1.
.
Bummer กับ Lazarus เดินไปตามท้องถนน Montgomery Street วาดโดย Edward Jump
.
.
California Gold Rush
ยุคตื่นทองในแคลิฟอร์เนีย
ไม่เพียงแต่ผู้คนมามุ่งหน้ามาหาทองคำเท่านั้น
แต่ยังมีสุนัขอีกจำนวนมากตามมาด้วย
สุนัขพวกนี้เป็นเพื่อนร่วมทางคนงานเหมือง
เป็นสัตว์พาหนะ ลากเลื่อน/เกวียนที่บรรทุกแร่
แต่เมื่อถึงเวลาที่การตื่นทองสิ้นสุดลงแล้ว
สุนัขจำนวนหลายพันตัวก็ถูกเจ้าของทอดทิ้งไว้
สุนัขจรจัดต้องเดินเตร่อยู่ตามท้องถนน
รังควานม้า รังควานผู้คน โจมตีผู้หญิงและเด็ก
กัดกันกันเอง ส่งเสียงเห่าหอน
ในบางเมือง เช่น ลอสแองเจลิส
มีจำนวนสุนัขมากกว่าคนเกือบสองเท่า
สุนัขจึงถูกวางยาพิษให้ตายเป็นประจำ
และทางองค์การบริหารส่วนทัองถิ่น
มักจะให้เงินรางวัลกับคนฆ่าสุนัขจรจัด
สุนัขจรจัดหลายตัวถูกฆ่าตาย ถูกถลกหนัง
และกลายเป็นถุงมือ เข็มขัดของใช้ของคน
วิธีการเดียวที่สุนัขจรจัดจะรอดตายได้
คือ กลายเป็นนักล่าหนูที่นั่น
เพราะหนูป่ามีขนาดใหญ่พอ ๆ กับลูกสุนัข
และผู้อยู่อาศัยจำนวนมากจ่ายเงินจำนวนมาก
ให้กับ
สุนัขพันธ์เทอร์เรียร์ ที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า
เป็นพวกนักล่าหนูที่เก่งกาจมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น
สุนัขนักล่าเหล่านี้เป็นทื่ชื่นชอบของเหล่านักพนัน
เมื่อพวกมันถูกปล่อยไปตามท้องถนนในเมือง
พวกมันมักแข่งกันเองหรือแข่งกับเวลา
ในการแข่งขันที่ร้านขายเหล้า (Barroom)
จัดให้มีการแข่งขัน/พนันกันว่า
สุนัขตัวไหนที่สามารถฆ่าหนูได้กี่ตัว
ภายในช่วงเวลาที่กำหนดและตกลงกันไว้
เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ
ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
ก็มีปัญหาเรื่องสุนัขจรจัดที่น่ากลัวเช่นกัน
ในปี 1860 Daily Alta California เขียนว่า
" เมืองนี้เต็มไปด้วยพวกสุนัขที่ถูกสาปแช่ง
พวกสุนัขไร้ค่านับหลายพันตัว
จนกระทั่งจำนวนตัวเลขก็เหลือทนที่จะนับ
พวกเราไม่เคยรู้จักเมืองใดในอเมริกา
ที่ถูกสาปแช่งด้วยเสียงรำคาญของสุนัขจรจัด
อย่างเช่นใน ซานฟรานซิสโก
บางครั้งในตอนกลางคืน
เสียงเห่าหอนของพวกสุนัขจรจัด
ดังเพียงพอที่จะทำให้คนจิตตกฟุ้งซ่านได้ "
และแล้ววันหนึ่งในปี ค.ศ. 1860
สุนัขพันธุ์นิวฟันด์แลนด์ จรจัดสีขาวดำ
ก็ปรากฏตัวขึ้นนอกห้องรับรองลูกค้า
ของ Frederick Martin
ร้านขายสุราราคาถูกของเมืองนั้น
ที่นี่มีนักข่าวและนักข่าวหนังสือพิมพ์หลายคน
ต่างแวะเวียนมาดื่มสุราที่ร้านแห่งนี้
ทำให้สุนัขจรจัดตัวนี้เริ่มมีชื่อเสียงในเวลาต่อมา
บรรดาคนในห้องรับรองจึงตั้งชื่อม้ันว่า Bummer
เพราะมันชอบขออาหารจากคนกินเป็นประจำ
แต่มันล่าหนูได้อย่างมหัศจรรย์พันลึกมาก
นั่นจึงเป็นพรสวรรค์ที่ช่วยให้มันรอดตาย
ไม่เหมือนกับ Bruno สุนัขจรจัดพันธุ์เทอร์เรียร์
ที่ถูกวางยาพิษด้วยสตริกนินให้ตาย
ไม่นานก่อนที่ Bummer จะมาถึงที่นี่
.
