สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณลองไปดูชีวิตคนอื่นบ้าง คุณจะเห็นว่า มีคนอีกหลายคน เกิด และ ตายไปแบบคนที่ใช้ชีวิตชิลๆ ไม่ขวนขวายอะไร
คนที่จะพยายามไปให้ถึงจุดหมาย และคนที่ฝ่าฟันจนไปได้ถึงเส้นชัยมีน้อยมาก
ถ้าคุณแหนงหน่ายสามีด้วยเรื่องนี้ ถึงขนาดที่คิดจะมีคนใหม่
ก็รีบบอกเขา ตอนนี้เลย … บอกเลยว่า ถ้าเขาไม่กระตือรือร้นกว่านี้ คุณจะจากไป
แต่ถ้าหวังลมๆแล้งๆ ว่าเขาจะเลี้ยงลูกได้ เขาจะดูแลคุณได้ โดยให้เขาขยันกว่านี้
เขาไม่ทำหรอกค่ะ เพราะมันเป็นอุปนิสัยเขาไปแล้ว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
เขาก็เสมอต้นเสมอปลายในด้านความเฉื่อยให้คุณเห็นตลอดมิใช่หรือ
คนบางคน ไม่ชอบคิด ไม่ชอบชีวิตกดดัน ชอบฟังคำสั่ง ชอบใช้เวลาไปกับสิ่งบันเทิง
ฝืนตัวเขาไม่ได้หรอกค่ะ (อายุ 30 กว่าแล้วด้วย ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว)
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณจะอยู่กับสามีคนนี้ ก็รู้ตัวไว้เลย ว่าคุณไม่ได้เลือกคู่ชีวิตที่เป็นผู้นำค่ะ
แถมเขาไม่ใช่ คนที่จะเป็นผู้ตามคุณด้วยนะ … สั่งอะไร ถ้าขัดต่อความสบายกายของเขา เขาก็ไม่ทำอ่ะ
ชีวิตคน มีได้อย่างเสียอย่าง ใครจะได้ดังใจไปซะทุกอย่าง
ยอมรับสิ่งที่ได้มา และ เข้าใจว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง
จะได้ทำใจไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ผิดหวังซ้ำซาก จนจิตใจบอบช้ำมากเกินไปค่ะ
คนที่จะพยายามไปให้ถึงจุดหมาย และคนที่ฝ่าฟันจนไปได้ถึงเส้นชัยมีน้อยมาก
ถ้าคุณแหนงหน่ายสามีด้วยเรื่องนี้ ถึงขนาดที่คิดจะมีคนใหม่
ก็รีบบอกเขา ตอนนี้เลย … บอกเลยว่า ถ้าเขาไม่กระตือรือร้นกว่านี้ คุณจะจากไป
แต่ถ้าหวังลมๆแล้งๆ ว่าเขาจะเลี้ยงลูกได้ เขาจะดูแลคุณได้ โดยให้เขาขยันกว่านี้
เขาไม่ทำหรอกค่ะ เพราะมันเป็นอุปนิสัยเขาไปแล้ว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
เขาก็เสมอต้นเสมอปลายในด้านความเฉื่อยให้คุณเห็นตลอดมิใช่หรือ
คนบางคน ไม่ชอบคิด ไม่ชอบชีวิตกดดัน ชอบฟังคำสั่ง ชอบใช้เวลาไปกับสิ่งบันเทิง
ฝืนตัวเขาไม่ได้หรอกค่ะ (อายุ 30 กว่าแล้วด้วย ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว)
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณจะอยู่กับสามีคนนี้ ก็รู้ตัวไว้เลย ว่าคุณไม่ได้เลือกคู่ชีวิตที่เป็นผู้นำค่ะ
แถมเขาไม่ใช่ คนที่จะเป็นผู้ตามคุณด้วยนะ … สั่งอะไร ถ้าขัดต่อความสบายกายของเขา เขาก็ไม่ทำอ่ะ
ชีวิตคน มีได้อย่างเสียอย่าง ใครจะได้ดังใจไปซะทุกอย่าง
ยอมรับสิ่งที่ได้มา และ เข้าใจว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง
จะได้ทำใจไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ผิดหวังซ้ำซาก จนจิตใจบอบช้ำมากเกินไปค่ะ

ความคิดเห็นที่ 14
สิ่งที่คุณคิดจะทำพยายามขวนขวายเป็นสิ่งที่ดีค่ะ
แต่แฟนเขาพึงพอใจแบบนั้น ไม่อยากออกจาก safe zone ก็ไม่ใช่เรื่องผิด
