คนเราจะทวงบุญคุณกันได้อีกแค่ไหน

สวัสดีค่ะ ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ "คนเราจะทวงบุญคุณกันได้อีกแค่ไหน"

เรื่องมีอยู่ว่า พ่อกับแม่เรามีลูกตอนอายุเยอะแล้ว ช่วงเวลาของเขาคือผู้สูงอายุ กับเราคือวัยเพิ่งเริ่มทำงาน ความคิดคือจะไม่ลงลอยกันเลย เพราะค่อนข้างหัวโบราณ และการมีลูกนั้นเพื่อดูแลตอนแก่เฒ่า
บ้านเราก็ฐานะไม่ได้ดีมาก ปานกลางค่ะ 
ที่บ้านมีวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ค่ะตอนเด็ก แล้วเราเลยมีความคิดที่ว่าจะทำงานพาร์ทไทม์เพื่อจะช่วยเหลือที่บ้าน (คืออยากได้อะไรไม่ต้องขอเขา)
ตอนแรกแม่ไม่เห็นด้วยค่ะว่าเราจะไปทำงานกับคนอื่นได้เพราะแม่เห็นแค่สิ่งที่เราประพฤติตัวที่บ้าน
แต่เรามั่นใจในตัวเราค่ะว่าเราสามารถปรับตัว ทำงานที่ได้รับมอบหมาย (ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ)

ตอนแรก ๆ ได้เงินก้อนแรกของการทำงาน เราให้ที่บ้านหมดค่ะ แม่ก็เริ่มเปิดใจเรื่องการทำงาน
เราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย (ตั้งแต่อายุ 18 - เรียนมหาวิทยาลัยจบ)
เงินที่ได้ช่วงแรกเรายังไม่มีสิ่งที่อยากได้ เราก็เทให้ทางบ้านหมดค่ะ
พอหลังจากนั้นเราเริ่มมีสิ่งที่อยากได้ เราก็แบ่งให้เขาเท่าที่เราไหว 

เราทำงานจนเราไม่สามารถหยุดได้เลย (หยุดในที่นี้คือ เราเคยมีความคิดว่า อยากจะเป็นเหมือนคนอื่นที่แค่เรียนอย่างเดียว 
ไม่อยากเหนื่อยแบบนี้) ระหว่างเรียนเราก็มีย้ายงานบ้าง แต่ทุก ๆ เดือนเราก็ยังส่งให้ที่บ้านนะคะ 

คำว่าพาร์ทไทม์ มันก็ไม่ได้หรูหราอะไรใช่มั้ยคะ 
ของเราจะเป็นการทำงานหลังเลิกเรียน และมีทำงาน 6 วัน / สัปดาห์  เสาร์อาทิตย์ทำเต็มวัน
เฉลี่ยแต่ละเดือน เราจะให้อยู่ที่ประมาณ 50% ของเงินเดือนเราค่ะ แต่มันก็ไม่พอกับที่แม่หวัง

เขาจะมาเปรียบเทียบว่า พี่ชายเรา (ซึ่งเรียนจบก่อน ทำงานประจำก่อน ซึ่งมันก็ได้เงินมากกว่า มีกำลังให้แม่ได้มากกว่าอยู่แล้ว)
ว่าพี่ชายให้แม่ตั้งเดือนละ 5,000 แต่เราให้เขาแค่นิดเดียว แล้วก็ชอบทวงบุญคุณต่าง ๆ ที่เขาซัพพอร์ตเราประจำ
เราอธิบายไปแล้วว่า เงินเดือนเราก็นิดเดียว จะเอามาเปรียบเทียบกันได้ไง เราให้ทุกเดือนก็ดีเท่าไหร่ ตั้งแต่อายุ 18 เราก็ไม่เคยหยุดทำงานเลย
ซึ่งพี่ชายเราไม่เคยมาทำแบบเรา แค่เรียนอย่างเดียว จบก็ทำงาน 

เรารู้สึกว่า บ้าน Toxic เกินไป เขาจะมีคำพูดกรอกหูเราเรื่องเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย,บุญคุณ + กับหลาย ๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิตตอนนั้น
จนเรามีภาวะซึมเศร้า ไปหาหมอกินยา เราเคยเปิดกับแม่ว่า เราเป็นซึมเศร้านะ  สิ่งที่ได้คือเสียงหัวเราะเยาะเราค่ะ ไม่มีปรอบใจ หรือเข้าใจเรา
ไม่เป็น Safe zone อะไรเลย   

อ้อ ความรักเราก็มีนะคะ เราอยากออกไปอยู่หอกับแฟน เราคิดว่าเราดูแลตัวเองได้ 
แม่ก็คัดค้านค่ะ และก็ประโยคเด็ดว่า " อายุ 23 เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว มีงานทำแล้วจะปล่อย "

เราทะเลาะกันตั้งแต่เราอายุ 20 เรากัดฟันผ่านวัน จนถึงเวลาที่เขาสัญญาค่ะ ระหว่างนั้นเวลาทะเลาะกันเราเงียบ
ไม่อยากตอบโต้ เพราะเหนื่อยค่ะ ไหนจะงาน ไหนจะเรียน ไหนจะคนที่บ้าน เราคิดในใจว่า จะรีบเรียนจบ เราอยากมีอิสระ
จนมันใกล้จะถึงสัญญาค่ะ เราทวนสัญญากับเขา เขาก็พูดว่า ถึงวันเกิดจะไปเลยหรอ ให้พ้นปี เรียนจบมีงานประจำก่อน
เราก็ อะ.. โอเค พูดแล้วนะ

จนเวลาผ่านไป เราเรียนจบมีวุฒิ เราออกจากงานที่ทำพาร์ทไทม์ มาทำงานประจำจริง ๆ ซักที 
คำตอบที่ได้คือ พ่อแม่แก่ คิดจะทิ้งหรอ ค่าใช้จ่ายในบ้าน บลาๆๆๆ สรุปที่สัญญากันมาเขาแค่สัญญาส่งเดช
ทวงบุญคุณทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เราออกไปจากบ้าน 

เราอยากออกมาอยู่ข้างนอกจริง ๆ ค่ะ อยู่ไปเรารู้สึกท้อกับคำพูดที่เขาพูดกับเรา ทั้ง ๆ ที่เราก็พยายามช่วยที่บ้านในแบบของเรา
แต่มันไม่พอใจสำหรับเขา

ชอบทวงบุญคุณว่าเขาทำอะไรให้เราบ้าง มาบงการชีวิตแทบทุกอย่าง ทั้งการที่ไม่ให้เรามีแฟนตอนเรียน (คิดว่าเราจะท้องตอนเรียน เพราะฟัง
คำคนอื่นพูดกรอกหูเขาอีกที)  จนเราพูดประชดไปว่า เอาชีวิตเราไปใช้เลยมั้ย ห่วงเรื่องเราจะไป เย กับ ผช จนท้อง เราก็ประชดไปว่า เอากีไปใช้เองเลยมั้ย
ซึ่งอาจจะดูรุนแรง แต่ก่อนหน้านี้ เราพูดดี อธิบายดีมาก่อน 

ปัจจุบัน ทำงานประจำเรียนจบ อายุเกิน 23 ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย อยากหาวิธีออกจากบ้านนี้เร็ว ๆ ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่