2.
.
Bummer กับ Lazarus กำลังขออาหารจาก
Emperor Norton วาดโดย Edward Jump
.
.
3.
.
Bummer (ขวา) Lazarus (ซ้าย)
บนหน้าปก Malcolm E. Barker's 1984
หนังสือ Bummer & Lazarus (Public domain)
.
.
อีกหนึ่งปีต่อมา
Bummer ช่วยสุนัขจรจัดขนเรียบลื่นตัวหนึ่ง
จากสุนัขจรจัดตัวใหญ่ที่เข้ามากัดขามัน
บรรดาอเมริกันมุงไม่ได้คาดหวังว่า
สุนัขจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บจะรอดตายหรือไม่
แต่ Bummer กลับดูแลมันอย่างดี
จนมันกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
โดย Bummer ป้อนเศษอาหาร
ที่คุ้ยค้นหามาได้พร้อมกับหลับนอน
สร้างความอบอุ่นให้มันในตอนกลางคืน
ไม่กี่สัปดาห์
สุนัขจรจัดตัวนั้นก็ฟื้นคืนสภาพเหมือนเดิม
และในไม่ช้า ทั้งคู่ก็ต่างพากันลาดตระเวน
ถนนมอนต์โกเมอรี่ ไปด้วยกันทั้งคู่
สุนัขจรจัดตัวใหม่ชื่อ Lazarus
จากการรอดตายและฟื้นตัวได้อย่างเหลือเชื่อ
(ที่มาชื่อ
Lazarus ตายไปแล้ว 4 วัน
พระเยชูทำให้ฟื้นจากความตายให้สาวกดู
ต่อมา ท่านเป็นนักบุญลาซารัสแห่งเบทธานี
ฉายา ลาซารัสผู้ชอบธรรม
ในคริสต์ศาสนาอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์)
Lazarus พิสูจน์ตนเองแล้วว่า
เป็นนักล่าหนูที่เก่งกาจยิ่งกว่า Bummer
ตามรายงานหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
Bummer กับ Lazarus
กำจัดหนูได้ 85 ตัวภายในเวลา 20 นาที
ในการแข่งขันจับหนูครั้งหนึ่ง
และอีกครั้ง
ทั้งคู่เอาชนะการแข่งขันกับสุนัขตัวอื่น ๆ
รวมทั้งสุนัขที่มีสายเลือดชั้นดี Pedigree
มิตรภาพระหว่าง Bummer กับ Lazarus
เอาชนะใจชาวซานฟรานซิสโกทั้งหมด
และครั้งหนึ่งมีการโกงการแข่งขัน
ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ในซานฟรานซิสโก
Lazarus ถูกคว้าตัวจับขังไว้ในร้านเครื่องเขียน
และ Lazarus จะต้องถูกขังในชั่วข้ามคืน
ตามรายงานข่าวของ Alta California
“ มันพยายามแหกคุก
แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ม้นเอาหัวชนกับกระจกบานหนา
จนกระจกแตกไปหลาย ๆ บาน
จากนั้นมันก็กระโดดขึ้นไปบนตู้โชว์
กระแทกข้าวของที่ละเอียดอ่อน/ปราณีต
และมีราคาแพงจำนวนมากจนพังทะลาย
ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างสมบูรณ์ ”
อีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเผชิญกับปัญหา
ในการจับกุมชายคนหนึ่งที่มี
ข้อหาว่า ทำร้ายร่างกาย
