สายเปย์ สายสลับกันจ่าย สายหาร ถ้าจะคบกันยาวนานแล้วแบบไหนดีกว่า

บางคนบอกว่าผู้หญิงทุกคนชอบผู้ชายสายเปย์ แล้วเราจะกลัวทำไม เค้าจะเปย์ก็ให้เค้าเปย์ไป เค้าหาเงินมาได้อยากจะใช้ยังไงก็ให้เขาใช้

- แต่ถ้าเราคบกับผู้ชายที่เงินเดือนพอ ๆ กันแล้วเค้าเปย์ให้เราตลอด คำถามคือเมื่อไหร่เค้าจะสร้างตัวเก็บเงินได้
- ถ้าเราคบกับคนที่เงินเดือนน้อยกว่าแล้วเค้าเปย์ให้ วันหนึ่งที่เงินเดือนเค้าไม่พอแล้วเค้าจะทำยังไงก็คือต้องให้เราออกให้ใช่ไหม (ใช่ เจอมา)
- ถ้าคบกับคนที่เงินเดือนมากกว่าแล้วก็เปย์ให้ทุก ๆ คน แต่ว่ากลับมาบ้านแล้วเงินเหลือไม่ค่อยมาก ถ้ามีลูกมีครอบครัวสร้างครอบครัวกันต้องมาเบียดเบียนส่วนนั้นกันหรือไม่
- เราเองก็เป็นสายเปย์ด้วยครอบครัวก็คงไม่ไปไหนคงเก็บเงินกันไม่ค่อยได้ 
- วันหนึ่งเรามาคิดว่าเวลาที่เราชอบเลี้ยงลูกน้องแล้วเขาก็ไม่เคยขอบคุณ แล้วเค้าก็จะคาดหวังว่าทุกๆครั้งที่เราไปกินด้วยกันบ่อย ๆ เราก็ต้องเป็นคนจ่าย ถ้าเป็นเงินเล็กน้อยอยู่ในงบฟุ่มเฟือย อยู่ในงบเลี้ยงสังสรรค์ เลี้ยงเพื่อนเป็นงบที่มีเอาไว้ให้เราเปย์ เราว่ามันก็โอเค แล้วถ้าเค้าเป็นคนแบบเดียวกับเราเงินทองน่าจะรั่วไหล
-แต่ปัญหาคือมีผู้ชายบางคนเปย์ทุก ๆ คน จนพอไม่มีเงินเราก็ต้องเลี้ยงข้าวออกค่าน้ำมันรถให้ ที่ชอบเลี้ยงตอนแรก ๆ คือโปรโมชั่นใช่ไหม 
ในความคิดเราก็คือถ้าจะเป็นสายเปย์ก็ต้องไหว หาให้ได้มากกว่าที่ตัวเองจ่ายแล้วก็ไม่กระทบการเงินของตัวเองแล้วก็ครอบครัวถึงจะคบกันยาว ๆ ได้

ทำให้บางครั้งเราคิดว่าสายเปย์อาจจะเป็นแค่โปรโมชั่น ถ้าจะคบกันยาว ๆ ก็ต้องดูให้ดี ๆ ว่าเค้ามีวินัยทางการเงินมากไหม จะเดือดร้อนครอบครัวในภายหลังไหม ไปออกให้คนที่ไม่สมควรออกให้ เช่นเค้าไม่ได้เดือดร้อน เรารู้สึกโอเคไหม ที่จริงเราไม่ชอบคนงก แต่สายเปย์เพลย์บอยแล้วหาเงินไม่เก่งเรารู้สึกว่าก็ไม่ไหว

คุณล่ะคะคิดว่ายังไง
ถ้าให้เลือกที่จะคบกันแต่งงานสร้างครอบครัว อยู่ด้วยกันไปยาว ๆ คุณว่าอยากได้คนแบบไหนดีกว่า
สายเปย์
สายสลับกันจ่าย
หรือ สายหาร

ดูกันยังไงคะไม่ให้เป็นภาระหรือว่าทะเลาะกันในวันหน้า

ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่าเราจะเลี้ยงกับผู้ชายกลับไม่ได้นะคะ ไม่ได้จะว่าผู้ชายสายเปย์ แต่ผู้ชายบางคนมักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่มีเงิน แต่ชอบหน้าใหญ่ให้สั่งเยอะ ๆ กินแพง ๆ เรารู้สึกว่ามันไม่โอเคที่จะใช้ชีวิตด้วย คือถ้าไม่มีเงินก็ควรประหยัดได้บ้างกินง่าย ๆ กินอะไรถูก ๆ ได้บ้างไม่ต้องหน้าใหญ่ไปเลี้ยงทุกคน (เราเองด้วย ชอบเลี้ยง) รู้สึกว่าเราไม่ได้อยากได้ผู้ชายประเภทเดียวกัน คงเก็บเงินกันไม่ได้ ยกเว้นว่าเค้าจะรวยมาก ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
สายเปย์แบบจัดการตัวเองได้ค่ะ

