จะว่าไป มันก็ สะท้อนถึง กระบวนการยุติธรรมของเรา .. ทำเค้าสาหัส ดวงตามีปัญหาตลอดชีวิต ถึงเวลา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เฮ้อออ

ยิ่งฟัง ทั้งแม่ ทั้งเมีย ให้สัมภาษณ์ยิ่งอนาถกับความคิดคน ครับ

คิดว่าสิ้นสุดคดีก็น่าจะเรียกได้ไม่กี่หมื่นบาท เพราะดูวิธีการต่อสู้คดีของผู้ตายที่มีทนายความมีการวางแผนเหมือนค้านตลอด แทบไม่เจรจา
ผู้ตายทำงานอู่การเงินก็น่าจะดีกว่า ผู้ยิงที่ขับรถส่งของที่ หากต่อสู้คดีไปนานๆ มีทนายความต่อรองค้านคดีไปเรื่อยๆ  กว่าจะสิ้นสุดทุกศาล ใช้เวลาหลายปีแล้ว เรื่องก็จะเงียบเพราะในไม่กี่วันก็จะมีข่าวใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก ดูจากคลิปข่าวตอนเกิดเหตุต่อยกัน ผู้ยิงสู้ไม่ได้แล้วอยู่ในจุดที่โดนต่อยหนัก อย่างเดียวเลย แล้วแพทย์ก็วินิจฉัยว่าน่าจะโดนพวกสนับมือ หรือ แหวน โดยสำคัญตรงช้ำในบริเวณที่ตา ค่าใช้จ่ายสูงมาก กว่าจะจบคดีคิดว่า อาจตาบอด/หรือ ตาเสียมองไม่ชัดไปเรียบร้อยก็ได้ คงคิดว่าไหนๆ ก็ตาเสียแล้วก็แก้แค้นแล้วเข้าคุกเลยดีกว่า เพราะอยู่ข้างนอกกับในคุกก็ค่าเท่ากัน
แล้ว

ปัญหาทั้งหมดทั้งปวงเกิดจาก  เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เห็นอยู่แล้วว่า  มือปืนถูกทำร้ายร่างการสาหัส  เข้ากรณีอาญา(ยอมความหรือไกล่เกลี่ยไม่ได้)
ตำรวจจะต้องจับคนตายมาดำเนินคดีแล้วส่งฟ้องสถานเดียว

ส่วนเรื่องการเรียกค่ารักษาพยาบาลเป็นกรณีแพ่งต้องแยกฟ้องต่างหาก

คหส่วนตัว  น่าจะเป็นเพราะมือปืนคงไม่ไว้ใจตำรวจเรื่องทำคดี
เลยตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเอง