มีมุมมองในการใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ เพราะท่านให้เหตุผลว่า ‘หนี้พวกนี้ก็มาจากที่ส่งเสียให้เรียนทั้งนั้นแหละ’ กันยังไงบ้างคะ

เรากู้ กยศ เรียนมหาลัยค่ะ แน่นอนว่าหนี้ก้อนนั้นเราต้องใช้เอง แต่ก้อนที่พ่อแม่ส่งเราเรียนมาก่อนมหาลัย ค่าเรียน ค่ากินค่าอยู่ต่างๆ มันก็ทำให้เกิดหนี้ขึ้นมา พอเรามีงานทำแล้วท่านก็ทิ้งตัวเลย และพยายามพูดให้เรารู้ว่าหนี้ทั้งหมดมีเท่าไหร่ นัยๆว่าเราควรเป็นคนจ่าย ส่วนใหญ่ก็ยืมมาจากญาติค่ะ ไม่ใช่หนี้รายเดือนที่ต้องจ่ายเหมือนสถาบันการเงิน มีแนวคิดหรือมุมมองยังไงบ้างให้เราเข้าใจมุมมองพ่อแม่มากขึ้นไหมคะ เราเองก็อยากสบายใจทุกครั้งที่เขาขอเงินไปใช้หนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้เรามีแต่ความไม่เข้าใจ หรือทุกคนมีความคิดเห็นว่าเราควรใช้หนี้พวกนั้นมากน้อยแค่ไหนกันคะ 

เราเอาความคิดที่ว่า ‘ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของเขาหนิที่ต้องเลี้ยงดูลูกให้ดีตามศักยภาพของเขา’ ออกไปจากหัวไม่ได้ 

มันอดคิดไม่ได้ว่าที่ผ่านคือยืมเงินพ่อแม่มาใช้ชีวิตเหรอ มีงาน มีเงิน ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตตัวเอง ใช้แต่หนี้ทั้งนั้นเลยเหรอ ถ้าพ่อแม่คิดว่าจะให้เราใช้หนี้ที่เขายืมมาทั้งหมดเพราะส่งเสียให้เรามีชีวิตที่ดี เรียนจนจบ เอาคืนทั้งหมดที่เคยให้มา แล้วทำไมเขาคาดหวังให้เรากลับไปเลี้ยงเขาล่ะ มีแต่ได้กับได้เลยหนิ

เราไม่อยากยอมรับเลยค่ะว่าเราคิดจริงๆว่าที่เกิดมาให้เขาต้องเป็นหนี้เป็นสินเนี่ย เราก็ไม่ได้ขอมาเกิด
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 88
เราจะมาเถียงกับตรรกะกีบ
ไม่ชนะหรอก

เพราะพวกนี้คือ

ฝังใจกับ ไม่ได้ขอมาเกิด

ทำไมพ่อแม่ไม่รวย

อยากรัฐสวัสดิการดีๆ ทั้งๆที่ไม่รู้จัก
กระทั่งรู้จัก ภงด.

โทษทุกคนที่ทำให้ตัวเองลำบาก

อยากรวยเร็วโดยไม่ทำงาน

อยากใช้ชีวิต
อยากท่องเที่ยว

พอไม่ได้ดั่งใจ ทำไมรัฐสวัสดิการไม่ดี คุณเคยไปประเทศที่รัฐสวัสดิการดีๆ คุณจะรู้ภาษีอาน แทบไม่มีคนไหนซื้อบ้านได้เลย โอกาศรวยแทบไม่มี

แต่ที่เขาดูรวยตอนมาไทยคือ ค่าเงินเขาแพงแค่นั้น

มันทำให้พอเห็นฝรั่งก็เลยดูรวย

เพื่อนๆต่างประเทศของผมที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย บอกเลย กลุ่มกีบนี่ตลาดล่างบ้านเขาเลย


ตรรกะชุดความคิดแบบกีบแท้ๆ

เฮ้ยยยยย
คนญี่ปุ่น เกาหลี คนจีน
คนรุ่นใหม่เขาทำงานหนักขนาดไหน แข่งขันรุนแรง ขยันเรียนทำงานสร้างตัว

มีแต่เด็กไทยบางกลุ่มโดนล้างสมองยุทุกวี่วัน
เห็นแล้วอนาถ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เห็นประจำ (ไม่ใช่เหมารวมทุกคนนะ แต่เยอะ) .... พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบเงินที่หามาได้ไปทั้งหมดลงให้ลูกหมด ทั้งเงิน ทั้งเวลา ความเอาใจใส่ ค่าเรียน กิน เที่ยว กิจกรรมเสริมพัฒนาการ ค่าใช้จ่ายสารพัด ฯลฯ แต่พอลูกตั้งตัวได้ แค่จะแบ่งเงินเดือนมาให้ไม่กี่ % คิดมาก คิดเยอะ มีภาระ อยากใช้ชีวิตเอง ไม่อยากมีหนี้ ไม่ได้ขอมาเกิด บลาๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าพ่อแม่ เลี้ยงดูเรามาอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง หนี้พวกนั้นก็เกิดมาเพื่อให้คุณภาพชีวิตลูกดีกว่าฐานะที่มีตอนนั้น แล้วมันแปลกอะไรที่จะต้องช่วยใช้ได้บ้าง

   ยกตัวอย่าง พ่อแม่ รายได้น้อย อาศัยอยู่สลัม แต่กู้หนี้ยืมสินมาเพื่อให้ลูกเรียนเอกชน กู้เงินหาซื้อบ้านให้ลูกได้มีสังคมคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งไอ้หนี้พวกนี้มันไม่จบในชั่วชีวิตเดียวอยู่แล้ว พอส่งลูกถึงฝั่ง ลูกกลับถีบหัวเรือส่งบอกมันเป็นหน้าที่ต้องดูแลแบบนี้หรือ ทั้งๆที่ความจริงพ่อแม่เช่าห้องแถวที่สลัมอยู่ต่อ ส่งลูกเรียน รร วัด ก็ไม่ต้องมีหนี้แล้ว ถูกไหม มันเป็นความผิดของพ่อแม่สินะที่อยากให้ลูกมีโอกาสที่ดีกว่าพ่อแม่จนต้องสร้างหนี้

   กลับกันต่างหาก ลูกมีโอกาสที่ดีกว่าพ่อแม่ ได้ซัพพอร์ตมากมาย แต่หารายได้ ความสำเร็จได้น้อยกว่าที่ควร พ่อแม่กู้หนี้ยืมสินส่งเสียจนจบปริญญา กลับมาทำงานเงินเดือนถูกๆจนไม่พอจุนเจือครอบครัว ตั้งตัวเองไม่ได้ แล้วพ่อแม่จะส่งเสียไปเพื่ออะไร ตัวลูกๆนั่นแหละ มีทุนขนาดนี้ แต่ทำไมยังถีบตัวเองออกมาไม่ได้อีก ใครกันแน่ที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ??
ความคิดเห็นที่ 2
ผมมีคนรู้จักอยู่ไม่น้อย ที่พ่อแม่คิดแบบนี้ ส่งลูกเรียนไป พอทำงานแล้วค่อยให้ลูกมาช่วยใช้หนี้
ไม่รู้เอาความคิดแบบนี้มาจากไหน และ เป็นกันหลายครอบครัว

ถ้าเด็กคนนั้นไม่สามารถถีบตัวเองให้ออกจากวงจรนี้ และ วนวงจรสิ้นคิดแบบนี้ไปรุ่นลูกตัวเอง มันก็จะไม่จบไม่สิ้นซักที
เพราะจะสร้างตัวก็ไม่ได้ พอมีลูก ก็ยังต้องใช้หนี้สองทาง ทุ่มให้ลูกทุกอย่าง แก่มาไม่เหลืออะไร ให้ลูกเลี้ยง
ดังนั้น ถ้าคุณมองว่ามันไม่ดี สิ่งที่คุณเจอมาช่วยไม่ได้ ช่วยเขาใช้หนี้ไปตามที่เราไหว
และ พยามสร้างตัวเองให้ไว ถ้ามีลูก อย่าให้มันส่งต่อไปถึงรุ่นลูกเราก็พอ
ความคิดเห็นที่ 13
พูดในมุมมองของแม่คนหนึ่งนะคะ
จริงอยู่ที่คุณไม่ได้ขอมาเกิด การตั้งครรภ์คือภาวะเสี่ยงอย่างหนึ่งที่มีโอกาสเสียชีวิตได้เหมือนกัน เพียงแต่การแพทย์ปัจจุบันมันดีมาก และตั้งแต่ปฎิสนธิจนระยะเวลาคลอด 37-40 สัปดาห์มีโอกาสแท้งได้ทุกช่วงสัปดาห์ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่แท้งเองตามธรรมชาติระหว่างนี้ กำลังจะสื่อว่าถ้าไม่อยากมาเกิดก็สามารถหลุดได้ทุกเมื่อ ลูกเลือกพ่อแม่ไม่ได้ พ่อแม่ก็เลือกลูกไม่ได้เหมือนกันค่ะ มันเกิดตามกลไกธรรมชาติของการสืบพันธุ์ บางคนคุมกำเนิดหลายวิธีก็ยังคุมไม่ได้ คนอยากจะมาเกิดห้ามไม่ได้ เลือกจะไม่มาเกิดได้ไหมถ้าทำได้ตัวเราเองก็คงไม่มีชีวิตมาบนโลกนี้ แต่เมื่อชีวิตมันถือกำเนิดมาแล้ว แถมยังแข็งแรงจนคลอดออกมาแล้วจะยังไงต่อไป