ส่วนใหญ่เจอแต่ผชเปย์ เพราะเราสวยด้วยแหละ (หลงตัวเองละหนึ่ง555) หลอกๆ นะ ส่วนหนึ่งก็ใช่ แต่อีกส่วนน่าจะเพราะเราเลือกแต่ผชที่ชอบเรามากๆ +เราชอบเขาด้วย ซึ่งเราก็มีมาตรฐานระดับนึงว่า ผชคนนั้นต้องเก่ง ฉลาด มีความสามารถสูง และโลกส่วนตัวสูง ซึ่งผชเหล่านี้มักจะมีเงิน และเลือกคนเพื่อน ไม่สังสรรค์บ่อย เจอเพื่อนนานๆ ที ปีละ 3 ครั้งพอ เพื่อนก็ไม่ใช่คนที่จะให้เลี้ยง เพราะเพื่อนก็มีเงินเหมือนกัน อ่าา แล้วเราก็ชอบคนทำธุรกิจมากกว่าทำงานประจำ เพราะมีเวลาให้มากกว่าด้วย พอมีเงินมาก+เก่ง การที่เขาจะเปย์มันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ถ้าเปย์แล้วมีปห จัดการไม่ได้ เปย์ไปทั่ว ฟุ่มเฟือยเกินพอดี อันนี้ไม่นับว่าสายเปย์สำหรับเรา

เปย์หมายถึงเปย์แค่เราเป็นหลัก ไม่ใช่หน้าใหญ่ไปทั่วจนตัวเองลำบาก อันนี้มันออกจะดู self esteem ต่ำ เลยต้องพยายามทำให้ตัวเองดูดีกับทุกๆ คนไปทั่ว

สำหรับเราก็เปย์แค่ค่าข้าวพอ ผชเปย์แบบให้เลือกช็อปปิ้งจ่ายให้ตลอดอันนั้นก็ไม่ไหว เพราะยังไม่ได้แต่งงานและเราก็ชอบดูแลตัวเองระดับนึง รู้สึกเกรงใจเกินไป ยกเว้นว่าเซอร์ไพรส์หรืออยากซื้อให้เองจริงๆ ถึงจะรับ และเราก็เปย์เขาในแง่คำปรึกษา กำลังใจน่ารักๆ ของขวัญทำมือ ทำอาหาร กรุบกริบ เพราะเราให้คำปรึกษาเก่ง คือเราเป็นคนฉลาด ซัพพอร์ตเก่ง คุยรู้เรื่อง ผชฉลาดเขาก็ชอบผญฉลาด คุยกันรู้เรื่อง ให้คำปรึกษาได้ น่ารักๆ กับเขา

เรามองว่าความรักความสัมพันธ์ต้องใช้ศิลปะนะ การได้เปย์คนอื่น มันเป็นจิตของผู้ให้อยู่แล้ว ให้แล้วก็จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองด้วย แต่ประเด็นคือเราต้องไม่รู้สึกขาดในสิ่งนั้นก่อน หารเท่ามันง่ายอยู่แล้ว เราก็มีเงินพอจะหาร แต่เราคิดว่าในเมื่อคนให้ไม่ลำบาก เราก็ชอบที่จะรับในส่วนนี้ ก็ให้เขาให้ในเวย์นี้ แล้วเราก็ไปหาเวย์อื่นที่เราให้แล้วรู้สึกดี เขาก็แฮปปี้ที่จะรับ แบบนี้ต่างคนก็ต่างให้ด้วยความรู้สึกดี ภูมิใจ และต่างคนต่างได้รับด้วยความขอบคุณ อบอุ่น ซาบซึ้งใจ

ไม่มีใครรู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ

หาสิ่งที่คนให้พอใจที่จะให้ และสิ่งที่คนรับพอใจที่จะรับ น่าจะเป็นคีย์ ไม่มีคำตอบตายตัว

ซึ่งสำหรับเราควรเลือกตั้งแต่ก่อนคบนะ ส่วนตัวเราชอบผชที่เป็นคนเก่ง ฉลาด เป็นผู้นำ ฉะนั้นมันจะไม่มีเวย์ที่เราจะเปย์ผชในแง่การเงินเท่าไหร่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกเลยถ้าวันนึงธุรกิจล้ม เปย์ไม่ได้นะ ก็ต้องมาปรับเปลี่ยนต่อ ถ้าเกิดปหอะไรขึ้น แต่แน่นอนว่าคีย์สำคัญคือความเข้าใจและต่างฝ่ายต่างอยากให้อีกฝ่ายมีความสุขเป็นหลักน่ะแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่