คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อย่างแรกที่ควรรู้นะครับ หนี้พี่สาวก็ให้เขารับผิดชอบของเขาเอง พ่อแม่น้องไม่จำเป็นต้องไปรับผิดชอบแทน สำคัญมากๆ คือถ้าพวกท่านจะรับผิดชอบแทนต้องไปห้าม อย่าให้ทำอย่างนั้น อย่าให้ไปเซ็นเอกสารอะไรที่จะทำให้เข้าไปร่วมรับผิดด้วย เพราะเจ้าหนี้จะบังคับให้คนอื่นชำระหนี้แทนลูกหนี้ไม่ได้
ถ้าพี่สาวใช้เงินเกินตัวทำยังไง ก็ไม่ต้องทำยังไงครับ ดูสภาพแล้วสักวันก็คงถูกฟ้องนั่นแหละ ที่น้องควรทำคือทำใจให้สบาย พี่สาวมีทรัพย์สินอะไรเขาก็จะบังคับชำระหนี้เอากับทรัพย์สินนั้น ถ้าไม่มีเดี๋ยวฟ้องกันเสร็จเจ้าหนี้เขาก็จะส่งหมายบังคับคดีไปยังที่ทำงานพี่สาวให้ส่งเงินเดือนชำระหนี้แทน แต่เงินเดือนนั้นก็จะเหลืออยู่ครับ กฎหมายไม่ได้จะเอาลูกหนี้ให้ตายเลย จะมีเงินก้อนหนึ่งเหลือให้ลูกหนี้กินใช้อยู่ เจ้าหนี้เอาไปหมดไม่ได้ เหลือพอให้ใช้ชีวิตได้อยู่ครับแต่อนาคตก็คงไม่มีโอกาสใช้เงินเกินตัวไปอีกนาน
สิ่งที่ควรใส่ใจคือเวลาเขาอยากได้ของชิ้นใหญ่บางทีเขาจะให้คนอื่นไปกู้แทน ต้องระวังตัวพ่อแม่น้องให้ดีส่วนใหญ่วินัยการเงินเสียแบบนี้ยังไงก็มีปัญหา เลิกยากแก้ยาก รับปากง่ายแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองนักหรอก น้องก็ต้องระวังตัวไว้ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ ทำงานเป็นหลักแหล่งกู้ได้แล้วระวังพี่สาวจะมากดดัน ถึงตอนนั้นก็แค่ไม่ใส่ใจก็พอ ใจแข็งพอเราก็จะรอด
ย้ำอีกครั้งนะครับ เจ้าหนี้ไปบังคับพ่อแม่น้องให้ขายสมบัติไม่ได้ อย่าเอาตัวไปเกี่ยวข้องพอ ส่วนพี่สาวก็ปลงครับ บอกตรงๆ เท่าที่อ่านคือเป็นเรื่องของเวลาแค่นั้นแหละว่าวันไหน ปีหน้าหรือปีถัดไปคงถูกบัตรเครดิตฟ้องแล้วเราก็ทำใจร่มๆ ไว้ ไม่กระทบเรา ไม่กระทบพ่อแม่ เป็นหนี้ไม่ใช่ความผิดอาญา ไม่มีโทษติดคุกนะไม่ต้องห่วงเขามาก(บางคนชอบบอกว่าตัวเองจะติดคุกบีบคนอื่นช่วย เจ้าหนี้เป็นธนาคารเขาตรงไปตรงมาอยู่แล้วไม่ใช่เจ้าหนี้นอกระบบ)
อีกอย่างอย่าให้พี่สาวไปกู้นอกระบบมาปิดหนี้บัตรนะ หนักกว่า ยังไงหาคืนไม่ได้อยู่แล้วถูกธนาคารบังคับคดีเขายังเหลือเงินเดือนให้ใช้ นอกระบบบางทีเขาใช้วิธีอื่นอย่าไปเสี่ยง กับพวกเงินด่วน ลงทุนรวยเร็วแชร์ลูกโซ่ หรือสแคมเมอร์ก็ระวังตัว พวกให้โอนเงินอีกนิดจะได้เงินคืน จะได้เงินที่ลงทุนไปอะไรงี้หลอกลวงทั้งนั้น เป็นหนี้มากบางทีอ่อนไหว
