Cr: ParinTalk

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยศาสตร์ บุญ บาป คือไร? 
แบบจำได้-ง่าย-สั้น ตอนที่ 1 
จะเล่า 5 เรื่อง จะเขียนให้สั้นๆ 
เข้าใจง่าย จำง่าย สไตล์ ParinTalk 
1. บุญ คืออะไร เอาไว้ทำอะไร
2. บาป คืออะไร เอาไว้ทำอะไร
5. ไสยศาสตร์ คืออะไร
3. กรรม คืออะไร บรรเทายังไง
4. สิ่งศักดิ์สิทธิ วัตถุมงคล
———————!!!———————
———————!!!———————
บุญ 
คือ เงิน ในโลกของจิต 
บุญมาก จะเหมือนคนมีเงินมาก
คือ ทำอะไรก็ง่าย 
มีคนอยากคุย อยากช่วยเหลือ 
อยากเอาใจ มาพินอบพิเทา 
แม้จะไม่ได้เงินได้อะไรก็ตามที 
หรือ ก็มีคนอยากมาขอให้ช่วยบ้าง 
(ยืมเงิน หรือขอส่วนบุญ) 
บุญน้อย ก็เหมือน คนมีเงินน้อย 
ทำงานได้เหมือนกัน แต่ออกแรงมากหน่อย 
ในโลกกายภาพ เมื่อต้องการให้ใครทำอะไร 
ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน 
จะคำสั่ง น้ำเงิน หรือ น้ำใจ 
ไม่งั้นงานไม่เดิน 
ในโลกจิต ก็เหมือนกัน จะให้ใครทำอะไร
ก็ต้องใช้บุญในการแลกเปลี่ยน
เช่นเดียวกัน จะขอจะบูชา ไม่มีฐานบุญส่งให้ 
ก็อาจจะไม่ได้ตามที่หวัง 
บุญ ไม่เหมือนเงินตรงที่ 
บุญเหมือนคบไฟ เมื่อเรามีไฟ 
เพื่อนเรามีคบไฟ เอามาจ่อกัน 
บุญไม่ย้ายที่ แต่จะขยายตัวแบ่งปัน
———————!!!———————
บุญ เกิดจาก “การทำประโยชน์” 
ทั้งทำประโยชน์ให้คนอื่นๆ (ได้แก่ข้อ 1, 4, 5, 6, 9) 
และทำประโยชน์ให้ตัวเอง (ได้แก่ข้อ 2, 3, 7, 8, 10) 
ในบุญกิริยาวัตถุ 10 (อ่านต่อได้ในเม้นท์แรก) 
———————!!!———————
———————!!!———————
บาป 
บาป คือ "หนี้" ในโลกของจิต  
คนมีบาปเยอะ ยังใช้ไม่หมด และยังไม่หยุดก่อหนี้
จะเหมือน คนมีหนี้สินเยอะ 
ไปไหนคนก็จะรู้กันทั่วว่ามีหนี้ 
ไปไหนก็จะตรงข้ามกับคนมีเงิน 
คนไม่อยากเข้าใกล้ คนเอาไปนินทา
หรือหมั่นไส้ รังเกียจ ไม่อยากส่งเสริม 
ทำงานอะไรก็ยาก 
พวกมิจฉาชีพก็ชอบเข้าใกล้ 
มีเงิน แต่ก็มีหนี้ได้ เอาเงินมาใช้หนี้ได้ 
มีบุญ แต่ก็มีบาปได้ แต่เอาบุญมาชดใช้บาปไม่ได้ 
อ่านต่อ บทของ "แก้กรรม" 
———————!!!———————
บาป เกิดจาก “การเบียดเบียน” 
ทั้งเบียดเบียนคนอื่น 
และที่คนไม่รู้ เป็นบาปที่ซ่อนตัวเนียน คือ 
"การเบียดเบียนตัวเอง" 
ซึ่ง เป็นบาปที่คนไม่รู้ แต่เกิดถี่ๆ กับตัวเอง
(คือ การที่ทำให้ตัวเองร้อนใจ ร้อนกาย) 
บาปเบียดเบียนตัวเอง 
ก็ต้องชดใช้ให้ตัวเองเหมือนกัน
ชดใช้ด้วยจิตหมองเศร้ากังวล 
ตัดสินใจผิดโน่นนี่ ขยายผลพินาศต่อ 
ศีล 5 คือ 
ข้อแนะนำสำหรับประชาขนทั่วไป
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาป แก่ตัวเอง และคนอื่น 
———————!!!———————
———————!!!———————
ไสยศาสตร์ คือ 