เมื่อ Bummer กับ Lazarus มาช่วยตำรวจ
พวกมันเข้าไปทั้งกัดและเห่าชายคนนั้น
จนเสื้อผ้าฉีกขาดและล้มลงกับพื้น
ทำให้ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในปี ค.ศ. 1862
ทางเมืองได้แต่งตั้งคนจับสุนัขจรจัดคนใหม่
ซึ่งไม่รู้จักชื่อเสียงของสุนัขสองตัวนี้
จึงจับ Lazarus ไว้เพื่อเตรียมการุณยฆาต
แต่เมื่อข่าวการจับ Lazarus รู้ไปถึงชาวบ้าน
ฝูงชนต่างเดินขบวนไปที่กักสัตว์
แล้วต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัว Lazarus
ทำให้คนจับสุนัขจรจัดต้องปล่อยตัว Lazarus
ที่ถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
เพื่อปกป้องสุนัขสองตัวอันเป็นที่รักของเมืองนี้
จากบรรดาคนจับสุนัขจรจัดที่อาจเกิดขึ้นอีก
พลเมืองจึงได้เขียนคำร้องเพื่อขอความคุ้มครอง
สำหรับ Bummer กับ Lazarus เป็นการถาวร
ผู้คนหลายร้อยคนลงนามในคำร้อง
แล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลเมือง
คณะกรรมการต่างเห็นชอบและออกคำสั่ง
อนุญาตให้สุนัขทั้งสองตัวนี้
วิ่งในเมืองได้อย่างอิสระตลอดชีวิต
แม้จะได้รับการปกป้องจากเมืองซานฟรานซิสโก
แต่ชีวิตของสุนัขจรจัดก็ยังเต็มไปด้วยอันตราย
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1863
มีคนจงใจป้อนเนื้อแอบใส่ยาพิษให้กับ Lazarus
ผู้คนที่รู้เรื่องนี้ต่างโกรธมาก
มีการลงขันให้รางวัล 50 ดอลลาร์
สำหรับใครก็ได้ที่จับกุมผู้วางยาพิษ
ชาวเมืองต่างพูดถึงการตายของ Lazarus
Daily Evening Bulletin ได้นำเสนอข่าว
การตายของ Lazarus หัวข่าวว่า
" คร่ำครวญถึง Lazarus
ทุกคนต่างพากันยกย่องและเล่าถึง
ความเก่งและการผจญภัยที่หลากหลาย
ของ Bummer กับ Lazarus ที่มักจะไปคู่กัน "
The Red Bluff Independent รายงานว่า
“ Bummer เห็นศพ Lazarus
แล้วเดินจากไปพร้อมคราบน้ำตา
เดินไปตามทางเท้าของถนน Montgomery
เดินโดดเดี่ยวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
อีกไม่นานนัก พวกเราคงคาดหมายได้ว่า
จะต้องบันทึกเหตุการณ์การจากไป
ของ Lazarus เพื่อนที่สัตย์ซื่อ
และไม่สามารถปลอบโยน Bummer ได้ ”
มีหลายคนแนะนำว่า
ให้ฝัง Lazarus ไว้ในสุสานหลวง
ในสถานที่มีเกียรติพร้อมกับคนสำคัญในเมือง
แต่ Lazarus ไม่ได้ถูกฝังในที่สุด
ศพของ Lazarus ถูกสตัฟฟ์แล้วตกแต่งให้ดี
นำไปวางไว้ที่ Martin’s Saloon
.
4.
.
จินตนาการงานศพของ Lazarus
วาดโดย Edward Jump
.
.
