กับตำแหน่งเดิม หรือเลวร้ายคือโดนลดตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีโอกาสได้แสดงผลงานหรือพัฒนาตัวเอง ทำดีแค่ไหนเค้าก็ไม่เห็น ถ้าสถานการณ์การทำงานมันเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครทนทำไปจนแก่ตายหรอกค่ะ อีกเรื่องคือเรื่องของความสบายใจในการทำงานค่ะ องค์กรดีไม่ได้แปลว่าหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานของเราจะดี ถ้าไม่สบายใจตรงนี้ยิ่งยากจะอยู่
บางคคห.โปรดเคารพการตัดสินใจของคนอื่นด้วยค่ะ อย่านำมาด้อยค่า ดูถูกเลย ไม่มีใครอยากพาตัวเองไปจุดตกต่ำหรอกค่ะ เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตรงนั้น อย่าคิดเองเออเอง รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างนะ
ปล.ขอเข้าเรื่องงานละคร ละครบู๊ ค่ายบู๊กับละครโรแมนติกแอ็กชั่น ดราม่าแอ็กชั้น ที่มีฉากบู๊ไม่กี่% ของเนื้อเรื่อง มันแตกต่างกันนะ อย่าโลกสวยว่ามันก็เหมือนกันมีบู๊เหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่ค่ะ
บางคคห.โปรดเคารพการตัดสินใจของคนอื่นด้วยค่ะ อย่านำมาด้อยค่า ดูถูกเลย ไม่มีใครอยากพาตัวเองไปจุดตกต่ำหรอกค่ะ เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตรงนั้น อย่าคิดเองเออเอง รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างนะ
ปล.ขอเข้าเรื่องงานละคร ละครบู๊ ค่ายบู๊กับละครโรแมนติกแอ็กชั่น ดราม่าแอ็กชั้น ที่มีฉากบู๊ไม่กี่% ของเนื้อเรื่อง มันแตกต่างกันนะ อย่าโลกสวยว่ามันก็เหมือนกันมีบู๊เหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
บทตัวร้าย ที่ไม่ได้เสนอแค่มุมร้าย ๆ แต่เพราะโดนกดขี่ ให้เขาจำเป็นต้องร้าย
บทพระนาง ที่ไม่ได้เสนอแค่มุมดี หรือมุมชนะ อยู่ด้านเดียว
แต่เคยมีมุมที่ตัดสินใจผิดพลาด และมุมร้าย ๆ ที่ซ่อนอยู่เช่นกัน
การกำกับก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ที่ควรจะแสดง แบบเก็บสีหน้าไว้ ไม่ใช่ทำหน้าร้ายร้ายใส่คนอื่น
ยังไม่รวมถึง ทีมจัดแสง ทีมเกรดดิ้งสี ที่เก่ง ๆ อีกมาก เพียงแต่เขาไม่ได้อยู่ช่องใหญ่ ๆ
ท้ายที่สุด สิ่งเหล่านี้แหละครับ นอกจากเหตุผลที่ดาราบอกว่า อยากได้รับบทที่หลากหลาย
แต่ยังต้องการ ทำงานกับทีมงานใหม่ ๆ อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยได้จากที่เดิมครับ
บทพระนาง ที่ไม่ได้เสนอแค่มุมดี หรือมุมชนะ อยู่ด้านเดียว
แต่เคยมีมุมที่ตัดสินใจผิดพลาด และมุมร้าย ๆ ที่ซ่อนอยู่เช่นกัน
การกำกับก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ที่ควรจะแสดง แบบเก็บสีหน้าไว้ ไม่ใช่ทำหน้าร้ายร้ายใส่คนอื่น
ยังไม่รวมถึง ทีมจัดแสง ทีมเกรดดิ้งสี ที่เก่ง ๆ อีกมาก เพียงแต่เขาไม่ได้อยู่ช่องใหญ่ ๆ
ท้ายที่สุด สิ่งเหล่านี้แหละครับ นอกจากเหตุผลที่ดาราบอกว่า อยากได้รับบทที่หลากหลาย
แต่ยังต้องการ ทำงานกับทีมงานใหม่ ๆ อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยได้จากที่เดิมครับ
ความคิดเห็นที่ 3
