ผิดมั้ยครับที่ผมจะทิ้งครอบครัวแล้วเดินทางหาอนาคตตัวเอง

ขอท้าวความก่อนนะครับ
-
-
-
คือผมเกิดมาตั้งแต่เด็กผมก็อยู่กับยายเลยครับไม่เคยเห็นหน้าแม่ตัวเองเลยผมมีพี่น้องทั้งหมด5คน (พี่น้องทั้งหมดมาเจอกันทีหลัง) ผมเป็นคนกลาง มีพี่ชาย2คนเป็นแฝดกันและน้องสาวอีก2ผมถูกเลี้ยงมาโดยคุณยายครับตั้งแต่เด็กเรื่องเรียนเรื่องส่งเสริมยายผมเป็นคนเลี้ยงดูทั้งหมดจนผ่านมาสัก4-5ปีแม่ของผมก็กลับมาและยายก็บอกว่านี่คือแม่ของพวกผมครับ คือผมรู้สึกว่านี่ไม่ใช่นี่ไม่ใช่แม่ของพวกผมเลย แต่ยายเป็นคนบอกจริงๆว่านี่คือแม่ของพวกผมแล้วยายก็ส่งให้พวกเราทั้งหมดไปอยู่กับแม่ครับ หลังจากนั้นมา2ปีหลังยายผมก็เสียครับ ปัญหาจริงๆจะเริ่มต่อจากนี่ครับ
-
เมื่อย้ายเข้ามาอยู่กับแม่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนชีวิตผมเลยครับปัญหาทุกอย่างเข้ามารุมผมทันที ต้องบอกก่อนว่าทั้งครอบครัวมีผมคนเดียวที่ทำอะไรเป็นได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น การทำกับข้าว การขี่รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เพราะตอนที่ไม่ได้อยู่กับแม่ยายและตาเป็นคนสอนผมครับและที่บ้านไม่มีใครเลยที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ด้วยที่พี่น้องครอบครัวผมทุกคนพึ่งมาเจอกันและย้ายมาอยู่ด้วยกันจึงไม่ค่อยจะสนิทกันมากนัก เหมือนผมตัวคนเดียวเลยครับเหมือนมาอาศัยบ้านเขาอยู่ พี่ชายแฝด2คนเขาก็สนิทกันอยู่ด้วยกันน้องสาว2คนเขาก็คุยกันอยู่ด้วยกันกับแม่ แต่ผมไม่มีใครที่จะคุยด้วยไม่มีใครจะสนิทด้วยเลย แต่เวลามีปัญหาอะไรทุกคนจะต้องเอาปัญหามาทิ้งไว้ที่ผมครับ ส่วนมากจะเป็นปัญหาจุกจิกเล็กน้อยสะสมมาตลอด4-5ปีตั้งแต่ย้ายมาอยู่แม่ครับ ต้องบอกก่อนว่าพี่น้องครอบครัวผมทั้งหมดยังเรียนอยู่นะครับ ในเมื่อทั้งครอบครัวมีผมคนเดียวที่ขี่รถเป็นก็ไม่พ้นปัญหาแรกครับคือการขี่รถไปรับ-ส่งคนในบ้านที่ผมต้องเหนื่อยเพราะว่า การขี่รถไปๆมาๆตลอดเวลาไม่ได้พักมันล้ามากครับแล้วผมต้องรับทีละคนซึ่งทุกคนกลับเวลาไม่เท่ากันเลย แถมน้ำมันไม่มีใครเติมให้ด้วย (รถที่ใช้ปัจจุบันคือรถแม่นะครับ) ผมก็ต้องเอาเงินผมไปเติมน้ำมันเอง ซึ่งบางวันคนที่บ้านก็เอาไปใช้ขี่จนน้ำมันหมดเกลี้ยงแล้วเหลือกลับมาถึงบ้านให้ผมเหลือขี่ไปถึงปั๊มเพื่อเติมน้ำมันแค่นั้นสุกท้ายผมก็ต้องเสียค่าน้ำมันตลอด นี่คือปัญหาแรกครับ 
-
ปัญหาที่สอง ผมบอกก่อนว่าผมไม่ได้จะมาว่าร้ายครอบครัวตัวเองนะครับแต่ทั้งหมดนี่คือความจริงทั้งหมด