การขาดเพื่อนคู่หูร่วมเป็นร่วมตาย (Buddy)
Bummer กลายเป็นสุนัขอารมณ์บ่จอย
มันต้องอยู่ทนทนอยู่ไปอีกราว 2-3 ปี
แม้ว่าจะมีช่วงหนึ่ง
Bummer จะยอมรับเพื่อนคู่หูรายใหม่
แต่ก็ไม่ผูกพันใกล้ชิดเหมือนกับ Lazarus
Buddy คู่หูเพื่อนเก่าเหล่าเพ่งอิ้วของ Bummer
Bummer ตายด้วยทารุณกรรมที่โหดร้าย
เพราะคนขี้เมาเตะมันตกลงจากบันได
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1865
ชาวเมืองจึงร่วมกันจับกุมคนเมา
แล้วโยนคนขี้เมาเข้าคุกไปสงบสติอารมณ์
และเมื่อเพื่อนร่วมห้องขังต่างรู้เรื่อง
อาชญากรรมน่าอับอายของคนขี้เมา
ดูเหมือนคนขี้เมาต้องอับอายเรื่องนี้
แบบอายยันหลานบวช (ตลอดชีวิต)
Mark Twain ตอนเป็นนักข่าวฝึกหัด/มือใหม่
Virginia City (Nevada) Territorial Enterprise
ได้เขียนข่าวในทำนองประชดประชันว่า
" Bummer น่าจะตายซ้ำสองอีกครั้งในไม่ช้านี้
เพราะชื่อเสียงของมันคงถูกลืมในอีกไม่กี่วัน "
แต่กระดานข่าว The Bulletin เรียกทั้งคู่ว่า
" สุนัขสองตัวมีเสียงเห่าเสียงเดียว
มีสองหางที่กระดิกเป็นหางเดียว "
หลังจากที่ Bummer ตาย
ศพ Bummer ก็ถูกสตัฟฟ์ให้เหมือนยังไม่ตาย
แล้วนำไปวางไว้ที่ Martin's Saloon
วางร่วมกับ Lazarus นานกว่า 40 ปี
ในปี ค.ศ. 1906
มีการบริจาคศพของ Bummer กับ Lazarus
ให้กับพิพิธภัณฑ์
Golden Gate Park
และเก็บรักษาที่นั่นจนถูกทำลายในปี ค.ศ. 1910
ในปี ค.ศ.1992
มีการติดตั้งแผ่นโลหะที่
Transamerica Redwood Park
บนถนน Montgomery
เพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัขทั้งสอง มีถ้อยคำว่า
“ พวกมันไม่ได้เป็นของใครเลย
พวกมันอยู่ในซานฟรานซิสโก ”
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3tIFtEn
https://bit.ly/3TQyTq0
https://bit.ly/3hYoQlo
https://bit.ly/3hTehQK
https://bit.ly/3UR9Zbd
.
.
Bummer กับ Lazarus สุนัขของชาว San Francisco
.
Bummer กับ Lazarus เดินไปตามท้องถนน Montgomery Street วาดโดย Edward Jump
.
California Gold Rush
ยุคตื่นทองในแคลิฟอร์เนีย
ไม่เพียงแต่ผู้คนมามุ่งหน้ามาหาทองคำเท่านั้น
แต่ยังมีสุนัขอีกจำนวนมากตามมาด้วย
สุนัขพวกนี้เป็นเพื่อนร่วมทางคนงานเหมือง
เป็นสัตว์พาหนะ ลากเลื่อน/เกวียนที่บรรทุกแร่
แต่เมื่อถึงเวลาที่การตื่นทองสิ้นสุดลงแล้ว
สุนัขจำนวนหลายพันตัวก็ถูกเจ้าของทอดทิ้งไว้
สุนัขจรจัดต้องเดินเตร่อยู่ตามท้องถนน
รังควานม้า รังควานผู้คน โจมตีผู้หญิงและเด็ก
กัดกันกันเอง ส่งเสียงเห่าหอน
ในบางเมือง เช่น ลอสแองเจลิส
มีจำนวนสุนัขมากกว่าคนเกือบสองเท่า
สุนัขจึงถูกวางยาพิษให้ตายเป็นประจำ
และทางองค์การบริหารส่วนทัองถิ่น
มักจะให้เงินรางวัลกับคนฆ่าสุนัขจรจัด
สุนัขจรจัดหลายตัวถูกฆ่าตาย ถูกถลกหนัง
และกลายเป็นถุงมือ เข็มขัดของใช้ของคน
วิธีการเดียวที่สุนัขจรจัดจะรอดตายได้
คือ กลายเป็นนักล่าหนูที่นั่น
เพราะหนูป่ามีขนาดใหญ่พอ ๆ กับลูกสุนัข
และผู้อยู่อาศัยจำนวนมากจ่ายเงินจำนวนมาก
ให้กับ สุนัขพันธ์เทอร์เรียร์ ที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า
เป็นพวกนักล่าหนูที่เก่งกาจมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น
