ผมรู้สึกอึดอัดใจ และเป็นทุกข์ใจกับพี่ชายผมคนนี้มากครับ ด้วยอาการและความเป็นอยู่เค้าตอนนี้ เค้าเป็นพี่ชายคนโตที่ตอนนี้ก็อายุ 30 ปีแล้ว
แต่กลับทำให้แม่ ผมต้องเครียด ทำให้คนรอบข้างกังวล และ งงกับสิ่งที่เค้าทำมากครับ
ก่อนอื่นพื้นฐานครอบครัวแม่ผมเป็นคนแอบ จู้จี้ จุกจิกหน่อยครับ แม่กับพ่อผมเมื่อก่อนท่านก็อยู่ด้วยกันแต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนพ่อผมเกษียณย้ายไปอยู่บ้านสวนทำเกษตรแต่แม่ผมไม่ได้ไปด้วยนะครับ พวกผมอยู่อีกจังหวัด ซึ่งอยู่อาศัยกับแม่ทุกอย่างเหมือนไปด้วยดีครับ แต่พอมาเกิดเรื่องโควิดไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า
พี่ชายผม ทำงานในจังหวัด ตอนแรกเป็นครูในโรงเรียนครับแต่ไม่ได้บรรจุนะครับ คือครูเอกชนต่อมา พี่ผมก็ลาออกจากที่ทำงาน อยากทำงานที่อื่นคือจะไปกรุงเทพ ตอนแรกเกือบได้ไปแล้วครับแต่ดันเจอเรื่องโควิด บริษัทชะงักและการขาดทุนครับ เค้าเลยหางานและทำพวกฟรีแลนด์ สอนหนังหนังสือให้พวกสถาบันครับ สำหรับผมทำงานในหน่วยงานราชการครับ แต่เราก็อาศัยพักกับแม่ แต่เหมือนงานสอนเค้าจะได้เงินไม่เยอะก้อเลยจะไปทำงานต่างประเทศตอนแรกก้อเหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี แต่พี่ผมสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงด้วย แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากเครียดอะไร บางเรื่องก็ไม่ยอมเล่าครับ แม่ทั้งพาไปหาหมอ หายาให้ทุกอย่าง เค้าก็แอนตี้ เค้าไปเจอเพื่อนที่โบสถ์ แนะนำเรื่องวิตามินอาหารเสริมธรรมชาติ ก็จะทานอันนั้นละครับ ยาจะไม่ค่อยทาน พอเวลาผ่านไปเรื่องจะไปต่างประเทศเหมือนจะมีปัญหาเรื่องวีซ่าและหลายเรื่องครับ ทำให้เลื่อนไป ตอนนี้ละครับเค้าเริ่มมีอาการ
1. ไม่พูดปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่รับฟังคนในครอบครัวเลยครับ ผมกับแม่ทุกใจมาก เวลาเกิดปัญหาอะไรเค้าแทบไม่คุยกับคนในครอบครัวเลย
ปิดห้องเงียบ มีโลกส่วนตัวของเค้ามากครับ แม่เป็นห่วงเค้ามาก ทั้งซักผ้า ถุงเท้า ที่นอน กวาดห้อง สาระพัดจะทำ เพราะเค้าเป็นภูมิแพ้ครับ
และ ทานย่อยอาหารยาก เดี่ยวนี้ แม่โทรหาไม่รับ ทักหาไม่สน นอกจากครั้งหนึ่งเค้าติดโควิด ทักแค่ให้ไม่เข้าใกล้ และซื้อยาให้ครับ
แม่ก้อเป็นห่วงเค้าเครียดมาก เพราะกลัว ลองโควิด แล้ว ถ้าวีซ่างานเค้าผ่านไปเมืองนอกได้ ก้อกลัว จะมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเดิมเพราะติดโควิด
ผมไม่เข้าใจเค้าครับเค้าเป็นอะไร เป็นโรค ซึมเศร้า หรืออะไร
แต่ผมเห็นเค้าไปหาเพื่อนเก่าๆ ไปหา คนที่เค้าอยากคุย ไปคุยกับเพื่อนในโบสถ์ที่เพิ่งรู้จัก แต่ไม่คุยกับครอบครัวเลยครับ
2. ออกห่างจากเพื่อนที่สนิทด้วยครับ มีเพื่อนพี่ผมที่เคยเล่นกีฬาด้วยกัน ไปกินนอนด้วยกันสมัยก่อนที่เป็นแก็งเค้านะครับ พวกเค้าคบกันมานานมากเลยนะ ครับ เพื่อนของพี่ผมโทรมาหาผม ถามว่าพี่ผมเป็นอะไร อยู่ๆๆก้อแปลกๆๆ ส่งข้อความมาให้แปลกๆๆ เวลาทักไปก้อบอกว่า ไม่ต้องพูดว่าเข้าใจวะ ถ้าพวกแกไม่ได้เข้าใจจริงๆๆๆ ทุกคนในกลุ่ม งง ครับ เเล้วพี่ผมก็ไม่คุยกับเพื่อนกลุ่มนั้นอีกเลยครับ ทั้งๆที่เพื่อนกลุ่มนี้ถือว่าดีกับพี่ผมมากนะครับ ผมเองก็งง ผมเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่พี่ผมกลับไปคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มแทน ออกไปกินข้าวไปนั้นนี้กับเพื่อนอีกกลุ่ม จนเป็นไงละติดโควิดมา แต่ผมก็คิดว่าอย่างน้อยเค้าก็มีคนพูดด้วยดีกว่าเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว เหมือนเค้าไม่สนิทที่จะคุยกับคนที่เคยสนิทแม้ครอบครัวครับ
3. เค้าอายุ 30 แล้วนะครับ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน งานบ้านก็ไม่ทำแค่ห้องตัวเองก้อยังไม่ทำนะครับ แต่เห็นเล่นมือถือดึกดื่น พี่ผมไม่มีแฟนนะครับ
เอาไปตรวจโรคร้ายก้อไม่มีอะไรนะครั้บ หลังๆให้ไปตรวจก็เริ่มไม่ไปละครับ บางทีก็สงสัยว่าเป็นสัญญาณของคนใกล้ตายหรือเปล่าครับที่ จะทิ้งคนที่รักไว้ข้างหลังให้ลืมเค้า แล้วไปหาความทรงจำอื่นๆๆๆที่ยังไม่เคยเจอ ผมก็ไม่อยากคิดแบบนี้ ความจริงพี่ผมโชคดีกว่าผมมากครับ พ่อแม่ ห่วงเอาใจมาก ได้ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศเป็น 2 ปี พ่อแม่ซัพพอร์ทนะครับ แม่เงินไม่มากก็ตาม ซึ่งตอนนี้ผมก้อย้ายออกมาจากบ้านแล้วครับมาอยู่หอใกล้ที่ทำงาน และกลับบ้านบางอาทิตย์ครับ เพื่อให้พี่ผมเจอผมน้อยลง จะได้ไม่หงุดหงิด คือผมกับพี่มีครั้งหนึ่งทะเลาะเรื่องไม่สบายครับแล้วผมไม่ว่างจริงๆ เค้าขับรถไปเองแล้วตัดพ้อผมอย่างแรง ผมก็งงมาก คือผมทำงานและมันไม่ว่างจริงๆๆ
4.พี่ผมเป็นซึมเศร้าเหรอครับ ไปหาหมอก็ไม่เป็นอะไร มีแต่ให้ยานอนไม่หลับ เวลาเครียด
