สำหรับท่านที่อ่าน จะตักเตือนหรือแนะนำได้ไม่ว่ากันเลยนะคะ เพราะที่มาตั้งกระทู้อยากให้หลายๆแชร์เรื่องราวและทางออกให้มากกว่าการตำหนิหรือซ้ำเติม
เราอายุ25ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนเดียว ส่วนตัวอยู่กับป้าตั้งแต่เด็ก แม่และพ่อแยกทางกัน พ่อจะเป็นคนส่งเสียเราตั้งแต่เด็กจนโต จนเรามีลูก1คน และเลิกกับพ่อของลูกไป เราไม่เคยทำงานเลยค่ะ เพราะพ่อทำงานเป็นกัปตันเรือส่งเสียให้เราตลอด ไม่ใช่พ่อไม่ให้ทำงานนะคะ แต่เป็นที่เราเองที่เคยสบายมาตลอด และคิดว่าถึงจะลำบากยังไงก็ยังมีพ่อคอยช่วยตลอด
เราไม่มีสินเชื่อ บัตรเครดิต หนี้ หรือทรัพย์สินอะไรที่เป็นชื่อตัวเองไม่มีประวัติเสียด้านการเงิน
เมื่อปี้2019 เราเริ่มคิดว่าจะพึ่งพ่อตลอดไม่ได้ เลยหาทำธุรกิจส่วนตัวพ่อให้เงินมา 1ก้อน เราเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่นตัวละ100 และบวกกับโควิดเลยไปต่อไม่ได้ขาดทุนจม จนลองไปทำงานเป็นลูกจ้างเขาขายเสื้อผ้าในห้าง แต่เราไม่ทนงานพวกนี้เลยจริงๆเลยออกมา
และหาช่องทางทำเงินเพราะเราถนัดการใช้อินเตอร์เน็ต ขอทุนพ่ออีกครั้งและพ่อก็เริ่มพูดกับเราว่าเขาอายุเยอะแล้วนะ ต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้แล้ว เราหาเงินด้วยการจับโทรศัพท์มือสองมาขายในกลุ่ม รับแลกวงเงินจากแอพผ่อนสินค้าต่างๆ ทำมาตลอด ทุกอย่างไปได้ดีค่ะ เราเก็บเงินก้อนได้ มีคนรู้จักในวงการนี้ที่ทำตรงนี้ด้วยการ ที่สนิทและซื้อขายกันตลอด เราฝากเงินไว้กับพ่อทั้งหมด 4แสนนั่นคือกำไรที่หามาได้ในระยะเวลา 1ปี พ่อดีใจมากๆค่ะ เรารู้สึกดีมากๆที่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนพ่อบอกว่าเรือพ่อจะออกไปสิงคโปร์น่าจะนานกว่าจะกลับไทย จะเอาเงินไว้ใช้ไหมเผื่อฉุกเฉิน แต่เราคิดว่าทุนที่เรามีอยู่ยังพอเลยไม่ได้เอาไว้ ฝากไว้ที่พ่อเหมือนเดิม
จนช่วงกลางปีนี้ลูกค้าที่เคยซื้อของประจำกับเราก็มาลงสต็อคใหญ่ยอดทั้งหมด 378,000 ของหลายตัวทั้ง ipad iphone pencil และสินค้า apple ตัวอื่นๆ แต่ของเรามีไม่ถึงเพราะแอพที่รับแลกมีปัญหาช่วงนั้นเลยไม่ได้กดของมา เราเลยติดต่อกับคนรู้จักที่เคยซื้อขายด้วยกันถามเขาว่ามีของตัวไหนแบ่งได้บ้างไหมเพราะลูกค้าประจำมาถาม เขาก็ลิสออเดอร์มาว่ามีครบเกือบทุกตัว เราก็โอเค โอนยอดให้ทั้งหมด 317,000 ปกติเราจะซื้อขายกันราคาส่งอยู่แล้ว และยอดมากกว่านี้ก็เคยซื้อขายกันจนผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็ไม่ส่งของให้ลูกค้าและหายไปเลย เงินทุนเราตอนนั้นก็ลงของอีกชุดไป เลยตึ้บเลยกลัวจะเสียลูกค้า กลัวจะโดนประจาน เพราะไม่เคยมีปัญหาพวกนี้เลย จนคุยกับเพื่อนหาทางออกเรื่องนี้ เพื่อนบอกให้เรายื่นสินเชื่อผู้ขายของช็อปปี้ เพราะเราขายของในนั้นด้วย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าแค่อยากได้เงินมาคืนลูกค้าก่อนแล้วค่อยตามเรื่องเอาตามกฏหมาย เพราะมันคือความรับผิดชอบเรา เลยกดยื่นสินเชื่อไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในแอพแจ้งว่าผ่าน ยอด 1,000,000ล้านบาท เราเลยโทรหาเพื่อนว่ามันเยอะเกินไป ถ้าแบบนี้เราจะส่งไม่ไหว เพราะส่ง60เดือน 5ปีเลย เราไม่ได้อยากเป็นหนี้ แต่เพื่อนก็ยืนยันว่ากดแล้วมันขอปรับยอดได้ว่าจะเอาเท่าไหร่ เราเลยกดยอมรับไป ไม่ถึง1นาทีเงินเข้าบัญชีมา 9แสน8หมื่น เราตกใจมากโทรหากสิกรจะขอคืนก็คือไม่ได้แล้ว เราเลยเอาเงินตรงนั้นคืนลูกค้าไปก่อน แล้วเอาที่เหลือ จ่ายคืนกสิกรไป เหลือติดบัญชี 50,000
ก็คิดว่าเอามาต่อยอดได้ แต่เอาเข้าจริงๆปีนี้คงเป็นปีที่แย่มากๆ เราโดนโกงต่อจากนั้น นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเงินเล็กเงินน้อย หลักหมื่นหลักพัน จนตอนนี้ก็ต้องจ่ายหนี้ธนาคารที่เหลือ พ่อก็ยังไม่กลับมา เงินติดตัวเราแทบไม่มีเลย ยืมเพื่อน พี่น้อง มีคนคอยช่วย แต่เรากำหนดวันที่จะคืนให้ไม่ได้เลย เพราะพ่ออยู่กลางทะเลติดต่อไม่ได้ เรายืมแค่เอาไว้ใช้ต่อวันเพราะเกรงใจเขา ทุกวันนี้หดหู่มากค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอยู่จุดนี้ เป็นหนี้ครึ่งล้าน ไม่มีรายได้เข้ามาสักบาทต่อวัน ไม่มีหนทางทำเงินหาเงิน แต่รายจ่ายก็มีทุกวัน ค่าใช้จ่ายค่ากิน ค่าน้ำไฟ นั่งร้องไห้กับตัวเองว่าพลาดตรงไหน จนบางทีคิดอยากจะหนีไปไกลๆด้วยซ้ำ เพราะหลายคนที่เห็นเรามี ก็รอเหยียบซ้ำเราเหมือนกัน เราแทบไม่กล้าแบกหน้าทักไปยืมเงินใครเพราะไม่รู้เลยว่าคนไหนที่พร้อมช่วยเหลือ คนไหนที่รอซ้ำเติม
เราขายของในตัวทุกอย่างเลยค่ะ โทรศัพท์ คอม เสื้อผ้า เอามาใช้จ่าย
จนตอนนี้ลงขายตู้เสื้อผ้า โซฟา ของใช้ในบ้าน เพราะไม่อยากจะทักไปยืมเงินใคร เครียดมากค่ะ ไม่มีที่ระบายเลยจริงๆ
แบบนี้เรียกว่าชีวิตพังไหมคะ
เราอายุ25ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนเดียว ส่วนตัวอยู่กับป้าตั้งแต่เด็ก แม่และพ่อแยกทางกัน พ่อจะเป็นคนส่งเสียเราตั้งแต่เด็กจนโต จนเรามีลูก1คน และเลิกกับพ่อของลูกไป เราไม่เคยทำงานเลยค่ะ เพราะพ่อทำงานเป็นกัปตันเรือส่งเสียให้เราตลอด ไม่ใช่พ่อไม่ให้ทำงานนะคะ แต่เป็นที่เราเองที่เคยสบายมาตลอด และคิดว่าถึงจะลำบากยังไงก็ยังมีพ่อคอยช่วยตลอด
เราไม่มีสินเชื่อ บัตรเครดิต หนี้ หรือทรัพย์สินอะไรที่เป็นชื่อตัวเองไม่มีประวัติเสียด้านการเงิน
เมื่อปี้2019 เราเริ่มคิดว่าจะพึ่งพ่อตลอดไม่ได้ เลยหาทำธุรกิจส่วนตัวพ่อให้เงินมา 1ก้อน เราเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่นตัวละ100 และบวกกับโควิดเลยไปต่อไม่ได้ขาดทุนจม จนลองไปทำงานเป็นลูกจ้างเขาขายเสื้อผ้าในห้าง แต่เราไม่ทนงานพวกนี้เลยจริงๆเลยออกมา
และหาช่องทางทำเงินเพราะเราถนัดการใช้อินเตอร์เน็ต ขอทุนพ่ออีกครั้งและพ่อก็เริ่มพูดกับเราว่าเขาอายุเยอะแล้วนะ ต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้แล้ว เราหาเงินด้วยการจับโทรศัพท์มือสองมาขายในกลุ่ม รับแลกวงเงินจากแอพผ่อนสินค้าต่างๆ ทำมาตลอด ทุกอย่างไปได้ดีค่ะ เราเก็บเงินก้อนได้ มีคนรู้จักในวงการนี้ที่ทำตรงนี้ด้วยการ ที่สนิทและซื้อขายกันตลอด เราฝากเงินไว้กับพ่อทั้งหมด 4แสนนั่นคือกำไรที่หามาได้ในระยะเวลา 1ปี พ่อดีใจมากๆค่ะ เรารู้สึกดีมากๆที่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนพ่อบอกว่าเรือพ่อจะออกไปสิงคโปร์น่าจะนานกว่าจะกลับไทย จะเอาเงินไว้ใช้ไหมเผื่อฉุกเฉิน แต่เราคิดว่าทุนที่เรามีอยู่ยังพอเลยไม่ได้เอาไว้ ฝากไว้ที่พ่อเหมือนเดิม
จนช่วงกลางปีนี้ลูกค้าที่เคยซื้อของประจำกับเราก็มาลงสต็อคใหญ่ยอดทั้งหมด 378,000 ของหลายตัวทั้ง ipad iphone pencil และสินค้า apple ตัวอื่นๆ แต่ของเรามีไม่ถึงเพราะแอพที่รับแลกมีปัญหาช่วงนั้นเลยไม่ได้กดของมา เราเลยติดต่อกับคนรู้จักที่เคยซื้อขายด้วยกันถามเขาว่ามีของตัวไหนแบ่งได้บ้างไหมเพราะลูกค้าประจำมาถาม เขาก็ลิสออเดอร์มาว่ามีครบเกือบทุกตัว เราก็โอเค โอนยอดให้ทั้งหมด 317,000 ปกติเราจะซื้อขายกันราคาส่งอยู่แล้ว และยอดมากกว่านี้ก็เคยซื้อขายกันจนผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็ไม่ส่งของให้ลูกค้าและหายไปเลย เงินทุนเราตอนนั้นก็ลงของอีกชุดไป เลยตึ้บเลยกลัวจะเสียลูกค้า กลัวจะโดนประจาน เพราะไม่เคยมีปัญหาพวกนี้เลย จนคุยกับเพื่อนหาทางออกเรื่องนี้ เพื่อนบอกให้เรายื่นสินเชื่อผู้ขายของช็อปปี้ เพราะเราขายของในนั้นด้วย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าแค่อยากได้เงินมาคืนลูกค้าก่อนแล้วค่อยตามเรื่องเอาตามกฏหมาย เพราะมันคือความรับผิดชอบเรา เลยกดยื่นสินเชื่อไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในแอพแจ้งว่าผ่าน ยอด 1,000,000ล้านบาท เราเลยโทรหาเพื่อนว่ามันเยอะเกินไป ถ้าแบบนี้เราจะส่งไม่ไหว เพราะส่ง60เดือน 5ปีเลย เราไม่ได้อยากเป็นหนี้ แต่เพื่อนก็ยืนยันว่ากดแล้วมันขอปรับยอดได้ว่าจะเอาเท่าไหร่ เราเลยกดยอมรับไป ไม่ถึง1นาทีเงินเข้าบัญชีมา 9แสน8หมื่น เราตกใจมากโทรหากสิกรจะขอคืนก็คือไม่ได้แล้ว เราเลยเอาเงินตรงนั้นคืนลูกค้าไปก่อน แล้วเอาที่เหลือ จ่ายคืนกสิกรไป เหลือติดบัญชี 50,000
ก็คิดว่าเอามาต่อยอดได้ แต่เอาเข้าจริงๆปีนี้คงเป็นปีที่แย่มากๆ เราโดนโกงต่อจากนั้น นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเงินเล็กเงินน้อย หลักหมื่นหลักพัน จนตอนนี้ก็ต้องจ่ายหนี้ธนาคารที่เหลือ พ่อก็ยังไม่กลับมา เงินติดตัวเราแทบไม่มีเลย ยืมเพื่อน พี่น้อง มีคนคอยช่วย แต่เรากำหนดวันที่จะคืนให้ไม่ได้เลย เพราะพ่ออยู่กลางทะเลติดต่อไม่ได้ เรายืมแค่เอาไว้ใช้ต่อวันเพราะเกรงใจเขา ทุกวันนี้หดหู่มากค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอยู่จุดนี้ เป็นหนี้ครึ่งล้าน ไม่มีรายได้เข้ามาสักบาทต่อวัน ไม่มีหนทางทำเงินหาเงิน แต่รายจ่ายก็มีทุกวัน ค่าใช้จ่ายค่ากิน ค่าน้ำไฟ นั่งร้องไห้กับตัวเองว่าพลาดตรงไหน จนบางทีคิดอยากจะหนีไปไกลๆด้วยซ้ำ เพราะหลายคนที่เห็นเรามี ก็รอเหยียบซ้ำเราเหมือนกัน เราแทบไม่กล้าแบกหน้าทักไปยืมเงินใครเพราะไม่รู้เลยว่าคนไหนที่พร้อมช่วยเหลือ คนไหนที่รอซ้ำเติม
เราขายของในตัวทุกอย่างเลยค่ะ โทรศัพท์ คอม เสื้อผ้า เอามาใช้จ่าย
จนตอนนี้ลงขายตู้เสื้อผ้า โซฟา ของใช้ในบ้าน เพราะไม่อยากจะทักไปยืมเงินใคร เครียดมากค่ะ ไม่มีที่ระบายเลยจริงๆ