กลับมาย้อนมองดูว่าที่ผ่านมาพ่อแม่เลี้ยงมายังไงบ้างคะ ส่งเสียให้เรียนที่ดี ๆ หรือเปล่า อดมื้อกินมื้อ ลำบากไหม พ่อแม่คาดหวังเอาแต่ได้กับเราไหม ถ้าสมมติว่าพ่อแม่ไม่หยิบนืมมาให้เราเรียน เส้นทางชีวิตเราจะเป็นยังไง

ทีนี้กลับมามองดูสภาพความเป็นจริง รายได้เรามีเท่าไหร่ สภาพเป็นอยู่พ่อแม่เป็นอย่างไร บางทีมันก็ต้องใช้หลายอย่างคิดพิจารณาขึ้นกับตัวเราเอง ขึ้นกับความผูกพันสายสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ รวมถึงศักยภาพทางการเงินของเราด้วย คำตอบมีสองอย่างคือช่วย กับไม่ช่วย อยู่ที่เราตัดสินใจ

ถ้าคำตอบคือจะช่วย ก็ต้องมาดูสรุปยอดหนี้ทั้งหมด ดูศักยภาพเรา แต่เคยเจอพ่อแม่บางประเภทที่บอกแต่มีหนี้ขอเงินลูกทุกเดือน ลูกก็ส่งให้ แต่แทนที่จะใช้หนี้เอาเงินไปซื้อหวยหมดก็มี ฉะนั้นควรกำหนดยอดให้ชัดเจนและขอเป็นคนคุยกับเจ้าหนี้เอง ผ่อนชำระเอง

ถ้าคำตอบคือไม่ช่วยก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร ตัด ๆ ไปบอกว่าเรายังเอาตัวไม่รอดเลย ให้พ่อแม่หาทางใช้หนี้เอาเอง

ส่วนตัวคิดว่าเอาจริง ๆ “พ่อแม่ที่ดี ๆ “ ทั่วไปไม่มีใครคิดเล็กคิดน้อยกับลูกหรอกค่ะ ให้แล้วก็ให้เลย ตอนนี้เลี้ยงลูกอยู่คนก่อนมีลูกใช้เงินประหยัดมาก พอมีลูกค่าใช้จ่ายอะไรที่ทำให้ลูกสบายขึ้น/เก่งขึ้น/ปลอดภัยขึ้นยอมจ่ายแบบไม่เสียดายเลย และคิดว่าเขาโตขึ้นก็จะปล่อยเขาโบยบินไปไม่ต้องกลับมาดูแลเราตอบแทนก็ได้ เพราะแค่เห็นเขาได้ดีเราก็มีความสุขแล้ว แต่ใครจะรู้อนาคต บางทีด้วยสังขารความชรา สุขภาพ ทำงานหาเงินได้ไม่เท่าเดิมก็อาจทำให้เกิดความเครียดได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าแก่ตัวมาตัวเองจะเป็นแบบที่ตั้งใจจะเป็นได้หรือเปล่า ยังไงก็ลองพิจารณาดูตามสมควรค่ะว่าพ่อแม่ของ จขกท.ท่านเป็นพ่อแม่ที่สมควรได้รับน้ำใจจากลูกไหม
ความคิดเห็นที่ 1
"เราไม่อยากยอมรับเลยค่ะว่าเราคิดจริงๆว่าที่เกิดมาให้เขาต้องเป็นหนี้เป็นสินเนี่ย เราก็ไม่ได้ขอมาเกิด"

= ที่คุณคิดก็ไม่ผิดค่ะ ไม่ได้ขอมาเกิด แต่เกิดมาแล้ว โตแล้ว จะทำยังไงได้ล่ะคะ กลับเข้าท้องแม่ก็คงไม่ได้แล้ว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป

ถึงจะเป็นหนี้คนอื่น แต่พ่อแม่เลี้ยงดูมาดีมั้ย ให้อดมื้อกินมื้อมั้ยคะ ถ้ายังกินอิ่มนอนหลับ ไม่ได้ลำบากอะไรก็ไม่ต้องสนใจคำพูดของพ่อแม่หรอก บางทีเขาเครียดก็พูดออกมา อย่าไปถือสาหาความกับพ่อแม่

ส่วนกู้กยศ. หลายคนก็กู้เรียน แล้วก็ใช้หนี้เองตอนทำงานแล้วทั้งนั้น ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ สิ่งที่ควรทำตัวเองให้ดี เรียนจบแล้ว มีงานดีๆทำแล้ว แล้วก็ตอบแทนพ่อแม่ตามความเหมาะสม ไม่ให้ตัวเองเดือดร้อนแล้วก็ไม่ละเลยพ่อแม่ ก็พอค่ะ

**จัดวรรคตอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่