คนเราเติบโตขึ้นทุกวัน คบกันตั้งแต่วัยรุ่น ผ่านหลายๆอย่างมา ความคิดก็เปลี่ยนไป
มันคือจังหวะที่ความเห็นของสองคนไม่ตรงกันก็เท่านั้น
น้อยใจก็ไม่ผิด บอกเขาไปว่าน้อยใจได้เลย
แล้วก็พูดเหตุผลอะไรของตัวเองอย่างที่พิมพ์ในกระทู้
แล้วดูว่าเขามีทีท่ายังไง
สำหรับเรานะ ถ้าเราพอใจในชีวิตตัวเองระดับนึงแล้ว เราก็ไม่อยากจะลำบากออกไปขับวินอะ
อันตรายจะตาย (เนื้อหุ้มเหล็กนะ ไม่ห่วงกันบ้างหรอ)
ร้อน เหนื่อย ไม่รู้ทางอีกแถมต้องรู้เรทราคาว่าเท่าไหร่จะคุ้ม
คือมันไม่น่าทำอะอาชีพเสริมแบบนี้ ยกเว้นเงินไม่พอจริงๆก็อาจจะทำ
คุณก็พูดเหมือนมันง่าย ให้คุณทำเองก็คงไม่สะดวกเหมือนกันแหละนะ
ถ้าอยากให้เขาออกจาก safe zone มันต้องมีสิ่งที่ดึงดูดใจมากกว่านี้ แล้วชี้ให้เห็นค่ะ
เช่น ทำอันนี้ง่าย หรือยากหน่อยแต่เงินเยอะ อะไรแบบนี้
ถ้าคุณกระตือรือร้นแล้ววิ่งไปไกลเขาเกินไป เมื่อคนสองคนไม่เดินไปพร้อมๆกัน ไม่ไปในจังหวะเดียวกัน
เค้าก็อาจจะน้อยใจคุณเหมือนกันก็ได้ว่า เอาเวลาอยู่ด้วยกันไปใช้หาเงินหมด อะไรยังงี้
เราก็มโนไปเรื่อยนะ เอาใจช่วยละกันค่ะ
แต่แฟนเขาพึงพอใจแบบนั้น ไม่อยากออกจาก safe zone ก็ไม่ใช่เรื่องผิด
คนเราเติบโตขึ้นทุกวัน คบกันตั้งแต่วัยรุ่น ผ่านหลายๆอย่างมา ความคิดก็เปลี่ยนไป
มันคือจังหวะที่ความเห็นของสองคนไม่ตรงกันก็เท่านั้น
น้อยใจก็ไม่ผิด บอกเขาไปว่าน้อยใจได้เลย
แล้วก็พูดเหตุผลอะไรของตัวเองอย่างที่พิมพ์ในกระทู้
แล้วดูว่าเขามีทีท่ายังไง
สำหรับเรานะ ถ้าเราพอใจในชีวิตตัวเองระดับนึงแล้ว เราก็ไม่อยากจะลำบากออกไปขับวินอะ
อันตรายจะตาย (เนื้อหุ้มเหล็กนะ ไม่ห่วงกันบ้างหรอ)
ร้อน เหนื่อย ไม่รู้ทางอีกแถมต้องรู้เรทราคาว่าเท่าไหร่จะคุ้ม
คือมันไม่น่าทำอะอาชีพเสริมแบบนี้ ยกเว้นเงินไม่พอจริงๆก็อาจจะทำ
คุณก็พูดเหมือนมันง่าย ให้คุณทำเองก็คงไม่สะดวกเหมือนกันแหละนะ
ถ้าอยากให้เขาออกจาก safe zone มันต้องมีสิ่งที่ดึงดูดใจมากกว่านี้ แล้วชี้ให้เห็นค่ะ
เช่น ทำอันนี้ง่าย หรือยากหน่อยแต่เงินเยอะ อะไรแบบนี้
ถ้าคุณกระตือรือร้นแล้ววิ่งไปไกลเขาเกินไป เมื่อคนสองคนไม่เดินไปพร้อมๆกัน ไม่ไปในจังหวะเดียวกัน
เค้าก็อาจจะน้อยใจคุณเหมือนกันก็ได้ว่า เอาเวลาอยู่ด้วยกันไปใช้หาเงินหมด อะไรยังงี้
เราก็มโนไปเรื่อยนะ เอาใจช่วยละกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
น้อยใจแฟนที่เงินเดือนน้อยกว่าเรา เราผิดมากไหม
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราแต่งงานกับแฟนมาจะ 5 ปีแล้วค่ะ เรายังไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ยังไม่ปล่อยมีลูก และยังไม่มีภาระอะไร ก็เก็บเงินสะสมมาเรื่อย ๆ จริง ๆ ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีความคิดแบบนี้เลยค่ะ จนกระทั่งจะออกรถ และ บวกกับจังหวะชีวิต หอพักที่ทางป้าจะโอนให้ส่งต่อ และเป็นทรัพย์สินของเรากับแฟนไปเลย ซึ่งยอดมันก็เหลือไม่เยอะ และหอมันทำเลดี ใกล้ mrt (ก่อนหน้านี้เป็นของลูกสาวของป้าที่เพิ่งเสียชีวิตไป และป้าไม่ได้ทำงานแล้วจึงผ่อนต่อไม่ไหว ป้าเลยจะยกให้เรากับแฟนไปผ่อนต่อ)