สุนัขนักล่าเหล่านี้เป็นทื่ชื่นชอบของเหล่านักพนัน
เมื่อพวกมันถูกปล่อยไปตามท้องถนนในเมือง
พวกมันมักแข่งกันเองหรือแข่งกับเวลา
ในการแข่งขันที่ร้านขายเหล้า (Barroom)
จัดให้มีการแข่งขัน/พนันกันว่า
สุนัขตัวไหนที่สามารถฆ่าหนูได้กี่ตัว
ภายในช่วงเวลาที่กำหนดและตกลงกันไว้
เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ
ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
ก็มีปัญหาเรื่องสุนัขจรจัดที่น่ากลัวเช่นกัน
ในปี 1860 Daily Alta California เขียนว่า
" เมืองนี้เต็มไปด้วยพวกสุนัขที่ถูกสาปแช่ง
พวกสุนัขไร้ค่านับหลายพันตัว
จนกระทั่งจำนวนตัวเลขก็เหลือทนที่จะนับ
พวกเราไม่เคยรู้จักเมืองใดในอเมริกา
ที่ถูกสาปแช่งด้วยเสียงรำคาญของสุนัขจรจัด
อย่างเช่นใน ซานฟรานซิสโก
บางครั้งในตอนกลางคืน
เสียงเห่าหอนของพวกสุนัขจรจัด
ดังเพียงพอที่จะทำให้คนจิตตกฟุ้งซ่านได้ "
และแล้ววันหนึ่งในปี ค.ศ. 1860
สุนัขพันธุ์นิวฟันด์แลนด์ จรจัดสีขาวดำ
ก็ปรากฏตัวขึ้นนอกห้องรับรองลูกค้า
ของ Frederick Martin
ร้านขายสุราราคาถูกของเมืองนั้น
ที่นี่มีนักข่าวและนักข่าวหนังสือพิมพ์หลายคน
ต่างแวะเวียนมาดื่มสุราที่ร้านแห่งนี้
ทำให้สุนัขจรจัดตัวนี้เริ่มมีชื่อเสียงในเวลาต่อมา
บรรดาคนในห้องรับรองจึงตั้งชื่อม้ันว่า Bummer
เพราะมันชอบขออาหารจากคนกินเป็นประจำ
แต่มันล่าหนูได้อย่างมหัศจรรย์พันลึกมาก
นั่นจึงเป็นพรสวรรค์ที่ช่วยให้มันรอดตาย
ไม่เหมือนกับ Bruno สุนัขจรจัดพันธุ์เทอร์เรียร์
ที่ถูกวางยาพิษด้วยสตริกนินให้ตาย
ไม่นานก่อนที่ Bummer จะมาถึงที่นี่
.
.
Bummer กับ Lazarus กำลังขออาหารจาก
Emperor Norton วาดโดย Edward Jump
.
.
3.
.
Bummer (ขวา) Lazarus (ซ้าย)
บนหน้าปก Malcolm E. Barker's 1984
หนังสือ Bummer & Lazarus (Public domain)
.
อีกหนึ่งปีต่อมา
Bummer ช่วยสุนัขจรจัดขนเรียบลื่นตัวหนึ่ง
จากสุนัขจรจัดตัวใหญ่ที่เข้ามากัดขามัน
บรรดาอเมริกันมุงไม่ได้คาดหวังว่า
สุนัขจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บจะรอดตายหรือไม่
แต่ Bummer กลับดูแลมันอย่างดี
จนมันกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
โดย Bummer ป้อนเศษอาหาร
ที่คุ้ยค้นหามาได้พร้อมกับหลับนอน
สร้างความอบอุ่นให้มันในตอนกลางคืน
ไม่กี่สัปดาห์
สุนัขจรจัดตัวนั้นก็ฟื้นคืนสภาพเหมือนเดิม
และในไม่ช้า ทั้งคู่ก็ต่างพากันลาดตระเวน
ถนนมอนต์โกเมอรี่ ไปด้วยกันทั้งคู่
สุนัขจรจัดตัวใหม่ชื่อ Lazarus
จากการรอดตายและฟื้นตัวได้อย่างเหลือเชื่อ
(ที่มาชื่อ Lazarus ตายไปแล้ว 4 วัน
พระเยชูทำให้ฟื้นจากความตายให้สาวกดู
ต่อมา ท่านเป็นนักบุญลาซารัสแห่งเบทธานี
ฉายา ลาซารัสผู้ชอบธรรม
ในคริสต์ศาสนาอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์)
Lazarus พิสูจน์ตนเองแล้วว่า
เป็นนักล่าหนูที่เก่งกาจยิ่งกว่า Bummer
ตามรายงานหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
Bummer กับ Lazarus
กำจัดหนูได้ 85 ตัวภายในเวลา 20 นาที
ในการแข่งขันจับหนูครั้งหนึ่ง
และอีกครั้ง
ทั้งคู่เอาชนะการแข่งขันกับสุนัขตัวอื่น ๆ
รวมทั้งสุนัขที่มีสายเลือดชั้นดี Pedigree