ครอบครัวผมทั้งหมด พี่ชายทั้งสองคนเป็นคนเป็นที่ขี้โวยวายขี้เถียงครับ น้องสาวทั้งสองคนขี้วีนใช้คำพูดคำจาหยาบคายตั้งแต่เด็กอะไรไม่ได้ดั่งใจจะทำลายข้าวของ โมโหตะโกนเสียง (ทุกคนในบ้านเป็นแบบนี้) ซึ่งผมคิดว่าผมรับตรงนี้ไม่ไหวจริงๆไม่มีใครที่จะรับฟังผมได้เลย เอาตรงๆผมเหมือนเป็นคนรับใช้คนในบ้านเลยครับ จากปัญหาแรกที่ผมขี่รถได้ โยงมาปัญหานี่คือผมต้องขี่รถซื้อของขี่รถไปนู้นนี่ให้ทุกคนในบ้านครับ ไม่เคยมีเวลาเป็นของตัวเองเลย ทำอะไรทำให้แต่คนในบ้าน ทำมาตลอดจนบางครั้งผมเหนื่อยผมอยากพักแต่คนในบ้านก็กลับมองว่าผมพึ่งพาไม่ได้ ทำไมไม่เหมือนตอนที่ทำให้แรกๆยังทำได้
-
เนื่องจากทั้งสองปัญหามานี่สะสมมาเรื่อยๆ4-5ปีจนสุดท้ายครับตอนนี้ผมเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว4ครั้ง บวกกับผมเป็นโรคลมชักด้วยครับ จากคนปกติที่แข็งแรงเล่นกีฬาตอนนี้ผมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยครับ
-
และพีคที่สุดของผมครับมีอยู่ว่า
จากทุกปัญหาที่เล่ามานี้มันสะสมมาตลอดๆผมเหนื่อยมากๆจนสุกท้ายครับคนในบ้านผมยอมที่จะฝึกอะไรต่างๆเผื่อมาช่วยกันครับ พี่ชายผมคนนึงขี่รถได้ แม่ขี่รถได้แล้ว ผมดีใจได้ช่วงนึงสุดท้ายมันก็กลับเขาลูปเดิมครับ ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง บอกก่อนว่าผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนะครับผมขับ
ไรเดอร์เดลิเวอร์รี่อยู่แอปนึงครับ ซึ่งปัญหาคือในเมื่อมีคนในบ้านขี่รถเป็นมากกว่าผมแล้วล่ะก็เขาก็จะไม่มีรถใช้ไปไหนมาไหนกันครับ ซึ่งผมจะบอกตรงนี้เลยว่ามันคือข้ออ้างที่จะใช้ผมครับ เพราะตั้งแต่ที่พี่ที่แม่ขี่เป็นนั้นเขาไม่เคยขี่ไปไหนมาไหนเองเลยใช้แต่ผมอย่างเดียว และเมื่อผมมีงานของผมทำแล้วเขาจะมาบอกว่าเนี่ยไม่มีรถไปซื้อของไปนู้นไปนี่เลย บางวันผมต้องไม่วิ่งงานเลยเพราะต้องมารับใช้คนในบ้านครับ มีวันนึงที่ผมป่วยหนักมากผมนอนซมที่บ้าน รถจอดอยู่หน้าบ้านเขาจะไปซื้อของกันซื้อก็ขี่รถกันเป็นแต่ไม่ครับ มาปลุกผมและใช้ผมไปซื้อแล้วพวกเขาก็นอนกันอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ ตรงนี้ที่ทำให้ผมคิดว่าทุกคนในบ้านไม่มีใครแคร์ความรู้สึกของผมเลย ไม่มีใครเข้าใจผมได้เลย
-
สุดท้ายครับใครจะว่าผมเป็นคนอกตัญญูก็ได้นะครับ แต่ที่ผมเล่าถึงแม่ของผมนั้นคือความจริงทั้งหมด
ตั้งแต่ย้ายมาครับแม่ของผมไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูผมเลย แม่ผมส่งเสียพี่จนเรียนมหาลัย ส่งเสียน้องให้เรียน แต่มาที่ผมผมต้องทำงานทั้งแต่ม.ต้นจ่ายค่าเทอมตัวเองที่สะสมมาไม่มีจ่ายโรงเรียนทั้งหมดสองหมื่นบาทบวกๆครับ ผมทำงานเก็บเงินด้วยตัวเองตั้งแต่ม.