ตอนนี้ผมมีเพจแล้วนะครับ ไปติดตามกันได้ครับ
https://www.facebook.com/Mr.CoffeeKDramaReview

รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 143 Reborn Rich มี 16 EP EP ละประมาณ 70-80 นาที / VIU


จริงๆแล้ว ซีรีส์แนวย้อนเวลาของเกาหลี ทำออกมาเยอะมากมาย แต่ไอเดียของแต่ละเรื่องล้วนแตกต่างกัน เพราะมันสร้างเสริมจินตนาการของคนดูว่า หากเป็นเราได้ย้อนเวลาไป เราจะทำอะไรได้บ้างนะ เราจะรวยได้อย่างไร55

Reborn Rich สร้างมาจากนิยายบนเวบชื่อ Chaeboljib Maknaeadeul (The Chaebol's Youngest Son) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ ยุนฮยอนอู พนักงานผู้จงรักภักดีกับซุนยัง เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี (ลองนึกๆดูนะครับว่าในความเป็นจริงเขาหมายถึงเครือบริษัทอะไร) ที่ถูกหักหลังและถูกกำจัด โผล่มาอีกครั้ง มาอยู่ในร่างของ จินโดจุน หลานชายคนเล็กสุดของซุนยัง และย้อนเวลาไปสมัยที่ยังเป็นเด็กด้วย โดยที่ความทรงจำเดิมยังอยู่ครบ

ดู EP1 จบ ไม่ต้องสงสัยครับ พล็อตเรื่องมันเกือบจะเหมือน Again My Life ที่โด่งดังก่อนหน้านี้ เปลี่ยนแค่ไปเกิดใหม่ในร่างคนอื่น ไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งจุดที่แตกต่างกันนี้ ทำให้ Reborn Rich มีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนชีวิตมากกว่า Again My Life ซึ่งเน้นการต่อสู้ แก้แค้น เพื่อไปขัดขวางตัวร้าย แต่ Reborn Rich เน้นการพยายามแย่งชิงซุนยังมา เพื่อจะได้รู้ว่าใครฆ่าตัวเอง

พอ EP2 เป็นต้นไป ความเมามันก็บังเกิดครับ ความสนุกที่สุดของคนดูคือเมื่อพระเอกรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเกาหลี อะไรจะเกิดขึ้นในโลกนี้บ้าง เขาจะใช้มันให้เป็นประโยชน์อย่างไร และพอถึง EP2 คุณจะได้พบกับตัวโหด ประธานจินยังชอล ที่แสดงโดย อีซองมิน นักแสดงฝีมือโหด ที่ซงจุงกิจัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้เพราะได้เล่นกับอีซองมินนี่แหล่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่มีเรื่องการบริหารธุรกิจ การลงทุน และหุ้น ในระดับที่ใครไม่มีพื้นฐานเลยคงต้องปวดหัวพอสมควรเลยล่ะครับ ดูๆไป ผมว่าอาจารย์คนไหนกำลังสอนวิชาบริหารธุรกิจ สามารถเอาเรื่องต่างๆในซีรีส์เรื่องนี้ไปเป็นเคสใช้สอนได้เลยด้วยซ้ำ แต่พยายามดูไปเถอะครับ การหักเหลี่ยม เฉือนคม ทางธุรกิจของเรื่องนี้นั้นเมามันในระดับสุดยอด ดูแล้วติดแน่นอน

และแน่นอนว่า เมื่อเนื้อเรื่องมันเข้มข้น สนุกสนาน ตื่นเต้น นักแสดงก็แสดงกันดี เรตติ้งของเรื่องนี้จึงพุ่งทะยานขึ้นไปท้าทายสถิติต่างของซีรีส์ที่ฉายทางช่องเคเบิ้ลของเกาหลี เริ่มแรกก็เป็นซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดของปีนี้ จากนั้นก็ไต่ขึ้นสูงกว่าระดับ 20% แซงหน้า Crash Landing on You, Sky Castle จนตอนสุดท้ายเกือบเอาชนะแชมป์ The World of the Married แต่ก็ได้แค่เฉียด

