🧡มาลาริน🧡คิวแน่นมาก!นายกฯมีภารกิจ'เอเปก'เช้านี้ถึง 5 ทุ่ม/เช้านี้เปิด“เอเปก ซีอีโอ ซัมมิต”ผลักดันธุรกิจเติบโตยั่งยืน

คิวแน่นมาก! เปิดกำหนดการ นายกฯ ปฏิบัติภารกิจ 'เอเปก' วันนี้ตั้งแต่เช้าถึง 5 ทุ่ม



17 พ.ย.2565 - ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี แจ้งกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุม APEC 2022 เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน APEC CEO Summit 2022

เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน APEC CEO Summit 2022
- ภาคเอกชน (Amazon Web Service: AWS) เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
- นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 14.20 น. นายกรัฐมนตรี และภริยา ต้อนรับนายสี จิ้นผิง (H.E. Mr. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และภริยา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

เวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายคิชิดะ ฟูมิโอะ (H.E. Mr. KISHIDA Fumio) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 17.15 น. นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายจัสติน ทรูโด (The Right Honourable Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 20.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (AELM Gala Dinner) ณ หอประชุมกองทัพเรือ

เวลา 23.15 น. นายกรัฐมนตรี และภริยา รับเสด็จเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ

https://www.thaipost.net/hi-light/264949/

บิ๊กตู่” เปิดม่าน “เอเปก ซีอีโอ ซัมมิต” ผลักดันธุรกิจเติบโตยั่งยืน เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล


นายกฯ กล่าวเปิดการประชุม APEC CEO Summit ผลักดันความร่วมมือกับภาคเอกชนส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมสร้างบรรยากาศการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล

เมื่อเวลา 09.28 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ที่ห้อง Athenee Crystal Hall ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุม APEC CEO Summit ตามคำเชิญของสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC)

นายกฯ กล่าวว่า APEC CEO Summit เป็นหนึ่งในการรวมตัวของภาคธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และเป็นการกลับมาอีกครั้งของการประชุมในรูปแบบพบหน้า ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกให้แก่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สะท้อนให้เห็นว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกพร้อมเดินหน้าทำธุรกิจอย่างเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสให้ฟื้นฟูความเชื่อมโยง รื้อฟื้นความสัมพันธ์ และสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน สำหรับประเด็นสำคัญของเอเปคปีนี้ ซึ่งอยู่บนแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ที่ไทยนำมาเป็นแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาและการเติบโต ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างคุณค่า เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า และส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ไทยยังตระหนักว่าความท้าทายที่ประสบอยู่เป็นเรื่องที่เชื่อมโยงและคาบเกี่ยวกัน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ดังนี้
ประเด็นแรก การส่งเสริมความยั่งยืน นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกและสภาพภูมิอากาศที่ล้วนส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยไทยได้กำหนดให้ความยั่งยืนเป็นวาระสำคัญสูงสุดของเอเปคในปีนี้ และมุ่งมั่นที่จะนำเศรษฐกิจ BCG มาขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นในระยะยาว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุม พร้อมทั้งหาหนทางที่เหมาะสมให้ธุรกิจยังสามารถมีผลกำไร

นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ทุกคนสามารถร่วมมือกันได้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและพัฒนาการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น ความร่วมมือที่เข้มแข็งและความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ไทยกำลังสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยแก่ภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการลดของเสีย และการปล่อยก๊าซมลพิษ การค้าและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2065 และกำลังเร่งพัฒนาระบบนิเวศเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งไทยหวังว่าจะได้ร่วมมือกับทุกฝ่ายต่อไป

ประเด็นที่สอง การเจริญเติบโตที่ครอบคลุม ทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกันและต้องมั่นใจว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในเส้นทางการพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ที่ผลักดันให้มองไกลไปกว่าการสร้างผลกำไร และหันมาให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่สมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อทุกระดับในภูมิภาค โดยเอเปคผลักดันให้มีการปฏิรูปทางโครงสร้างและมาตรการที่จำเป็น และขจัดอุปสรรคของการทำธุรกิจ ทั้งการปฏิรูปกฎระเบียบภายใน การส่งเสริมบรรยากาศของการดำเนินธุรกิจและการลงทุน การช่วยเหลือ MSMEs การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และเอื้อต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เทคโนโลยีดิจิทัล และปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง การที่ไทยผลักดันการเสริมพลังสตรี และสนับสนุนการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับเยาวชนในโครงการ APEC Voices of the Future และได้รับแถลงการณ์เยาวชน (Youth Declaration) ซึ่งประเด็นสำคัญคือ การเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนและการปกป้องโลกเพื่อคนรุ่นหลัง