ถ้าพี่สาวใช้เงินเกินตัวทำยังไง ก็ไม่ต้องทำยังไงครับ ดูสภาพแล้วสักวันก็คงถูกฟ้องนั่นแหละ ที่น้องควรทำคือทำใจให้สบาย พี่สาวมีทรัพย์สินอะไรเขาก็จะบังคับชำระหนี้เอากับทรัพย์สินนั้น ถ้าไม่มีเดี๋ยวฟ้องกันเสร็จเจ้าหนี้เขาก็จะส่งหมายบังคับคดีไปยังที่ทำงานพี่สาวให้ส่งเงินเดือนชำระหนี้แทน แต่เงินเดือนนั้นก็จะเหลืออยู่ครับ กฎหมายไม่ได้จะเอาลูกหนี้ให้ตายเลย จะมีเงินก้อนหนึ่งเหลือให้ลูกหนี้กินใช้อยู่ เจ้าหนี้เอาไปหมดไม่ได้ เหลือพอให้ใช้ชีวิตได้อยู่ครับแต่อนาคตก็คงไม่มีโอกาสใช้เงินเกินตัวไปอีกนาน
สิ่งที่ควรใส่ใจคือเวลาเขาอยากได้ของชิ้นใหญ่บางทีเขาจะให้คนอื่นไปกู้แทน ต้องระวังตัวพ่อแม่น้องให้ดีส่วนใหญ่วินัยการเงินเสียแบบนี้ยังไงก็มีปัญหา เลิกยากแก้ยาก รับปากง่ายแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองนักหรอก น้องก็ต้องระวังตัวไว้ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ ทำงานเป็นหลักแหล่งกู้ได้แล้วระวังพี่สาวจะมากดดัน ถึงตอนนั้นก็แค่ไม่ใส่ใจก็พอ ใจแข็งพอเราก็จะรอด
ย้ำอีกครั้งนะครับ เจ้าหนี้ไปบังคับพ่อแม่น้องให้ขายสมบัติไม่ได้ อย่าเอาตัวไปเกี่ยวข้องพอ ส่วนพี่สาวก็ปลงครับ บอกตรงๆ เท่าที่อ่านคือเป็นเรื่องของเวลาแค่นั้นแหละว่าวันไหน ปีหน้าหรือปีถัดไปคงถูกบัตรเครดิตฟ้องแล้วเราก็ทำใจร่มๆ ไว้ ไม่กระทบเรา ไม่กระทบพ่อแม่ เป็นหนี้ไม่ใช่ความผิดอาญา ไม่มีโทษติดคุกนะไม่ต้องห่วงเขามาก(บางคนชอบบอกว่าตัวเองจะติดคุกบีบคนอื่นช่วย เจ้าหนี้เป็นธนาคารเขาตรงไปตรงมาอยู่แล้วไม่ใช่เจ้าหนี้นอกระบบ)
อีกอย่างอย่าให้พี่สาวไปกู้นอกระบบมาปิดหนี้บัตรนะ หนักกว่า ยังไงหาคืนไม่ได้อยู่แล้วถูกธนาคารบังคับคดีเขายังเหลือเงินเดือนให้ใช้ นอกระบบบางทีเขาใช้วิธีอื่นอย่าไปเสี่ยง กับพวกเงินด่วน ลงทุนรวยเร็วแชร์ลูกโซ่ หรือสแคมเมอร์ก็ระวังตัว พวกให้โอนเงินอีกนิดจะได้เงินคืน จะได้เงินที่ลงทุนไปอะไรงี้หลอกลวงทั้งนั้น เป็นหนี้มากบางทีอ่อนไหว
แสดงความคิดเห็น
พี่สาวใช้เงินเกินตัว เงินเดือนติดลบ ต้องไปกู้บัตรกดเงินสดมากินมาใช้ เราจะแก้ยังไงดี ท้อใจแทนพ่อแม่ค่ะ