มิตรภาพระหว่าง Bummer กับ Lazarus
เอาชนะใจชาวซานฟรานซิสโกทั้งหมด
และครั้งหนึ่งมีการโกงการแข่งขัน
ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ในซานฟรานซิสโก
Lazarus ถูกคว้าตัวจับขังไว้ในร้านเครื่องเขียน
และ Lazarus จะต้องถูกขังในชั่วข้ามคืน
ตามรายงานข่าวของ Alta California
“ มันพยายามแหกคุก
แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ม้นเอาหัวชนกับกระจกบานหนา
จนกระจกแตกไปหลาย ๆ บาน
จากนั้นมันก็กระโดดขึ้นไปบนตู้โชว์
กระแทกข้าวของที่ละเอียดอ่อน/ปราณีต
และมีราคาแพงจำนวนมากจนพังทะลาย
ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างสมบูรณ์ ”
อีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเผชิญกับปัญหา
ในการจับกุมชายคนหนึ่งที่มี
ข้อหาว่า ทำร้ายร่างกาย
เมื่อ Bummer กับ Lazarus มาช่วยตำรวจ
พวกมันเข้าไปทั้งกัดและเห่าชายคนนั้น
จนเสื้อผ้าฉีกขาดและล้มลงกับพื้น
ทำให้ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในปี ค.ศ. 1862
ทางเมืองได้แต่งตั้งคนจับสุนัขจรจัดคนใหม่
ซึ่งไม่รู้จักชื่อเสียงของสุนัขสองตัวนี้
จึงจับ Lazarus ไว้เพื่อเตรียมการุณยฆาต
แต่เมื่อข่าวการจับ Lazarus รู้ไปถึงชาวบ้าน
ฝูงชนต่างเดินขบวนไปที่กักสัตว์
แล้วต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัว Lazarus
ทำให้คนจับสุนัขจรจัดต้องปล่อยตัว Lazarus
ที่ถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
เพื่อปกป้องสุนัขสองตัวอันเป็นที่รักของเมืองนี้
จากบรรดาคนจับสุนัขจรจัดที่อาจเกิดขึ้นอีก
พลเมืองจึงได้เขียนคำร้องเพื่อขอความคุ้มครอง
สำหรับ Bummer กับ Lazarus เป็นการถาวร
ผู้คนหลายร้อยคนลงนามในคำร้อง
แล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลเมือง
คณะกรรมการต่างเห็นชอบและออกคำสั่ง
อนุญาตให้สุนัขทั้งสองตัวนี้
วิ่งในเมืองได้อย่างอิสระตลอดชีวิต
แม้จะได้รับการปกป้องจากเมืองซานฟรานซิสโก
แต่ชีวิตของสุนัขจรจัดก็ยังเต็มไปด้วยอันตราย
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1863
มีคนจงใจป้อนเนื้อแอบใส่ยาพิษให้กับ Lazarus
ผู้คนที่รู้เรื่องนี้ต่างโกรธมาก
มีการลงขันให้รางวัล 50 ดอลลาร์
สำหรับใครก็ได้ที่จับกุมผู้วางยาพิษ
ชาวเมืองต่างพูดถึงการตายของ Lazarus
Daily Evening Bulletin ได้นำเสนอข่าว
การตายของ Lazarus หัวข่าวว่า
" คร่ำครวญถึง Lazarus
ทุกคนต่างพากันยกย่องและเล่าถึง
ความเก่งและการผจญภัยที่หลากหลาย
ของ Bummer กับ Lazarus ที่มักจะไปคู่กัน "
The Red Bluff Independent รายงานว่า
“ Bummer เห็นศพ Lazarus
แล้วเดินจากไปพร้อมคราบน้ำตา
เดินไปตามทางเท้าของถนน Montgomery
เดินโดดเดี่ยวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
อีกไม่นานนัก พวกเราคงคาดหมายได้ว่า
จะต้องบันทึกเหตุการณ์การจากไป
ของ Lazarus เพื่อนที่สัตย์ซื่อ
และไม่สามารถปลอบโยน Bummer ได้ ”
มีหลายคนแนะนำว่า
ให้ฝัง Lazarus ไว้ในสุสานหลวง
ในสถานที่มีเกียรติพร้อมกับคนสำคัญในเมือง
แต่ Lazarus ไม่ได้ถูกฝังในที่สุด
ศพของ Lazarus ถูกสตัฟฟ์แล้วตกแต่งให้ดี
นำไปวางไว้ที่ Martin’s Saloon
.