ประเด็นที่สาม การมุ่งไปสู่ดิจิทัล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นมิติใหม่ของการสร้างอาชีพ และการเจริญเติบโตในภูมิภาค เอเปคจึงเน้นให้การมุ่งไปสู่ดิจิทัลเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในปีนี้ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสร้างโอกาสสำหรับธุรกิจทั้งในและนอกภูมิภาค โดยร่วมมือกันเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ซึ่งจะเป็นตัวเร่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญท่ามกลางการฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคระบาด และส่งผลต่อการพัฒนาของภูมิภาคในระยะยาว

ทั้งนี้ เอเปคได้วางรากฐานในการปฏิรูปทางโครงสร้างให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขับเคลื่อนงานที่ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่การค้าดิจิทัลและความเชื่อมโยง รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการตามแผนงานด้านอินเทอร์เน็ตและเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเปค อย่างไรก็ตาม เอเปคต้องดำเนินการร่วมมือกับภาคเอกชนในด้านดิจิทัลเพื่อลดช่องว่าง สร้างความตระหนักรู้และสร้างความรู้ทางดิจิทัล พัฒนาขีดความสามารถ และส่งเสริมทักษะทางดิจิทัล เพื่อสร้างความสามารถของภาคแรงงานในยุคดิจิทัล

สำหรับไทยมีการปรับตัวและปฏิรูปทางโครงสร้างที่จำเป็น ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีต้อนรับการลงทุน และแรงงานที่มีทักษะและแรงงานขั้นสูงเพิ่มเติมในภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล รวมทั้งมีมาตรการจูงใจทั้งทางภาษีและไม่ใช่ภาษี นอกจากนี้ ไทยได้เปิดตัวโครงการตรวจลงตราประเภทผู้พำนักระยะยาว 10 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล พร้อมจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เป็นเขตนวัตกรรมดิจิทัลแห่งใหม่ และเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและนวัตกรรมของภูมิภาค

โดยในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยจะเสนอให้ผู้นำเอเปครับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางของเอเปคไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน สนับสนุนความพยายามในการจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน ผลักดันการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดขยะให้เป็นศูนย์ ซึ่งความสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ภูมิภาคก้าวไปข้างหน้า และเติบโตไปด้วยกันสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุม และสมดุล โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ การประชุม CEO Summit เป็นกิจกรรมของภาคเอกชนที่จัดขึ้นคู่ขนานกับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และถือเป็นหนึ่งในการรวมตัวของภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกประจำปีที่สำคัญที่สุด โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Embrace, Engage, Enable” มีการเชิญผู้นำ/ผู้แทนเขตเศรษฐกิจ ผู้นำภาคธุรกิจ และผู้นำทางความคิดเข้าร่วมงาน เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นสำคัญ เช่น อนาคตของโลก ความยั่งยืน การเติบโตที่ครอบคลุม การสาธารณสุขและสวัสดิการสุขภาพในยุคหลังโควิด-19 และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ การประชุม CEO Summit ยังเป็นโอกาสให้นักธุรกิจในภูมิภาคได้สร้างเครือข่ายระหว่างกัน ซึ่งในปีนี้ มีผู้นำและผู้แทนที่เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาและเสวนาในการประชุมฯ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 มีทั้งหมด 5 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีเวียดนาม ประธานาธิบดีชิลี รองประธานาธิบดีเปรู และนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 มีทั้งหมด 2 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

https://mgronline.com/politics/detail/9650000109777

ติดตามข่าวการประชุมเอเปกในประเทศไทย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพกันนะคะ

สถานการณ์ช่วงนี้ เรียบร้อยดีค่ะ

ตำรวจและกอ.รมน.ดูแลเต็มที่ ลุงตู่ปฏิบัติภารกิจอย่างสบายใจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่