เขาทำงานเก่ง ผมรู้ แต่ผมก็(เข้าข้างตัวเอง) ว่าผมก็เก่ง ไม่ด้อยไปกว่าเขา
ถ้าคนผลงานดีๆ เลิศๆไปเลย ผมไม่เคยอิจฉาครับ ผมชื่นชม และเอาเป็นแบบอย่าง
แต่กับคนนี้ ก้ำกึ่ง ใจผมรู้สึกไม่ยอม
นายชมเขาบ่อยมาก (ได้เงินพิเศษเยอะกว่าผม)
นายชมผมเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยเท่าเขา
ทุกครั้งที่เขามีผลงานที่ดี ใจผมโคตรทรมาน มันร้อนจริงๆครับ ทุกข์มากจริงๆ
ผมรู้ว่ามันคือกิเลส มันไม่ดี แต่พอจิตใจโดนครอบงำแบบนี้ ผมหาทางออกไม่ถูก
สวดมนต์ก็ไม่หาย ไปทำบุญ ใจก็ยังไม่เย็นลง ฟังคลิปหลวงปู่ หลวงพ่อหลายองค์เลย อยากหลุดออกจากความทรมานนี้
ผมคิดจะยื่นใบลาออก ผมลาพักร้อนไปเจ็ดวัน ไม่อยากทำแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว
วันนี้ เอาอีกแล้วครับ นายชมเขา แต่ใจผมไม่ร้อนเท่าเดิม ผมเลยลองทบทวนดู มันหายไปไหนนะ ความอิจฉา
คงเพราะ ผมเอาใจไปไว้ที่อื่นครับ ผมไม่คิดว่าผมจะอยู่ในโลกนี้ได้อีกนานนัก (ผมชอบเจริญมรณสติ)
ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของผมป่วยติดเตียง พอไปเยี่ยม ใจผมก็สลด เลยเอาความสลดนี้ มาสอนตัวเอง
ผมเห็นอีกว่า ผมแข่งกับเขา เพราะอยากได้ผลงาน อยากได้รางวัล ตรงนี้ คือ ความโลภของผม
ผมเลยเปลี่ยนใหม่ คิดว่า ผมขอทำงาน เพื่อ สร้าง ผลงาน โดยไม่เพ่งเล็งแต่เฉพาะผลตอบแทนจากเจ้านาย
ผมจะเอา ความสุขทางใจของผม ที่งานผมสำเร็จ ดีกว่า ในเมื่อผมทำเต็มที่แล้ว และพัฒนาตัวเองเสมอ เรื่องงานให้ผมติตัวเองไม่ได้ก็พอ
ดีใจครับ ที่ความเร่าร้อนในใจ มันทุเลาลงได้สักที
และพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก (ผมหวังว่านะ)
ความอิจฉาน่ากลัวนะครับ เราสามารถหมั่นไส้อีกฝ่ายได้ โดยที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไรเลย นอกจาก "ดีกว่า" เราเท่านั้นเอง
✨
มาครับมา
มาแชร์ประสบการณ์เป็นวิทยาทาน และ ธรรมทานให้กันและกัน
มาคุยกันเถิดนะครับ ว่าคุณเคยอิจฉาใครเรื่องใดบ้าง และผ่านมันมาได้ยังไง ?
ขอบคุณครับผม 🙏🏻
✨🤍❤️🩹✨ คุณมีวิธี “ดับไฟริษยา” หรือ “ลดความอิจฉา” ในใจคุณ ไหมครับ ? มาแชร์ความทุกร้อนของไฟกองนี้ และวิธีดับไฟกองนี้กัน
ถ้าคนผลงานดีๆ เลิศๆไปเลย ผมไม่เคยอิจฉาครับ ผมชื่นชม และเอาเป็นแบบอย่าง
แต่กับคนนี้ ก้ำกึ่ง ใจผมรู้สึกไม่ยอม
นายชมเขาบ่อยมาก (ได้เงินพิเศษเยอะกว่าผม)
นายชมผมเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยเท่าเขา
ทุกครั้งที่เขามีผลงานที่ดี ใจผมโคตรทรมาน มันร้อนจริงๆครับ ทุกข์มากจริงๆ
ผมรู้ว่ามันคือกิเลส มันไม่ดี แต่พอจิตใจโดนครอบงำแบบนี้ ผมหาทางออกไม่ถูก
สวดมนต์ก็ไม่หาย ไปทำบุญ ใจก็ยังไม่เย็นลง ฟังคลิปหลวงปู่ หลวงพ่อหลายองค์เลย อยากหลุดออกจากความทรมานนี้
ผมคิดจะยื่นใบลาออก ผมลาพักร้อนไปเจ็ดวัน ไม่อยากทำแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว
วันนี้ เอาอีกแล้วครับ นายชมเขา แต่ใจผมไม่ร้อนเท่าเดิม ผมเลยลองทบทวนดู มันหายไปไหนนะ ความอิจฉา
คงเพราะ ผมเอาใจไปไว้ที่อื่นครับ ผมไม่คิดว่าผมจะอยู่ในโลกนี้ได้อีกนานนัก (ผมชอบเจริญมรณสติ)
ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของผมป่วยติดเตียง พอไปเยี่ยม ใจผมก็สลด เลยเอาความสลดนี้ มาสอนตัวเอง
ผมเห็นอีกว่า ผมแข่งกับเขา เพราะอยากได้ผลงาน อยากได้รางวัล ตรงนี้ คือ ความโลภของผม
ผมเลยเปลี่ยนใหม่ คิดว่า ผมขอทำงาน เพื่อ สร้าง ผลงาน โดยไม่เพ่งเล็งแต่เฉพาะผลตอบแทนจากเจ้านาย
ผมจะเอา ความสุขทางใจของผม ที่งานผมสำเร็จ ดีกว่า ในเมื่อผมทำเต็มที่แล้ว และพัฒนาตัวเองเสมอ เรื่องงานให้ผมติตัวเองไม่ได้ก็พอ
ดีใจครับ ที่ความเร่าร้อนในใจ มันทุเลาลงได้สักที
และพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก (ผมหวังว่านะ)
ความอิจฉาน่ากลัวนะครับ เราสามารถหมั่นไส้อีกฝ่ายได้ โดยที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไรเลย นอกจาก "ดีกว่า" เราเท่านั้นเอง
✨
มาครับมา
มาแชร์ประสบการณ์เป็นวิทยาทาน และ ธรรมทานให้กันและกัน
มาคุยกันเถิดนะครับ ว่าคุณเคยอิจฉาใครเรื่องใดบ้าง และผ่านมันมาได้ยังไง ?
ขอบคุณครับผม 🙏🏻