.
จินตนาการงานศพของ Lazarus
วาดโดย Edward Jump
.
การขาดเพื่อนคู่หูร่วมเป็นร่วมตาย (Buddy)
Bummer กลายเป็นสุนัขอารมณ์บ่จอย
มันต้องอยู่ทนทนอยู่ไปอีกราว 2-3 ปี
แม้ว่าจะมีช่วงหนึ่ง
Bummer จะยอมรับเพื่อนคู่หูรายใหม่
แต่ก็ไม่ผูกพันใกล้ชิดเหมือนกับ Lazarus
Buddy คู่หูเพื่อนเก่าเหล่าเพ่งอิ้วของ Bummer
Bummer ตายด้วยทารุณกรรมที่โหดร้าย
เพราะคนขี้เมาเตะมันตกลงจากบันได
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1865
ชาวเมืองจึงร่วมกันจับกุมคนเมา
แล้วโยนคนขี้เมาเข้าคุกไปสงบสติอารมณ์
และเมื่อเพื่อนร่วมห้องขังต่างรู้เรื่อง
อาชญากรรมน่าอับอายของคนขี้เมา
ดูเหมือนคนขี้เมาต้องอับอายเรื่องนี้
แบบอายยันหลานบวช (ตลอดชีวิต)
Mark Twain ตอนเป็นนักข่าวฝึกหัด/มือใหม่
Virginia City (Nevada) Territorial Enterprise
ได้เขียนข่าวในทำนองประชดประชันว่า
" Bummer น่าจะตายซ้ำสองอีกครั้งในไม่ช้านี้
เพราะชื่อเสียงของมันคงถูกลืมในอีกไม่กี่วัน "
แต่กระดานข่าว The Bulletin เรียกทั้งคู่ว่า
" สุนัขสองตัวมีเสียงเห่าเสียงเดียว
มีสองหางที่กระดิกเป็นหางเดียว "
หลังจากที่ Bummer ตาย
ศพ Bummer ก็ถูกสตัฟฟ์ให้เหมือนยังไม่ตาย
แล้วนำไปวางไว้ที่ Martin's Saloon
วางร่วมกับ Lazarus นานกว่า 40 ปี
ในปี ค.ศ. 1906
มีการบริจาคศพของ Bummer กับ Lazarus
ให้กับพิพิธภัณฑ์ Golden Gate Park
และเก็บรักษาที่นั่นจนถูกทำลายในปี ค.ศ. 1910
ในปี ค.ศ.1992
มีการติดตั้งแผ่นโลหะที่
Transamerica Redwood Park
บนถนน Montgomery
เพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัขทั้งสอง มีถ้อยคำว่า
“ พวกมันไม่ได้เป็นของใครเลย
พวกมันอยู่ในซานฟรานซิสโก ”
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3tIFtEn
https://bit.ly/3TQyTq0
https://bit.ly/3hYoQlo
https://bit.ly/3hTehQK
https://bit.ly/3UR9Zbd
.
5.
.
การตายของ Bummer วาดโดย Edward Jump
.
6.
.
Bummer (ซ้าย) กับ Lazarus (ขวา)
ร่างที่ถูกสตัฟฟ์ไว้ก่อนถูกทำลาย
.
7.
แผ่นป้ายรำลึกถึง Bummer กับ Lazarus
ใน Transamerica Redwood Park
ที่ San Francisco รัฐ California
© BrokenSphere/Wikimedia
.
.
8.
.
© https://bit.ly/3EMD8i7
.
9.
.
© https://bit.ly/3tKLikP
.
.
เรื่องเดิม
.
Hachiko ได้พบกับ Hidesaburo Ueno และ Yaeko Sakano เจ้าของแล้ว
.
.
หมาเฝ้าหลุมศพเจ้าของนานกว่าหกปี
.
.
Sonbra สุนัขตำรวจที่มีค่าหัวจับเป็นหรือจับตาย 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ
.
.
60 ปีเบื้องหลังการเลือก Laika ท่องอวกาศของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
.