ต้นจนผมมีเงินจ่ายค่าเทอมหมดครับแม่ไม่เคยเห็นผมเลยว่าผมพยายามมากแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างผมทำด้วยตัวเองทั้งหมดแม่ไม่เคยที่จะทำอะไรให้ผมเลย ยกตัวอย่างพี่ผมอยากได้โทรศัพท์ใหม่แม่ผมบอกเดี๋ยวตอนเย็นไปซื้อให้ใหม่เลยครับซื้อเงินสดเลย กลับกันผมขอโทรศัพท์ใหม่บ้างแม่บอกก็ยังดีอยู่ไม่ต้องเอาหรอก เครื่องผมใช้มา3ปีแม่บอกยังดีอยู่ แต่พี่ผมพึ่งซื้อเครื่องที่แล้วไปตอนเดือนที่แล้วเองครับผมต้องทำงานเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ของผมเอง ผมเข้าใจโลกจริงๆว่าแม่ที่รักลูกเท่ากันไม่มีจริงครับ ความเท่าเทียมไม่เคยมีเลย จนครั้งนึงที่ผมไม่ไหวคือผมทะเลาะกับแม่หนักมากแม่ตบผมกระทืบผม จนผมต้องวิ่งหนีออกมาแล้วจะไปฆ่าตัวตายด้วยกันกระโดดตึกครับ แต่ที่แม่พูดออกมากลับเป็นคำว่า "โดดเลยอยากตายมากก็ทำ ไม่ใช้ลูกกูหรอกกกูไม่มีลูกเEี้ยๆอย่าง" ผมสตั้นกับคำพูดนี่มากผมไม่ได้ทวงบุญคุณนะครับ แต่ตลอดมานี่ถ้าทุกคนในบ้านไม่มีผมทุกคนใช้ชีวิตไม่รอดแน่นอนครับ เพราะทุกคนในบ้านทำอะไรกันไม่เป็นเลยครับ ทุกอย่างผมเป็นคนทำให้ทุกคนอยู่ในร่องในรอย การเงินของคนในครอบครัวแม่เงินเดือนออกมาใช้สุรุ่ยสุร่ายก็เป็นผมที่จัดการเรื่องเงินให้แม่ให้คนในบ้าน การที่แม่พูดออกมาแบบนี้ทำให้ผมรู้เลยว่า ผมไม่มีค่าสำหรับครอบครัวนี่อีกต่อไปครับ
-
หลังๆมาครอบครัวผมเละเทะมากครับตั้งแต่ผมเริ่มตัดเริ่มไม่รับผิดชอบที่ตัวเองเคยเหมือนแต่ก่อนเพราะผมรู้สึกว่าผมเหนื่อยมาก ผมไม่มีเวลาใช้ชีวิตเป็นของตัวเองเลยไม่มีจริงๆครับ ไม่มีเวลาที่จะหาความสุขเลยทุกวันมีแต่ความทุกข์ผมไม่เคยอยากเข้าบ้านสักคืน ปัจจุบันเละเทะมากครับ แม่ผมอายุใกล้เลข4แล้วทุกวันนี้ออกไปเที่ยวกินเหล้าทุกวันเงินไม่มีเลี้ยงลูกสักบาท วันๆไม่เคยอยู่บ้านออกไปแต่ข้างนอกออกไปหาผู้ชายครับ น้องสาวผมอีกคนก็เป็นโรคซึมเศร้าเหมือนผมแล้วเพราะแม่ไม่ได้ดูแลไม่ได้สนใจเลย น้องสาวอีกคนขี้โวยวายขี้โมโหพอรู้ว่าแม่ออกไปกินเหล้าก็จะโมโหทำลายข้าวของในบ้านแล้วเสียงดังกรี๊ดลั่นบ้าน พี่ชายสองคนคนนึงติดผู้หญิงไม่เอาเรื่องเรียนเลยครับ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทุกคนชีวิตพังมาก 
-
ตอนนี้ผมเรียนอยู่แล้วผมกำลังจะเก็บเงินครับ เก็บเงินออกรถ เก็บเงินเช่าห้องแล้วหนีออกมาแบบไม่ให้ใครรู้ครับ ผมเหนื่อยเกินจะรับไหวครับถ้าผมยังทนอยู่ต่อโรคซึมเศร้าที่ผมเป็นคนคงไม่มีวันหายแล้วมันจะกัดกินผมไปตลอดชีวิต ผมทำอย่างงี้ถูกมั้ยครับ การออกมาจากครอบครัวแล้วเริ่มต้นชีวิตด้วยตัวคนเดียวทุกคนช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ 🙏🙏
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่