เขาอาจจะพูดเลี่ยงๆ เหมือนคนย้ายที่ทำงานก็มักจะกรอกเหตุผลว่า หาประสบการณ์ไรงี้ แต่อาจจะเพราะงานน้อยรึเปล่า อย่างที่นาวสัม ทำไมอยากไปเรียนต่อ นางคิวว่างมาหลายเดือน ถ่ายสร้อยเรื่องเดียว ไปเรียนไม่มีกำหนดกลับ จะปล่อยหมดสัญญาอีกคนรึเปล่า

ขนาดนาวยังคิวว่างหลายเดือน บางคนว่างเป็นปี บางคนได้เล่นแต่บู๊ ว่างละคร อีเว้นท์ก็ว่าง บางคนอยากเล่นกับดาราดังๆ บ้าง ช่องให้ดันแต่ดาราใหม่ๆ

ขนาดนาวยังคิวว่างหลายเดือน บางคนว่างเป็นปี บางคนได้เล่นแต่บู๊ ว่างละคร อีเว้นท์ก็ว่าง บางคนอยากเล่นกับดาราดังๆ บ้าง ช่องให้ดันแต่ดาราใหม่ๆ
ความคิดเห็นที่ 17
งานดีๆบทดีๆ ที่ไม่ซ้ำกับบทเดิมๆที่เคยเล่น นั่นคือการพัฒนาฝีมือของนักแสดง
ถ้าในแต่ละปีบทที่ได้คือเดิมๆ แนวเรื่องเดิมๆ ยังจะค่ายเดิมๆ นักแสดงที่ร่วมงานด้วยก็ยังหน้าเดิมๆ
คิดว่าคงไม่แค่นักแสดงที่เบื่อจะเล่น แต่คนดูก็พาลเบื่อที่จะดูเหมือนกัน
ช่องถ้าจะพัฒนาละครให้ไปได้ดี บท เนื้อเรื่อง การถ่ายทำและการลงทุนควรจะเต็มที่
แนะนำให้ไปดูซีรี่ย์จีน เกาหลี ที่บทของเค้าจะว๊าวววได้ตลอดที่เราดู การคาดเดาไม่ได้ในละครนั่นคือความน่าดูอย่างหนึ่ง
แต่ละครบ้านเราทุกช่อง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จะมีเนื้อเรื่องที่ไม่พ้น
ตบตีกันระหว่างพวกนางเอกกับนางร้าย แย่งผัวแย่งเมีย ตลกแบบไร้สาระ
บทเด่นมีแต่พระนาง กับตัวร้าย ทีเหลือเหมือนเอามาเดินกันผ่านจอให้เต็มๆ
เอาเพศที่3 มาล้อเลียน (ทั้งที่สร้างเนื้อเรื่องที่ดีๆได้ เขียนบทให้เป็นบทนำได้)
แต่มักเอามาเล่นเป็นตัวชูโรงที่บางครั้งก็น่าดู แต่บ่อยครั้งที่ไม่น่าดูเอาซะเลย
ถ้าในแต่ละปีบทที่ได้คือเดิมๆ แนวเรื่องเดิมๆ ยังจะค่ายเดิมๆ นักแสดงที่ร่วมงานด้วยก็ยังหน้าเดิมๆ
คิดว่าคงไม่แค่นักแสดงที่เบื่อจะเล่น แต่คนดูก็พาลเบื่อที่จะดูเหมือนกัน
ช่องถ้าจะพัฒนาละครให้ไปได้ดี บท เนื้อเรื่อง การถ่ายทำและการลงทุนควรจะเต็มที่
แนะนำให้ไปดูซีรี่ย์จีน เกาหลี ที่บทของเค้าจะว๊าวววได้ตลอดที่เราดู การคาดเดาไม่ได้ในละครนั่นคือความน่าดูอย่างหนึ่ง
แต่ละครบ้านเราทุกช่อง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จะมีเนื้อเรื่องที่ไม่พ้น
ตบตีกันระหว่างพวกนางเอกกับนางร้าย แย่งผัวแย่งเมีย ตลกแบบไร้สาระ
บทเด่นมีแต่พระนาง กับตัวร้าย ทีเหลือเหมือนเอามาเดินกันผ่านจอให้เต็มๆ
เอาเพศที่3 มาล้อเลียน (ทั้งที่สร้างเนื้อเรื่องที่ดีๆได้ เขียนบทให้เป็นบทนำได้)
แต่มักเอามาเล่นเป็นตัวชูโรงที่บางครั้งก็น่าดู แต่บ่อยครั้งที่ไม่น่าดูเอาซะเลย
แสดงความคิดเห็น
ส่วนใหญ่ดาราช่อง 7 อิสระเพราะบทไม่หลากหลาย?
ทำไมช่องไม่ลองให้บทตัวร้ายกับพระเอกนางเอกบ้าง เพื่อให้เขาไม่เบื่อกับการทำงานเดิม ๆ หรือจริง ๆ มันเป็นแค่เหตุผลสวยหรู ดูแพงเฉย ๆ ครับหรือเพราะละครช่อง 7 บู๊เยอะเกินเลยเทกันหมด 😆
ปล.นิยายดีๆมีเยอะนะ ละครสืบสวนน่าสนใจกว่าละครบู๊อีก คือบู๊น้อยกว่าแต่ก็เล่นได้หลายมิติกว่า ขนาดผู้บ่าวอินดี้ยาหยีอินเตอร์ ยังมีฉากเตะต่อยเลยไม่บู๊มาก แต่คอมเมดี้มาเป็นหลัก ละครแบบนี้น่าสนใจและดึงดูด นสด กว่าเยอะเลยนะผมว่า