ที่น่าสนใจคือ เรื่องนี้ตอนจบ EP16 นั้น ออกแบบมาได้น่าสนมาก มันทำให้สามารถขยายเนื้อเรื่องตรงกลางที่สุดมันส์ไปอีกหลายๆตอนก็ยังได้ แค่มาปิดด้วยตอน EP16 แบบนี้ก็จบได้ แต่คนดูอย่างเราๆ ท่านๆ จะพอใจตอนจบแบบนี้กันหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ ดูเหมือนเสียงจะแตกเสียด้วย ก่อนหน้านี้ตอน Again My Life ก็โดนรวบเนื้อเรื่องเข้ามาจนตอนจบมันเร็วเกินไป ส่วนเรื่องนี้ก็ไม่แคล้วจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน และหลายคนก็มองว่าตอนจบนี้แหล่ะเป็นปัญหา

ก็ด้วยเรื่องราวของการย้อนเวลา มันมีกลไกการทำงานที่พวกเรามักจะเข้าใจได้หลายแบบเพราะทั้งหนังและซีรีส์มากมายได้ตั้งมาตรฐานเอาไว้ แต่เรื่องนี้มันดูจะขัดกันเองแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้น หลายคนก็จะเกิดคำถามเมื่อดูจบเต็มไปหมด รวมถึงทำไมไม่มีใครสงสัยเรื่องหน้าตาที่ดูคล้ายกัน??

ในด้านการสร้าง พอเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต ในแง่รายละเอียดถือว่าพอใช้ได้ แต่ยังไม่เนี้ยบ หลายอย่างดูแล้วก็ต้องตั้งคำถามว่าในยุคนั้นมันมีของแบบนี้แล้วหรือยัง ตรงยุคไหม เอาเป็นว่าถ้าไปซีเรียสกับตรงนี้มากๆ ก็จะเห็นแน่นอน แต่มันไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเสียหายแต่ประการใด

พระเอก - ซงจุงกี พระเอกเบอร์ต้นที่เหมาะและลงตัวกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องรับบทที่เด็กลงในช่วงอายุ 20 กว่าๆ ก็ไม่มีปัญหาแต่ประการใด

นางเอก - ชินฮยอนบิน ได้ฉายานางเอกตัวประกอบแทนที่ คิมจีอึน ใน Again My Life ได้เลย บทน้อย เบาบาง และดันโดนรัศมีของ 1-2 พัคจีฮยอน ซึ่งสวยแบบลึกลับกลบไป จากนั้นมาเจอ 2-1 โจฮเยจู อีกคน ยังดีที่ EP16 ยังให้เธอได้สวยกลับมาหน่อย

Love Line - เป็นความพยายามปั้น Love Line ที่น่าสงสารมาก เพราะถึงกับมีข่าวออกมาว่าคนดูมองว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้ เฮ้อ

สิ่งหนึ่งในเรื่องที่ให้ความคุ้มค่าอย่างถึงที่สุดในการดูคือ การแสดงขั้นสุดยอดของอีซองมิน ผมไม่เคยดูเขาแสดงมาก่อน แต่บอกเลยว่าแสดงได้สุดมากๆ ทรงพลังแบบทะลุจออกมาเลย รางวัลในปีนี้ลุงแกน่าจะกวาดไปหลายอยู่

ยอมรับว่าในช่วงหลังๆ หาซีรีส์ที่ดูแล้วมันส์ทุกตอนแทบไม่มีช่วงแผ่วแบบนี้ยากจริงๆ  แต่จะจบถูกใจคนดูหรือเปล่านั้นอีกเรื่องนึง ถึงกระนั้น เรื่องนี้ก็ควรค่าแก่การพิสูจน์เป็นอย่างยิ่งครับ ห้ามพลาดครับ

ปล. เรื่องนี้ โปสเตอร์หลัก 2 แบบ ไม่มีรูปนางเอกเลย555