5.หรือพี่ผม เค้าจะลาโลกนี้แล้วครับ ลาจากไปแบบทิ้งความเจ็บปวดให้คนรอบข้างแบบนี้เหรอครับ คนที่รักเค้า แคร์เค้า ห่วงใยเค้า เค้ากลับคิดว่า คนเหล่านี้ไม่จริงใจ และไร้ประโยชน์ ไม่เข้าใจ คือผมไม่เข้าใจคำว่าไม่เข้าใจนี้ละครับ และเข้าเองก็ไม่เคยเค้าใจคนอื่น เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์โลกครับ แต่กลับมองว่าตัวเองว่างเปล่า ผมนิ งงมาก การได้ไปต่างเเดน มีชีวิตที่ดี คือเค้าเก่งกว่าผมหลายอย่าง
6. นี้คือพี่คนโต เหรอครับที่ควรเป็นแบบอย่าง ครั้งหนึ่งผมเคยนับถือเค้ามากครับ พี่ที่เก่งหลายด้าน แล้วอยู่ๆๆๆ ชีวิตมันสิ้นหวังอะไรมากมายครับ แม่ผมทรมานกับเค้ามาก เพื่อนๆพี่เค้าในแก็งค์ก็เป็นห่วงและอึดอัดกับเหตุการณ์ต่างๆๆกับเค้าครับ
7. ตอนนี้พวกผมควรทำยังไงครับ ทุกวันนี้ก็ปล่อยไปนะครับ จนวันหมดลมหายใจ ของเค้า เค้าคงไม่รับรู้ว่าทำคนอื่นทรมานและได้ทิ้งความเจ็บปวดให้คนอื่นอยู่ครับ ครอบครัวอาจไม่ใช้เซฟโซนสำหรับทุกคน แต่ผมแค่ งงว่าพ่อ แม่ทำให้เค้าขนาดนี้ เพื่อนในแก็งค์ก็ดีกับเค้ามากครับ เค้ากลับมองเห็นทุกคนเป็นลมอากาศ
8. เค้าอยากจะพูดจะคุยกับคนที่อยากคุย หรือใครที่มีสิ่งที่สนใจเดียวกับเค้าครับ ก็ยังดีครับ ผมแค่อยากรู้ว่าเค้าเป็นอะไร
9.ตอนนี้พวกเราในครอบครัว และเพื่อนสนิทพี่เค้า ปลงและปล่อยแล้วครับ ให้เค้าใช้ชีวิตที่เหลือแบบนั้นครับ จะซัพพอร์ทเท่าที่ทำได้ ครับ
10. สิ่งที่ผมเคยถามว่า เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เค้าตอบมาว่าไม่อยากเจอใคร ไม่อยากคุยกับใครอยากอยู่คนเดียวสักพัก อีกวันไปเจอเพื่อนร้านกาแฟครับ งงเลยครับ 55555 ผมบอกไม่เป็นไรนะ ผมเข้าใจพี่ผมตอบ อย่ายุ่ง แกไม่เข้าใจหรอ ปัญหาของตรู ตรูมีแต่ปัญหาในชีวิต รู้ทุกอย่าง ของปัญหา แกไม่เข้าใจหรอก ผมนิอึ้งไปเลย
11. ตอนนี้พี่ผมเหมือนสมองกำลังโดนโรคร้ายที่กัดกินก่อนความคิดความรู้สึก เป็นโรคระแวง เป็นโรคอะไรครับ ซึมเศร้าหรืออะไร แต่ก็เห็นร้องเพลง ร่าเริงกับเพื่อนกลุ่มอื่น ผมไม่เค้าใจ
ใครที่มีประสบการณ์ด้านนี้ช่วยบอกผมทีนะครับ ผมสงสารแม่ ทุกวันนี้แม่ทำได้แค่ปลงครับ ตัดพ้อกับผมตลอดว่า ถึงแม่ตายไปก็ไม่เสียใจเลยใช่ไหม ไม่เห็นความสำคัญของแม่เลย หรือเค้าจะคิดได้ตอนที่ไม่มีแม่แล้ว และควรช่วยพี่ผมยังไงครับ หรือควรปล่อยไปกับแม่น้ำคงคาให้ไปเกิดใหม่ดีครับ
ผมไม่เข้าใจว่าพี่ผมเป็นอะไร ณ ตอนนี้ อยากถามผู้รู้และเข้าใจสภาวะจิตใจเค้าด้วยครับ