และนั่นแหละค่ะ คือจุดเริ่มต้นที่เราจะสร้างครอบครัว และเริ่มจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และอยากจะเข้าไปอยู่เองก่อนเผื่อให้ส่งรถหมด แล้วจะได้ขยับขยายใหม่ และจะได้ปล่อยเช่าได้ สมองเราคิดอยู่ตลอดเวลา เหมือนประมวลผลอยู่ตลอด วางแผนการเงิน และการใช้จ่าย คำนวนแล้วคำนวนอีก 2 คนเงินเดือนรวมกันมันก็เพียงพอนะคะ แต่เราก้จะคิดต่ออีกว่าในระหว่างทางจะมีอะไรเปลี่ยนแปลจากที่คาดการณ์ไว้ไหม ก็จะแบ่งเงินสำรองเผื่อ เป็นลำดับ ๆ ความสำคัญไป และพอจะมีภาระ มันทำให้เรารู้สึกว่าตอนนี้เรามีแรง ที่จะหาเงิน จะขอทำให้ถึงที่สุด บางทีก็ขอที่ทำงานทำ ot บ้าง พยายามหารายได้อื่นบ้าง รับจ้างหิ้วของบ้าง บลา ๆ หัวเราคิดที่จะหาเงินอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยมีเงินสำรองมาเพิ่มไว้สำรองใช้จ่าย หรือไว้ลงทุน เทรดทอง หรือลงทุนทำกำไรอย่างอื่น ต่อยอดได้อีก เราแค่คิดว่า การมีไว้ มันดีกว่าการไม่มี เพราะสังคมเรา ค่าครองชีพสูงเอย สวัสดิการเอย มันขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น และเผื่อช้อต หรือเกิดอะไรขึ้นมา จะไม่มานั่งคิดเรื่องพวกนี้เลยว่า "จะหาเงินจากไหน" เรามีความคิดน้อยใจที่แบบ เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อคำว่าเรา คำว่าครอบครัว แต่พอเราถามเค้าว่า ทำรายได้อะไรเสริมดี ขับวินไหม จะหาซื้อเสื้อให้ เผื่อไว้ขับช่วงวันหยุด หรือวันว่าง ๆ จากงานประจำ หรือจะทำอะไรให้มันพอมีรายได้มากขึ้น เค้าตอบแค่ว่าไม่ถนัดขับวิน พอลองบอกให้แฟนเปลี่ยนที่ทำงานดีไหม เพื่ออัพฐานเงินเดือนใหม่ จะได้หาสวัสดิการใหม่ด้วย แฟนตอบงานหายากช่วงนี้ (แฟนอายุ 30+ นะคะ) คือพอเราเสนอแนวทางไป มันดูเหมือนเราไปบีบเค้า เหมือนเรามีความหวังดีจะได้ช่วยกัน แต่ความหวังดีของเรามันทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่ไปอีก คือ save zone ใหญ่มากเกินไปไหม คือจะอยู่แค่ตรงนี้หรอ แล้วถ้าเกิดเราอยากมีลูกขึ้นมา เค้าจะเลี้ยงดูเรากับลูกได้ไหม พ่อแม่แก่ลงทุกวัน ความคิดในหัวมันเยอะไปหมดค่ะ เลยน้อยใจว่าทำไม ทำไมเค้าไม่ยอมพัฒนาตัวเองเพื่อเราเลย หรือคำว่าครอบครัวเลย ทั้ง ๆ ที่เราพยายามพัฒนาตัวเอง อยู่ตลอดเวลา รักเค้านะคะ ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะคบกันตั้งแต่เรียนปี 1 เทอม 2 แค่มันรู้สึกแย่ที่มีความน้อยใจแบบนี้ จิตตกค่ะ ควรจะทำยังไงได้บ้างคะ ควรจะเปิดใจคุยกับสามีไปเลยไหม ว่าเรามีความรู้สึกแบบนี้ หรือต้องรอเวลาไหนที่เหมาะสมไหมคะ รบกวนขอแนวทางหน่อยนะคะ น้อมรับคำชี้แนะค่ะ
หรือทางที่ดีคือผัวใหม่หรอคะ 😆
แต่สามีก็ดีนะคะ ไม่เที่ยว ไม่เจ้าชู้ ไม่ติดการพนัน
มันจะดูแรงไปไหมคะ ถ้านั่งคุยกันแล้วหาตรงกลาง ว่าเราคิดแบบไหนยังไง แลกเปลี่ยนความคิดของกันและกันใหม่ หากสุดท้ายแล้วมันไม่สามารถปรับจูน หรือหาตรงกลาง เพื่อกันและกันได้ เราควรจะแยกย้ายกันไปเติบโตไหม