วิธีการบางอย่าง เพื่อให้บรรลุผลที่ต้องการ 
ด้วยวิธีทางพลังงานนอกเหนือโลกของฟิสิกส์
เปรียบได้กับ
การจ้างคนให้ทำงานให้
ด้วยวิธีขาว เทาหรือดำ 
แน่นอนว่าต้องใช้ เงิน หรือบุญมาว่าจ้าง 
ตอนจ้างทำงานจ่ายด้วยบุญ 
ถ้าทำใส่ตัวเอง หากตัวเองเดือดร้อนก็ชดใช้
ถ้าจ้างไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ติดหนี้บาปเพิ่ม 
ชดใช้เหมือนกัน เหมือนโลกกายภาพเลย 
และถ้าฐานบุญไม่ถึง 
แล้วไปทำไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะว่าขาว เทา หรือดำ  
ก็เหมือน ไปจ้างคนทำงานแล้วไม่มีเงินจ่าย 
ก็จะเกิดได้สองอย่าง 
คือ 
1. ทำไปก็ไม่ได้ผล เพราะแต้มบุญพลังงานไม่ถึง 
2. ถ้าได้ผล แปลว่าต้องจ่ายค่าจ้าง 3 แบบ อย่างใดอย่างหนึ่ง
2.1 ถ้าจ้างแบบขาวๆ ก็แค่เกิดหนี้ เป็นบาปก็รอชดใช้
2.2 ถ้าจ้างแบบเทาๆ ก็ อาจจะชดใช้ด้วย 
โรคภัยแบบไม่มีที่มา หรือนอนติดเตียงยามบั้นปลาย 
2.3 ถ้าจ้างแบบดำๆ แล้วไม่มีเงินจ่าย 
ก็อาจจะโดนทวงนี้นอกระบบ 
จบแบบเอาชีวิต, เอาอวัยวะ 
หรือไปทวงจากลูก, พ่อแม่ผู้จ้างแทน
(ประโยคกลุ่มนี้ ได้ยินมาจากพระวัดดังกลางเมือง
ที่มีวิชาอาคมคุณไสย) 
ส่วนตัวไม่เคยอยากทดลองวิธีลัดเลย
รู้สึกได้ไม่คุ้มเสีย อันนี้แล้วแต่คนนะ 
———————!!!———————
สายดำ หรือสายขาว คืออะไร?​
หลายคนพูดไม่ตรงกัน 
และผมไม่ค่อยกล้าเชื่อ ที่บอกว่า นี่สายขาว
อยากเตือนเบาๆ ว่า
รูปปั้นพระบางอย่าง
ที่อยู่ในที่แปลกๆ ผิดปกติ ผิดเวลา 
ก็อาจจะเป็นสิ่งอัปมงคล
ที่ห้ามไปจุดธูปกราบไหว้
พุทธศาสตร์ กับไสยศาสตร์ 
เป็นคนละวิชากัน เหมือนคณิตศาสตร์ กับฟิสิกส์ 
มีตัวเลขเกี่ยวข้องกัน แต่ใช้งานคนละอย่าง
———————!!!———————
———————!!!———————
กรรม คืออะไร 
กรรม คือ คำกลางๆ เป็นคำกริยา 
ไม่ได้มีความบวกลบ เหมือนบุญหรือบาป 
กรรม คือ Algorithm หรือ กลไก 
การทำงานของจักรวาลแห่งนี้ 
มี Source Code เขียนกฏเอาไว้ชัดเจน 
เหมือนกฏ Physics เรียกว่า กฏแห่งกรรม 
กฏนี้ซับซ้อนมาก ท่านว่าอย่าพยายาม "คิด" เพื่อเข้าใจ
เพราะเกินสมองกายภาพที่มีมาให้จะเข้าใจได้ 
(จะเหมือน Bacteria ที่อยากคิดเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค) 
วิธีการยุติความสงสัยในกฏแห่งกรรม
คือ การภาวนา 
การภาวนาคืออะไร? 
การภาวนา ไม่ใช่การสวด หรือนั่งสมาธิจิตนิ่งๆ 
การภาวนา คือ การตามรู้กาย รู้อารมณ์
(ยังไม่เล่าตอนนี้เด๋วยาวเกินไป) 
เด๋วมาต่อเรื่องของกรรม (ที่คนทั่วไปเข้าใจ) 
วิบากรรม ชดใช้กรรม แก้กรรม และ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล คืออะไร
เด๋วมาเขียนต่อตามแบบที่ผมเข้าใจ 
อธิบายเป็นภาษาปัจจุบันให้ฟังต่อนะ