ชุมชน
MORE...ปฏิบัติปล้นโบรกเกอร์
- จันทร์ที่14 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันชี้ชะตาว่า บริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทโบรกเกอร์ไหนจะอยู่หรือจะไป เพราะเป็นวันที่ครบกำหนดชำระค่าซื้อและขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน)หรือMORE ซึ่งถูกถล่มขายจนราคาติดฟลอร์ 2 วันติดต่อ
- แน่นอนว่า ราคาหุ้นMOREที่ถูกทุบลงมากองกับพื้น ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดา แต่มีการวางแผนมาอย่างดี และงานนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเชือดนักลงทุนรายย่อย เพราะตั้งเป้าปล้นโบรกเกอร์โดยตรง
- การซื้อขายหุ้นMOREเมื่อวันพฤหัสบดีที่10 พฤศจิกายน เกิดรายการที่ผิดปกติตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยมีนักลงทุนตั้งซื้อในราคาATO หรือราคาเปิดที่ราคา2.90 บาท จำนวนหุ้นที่ตั้งซื้อทั้งสิ้น1,531.77 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ4,500ล้านบาท
- คำสั่งซื้อATOที่ราคา2.90บาท กระจายไปประมาณ11 โบรกเกอร์ เพราะตลาดเหลักทรัพย์มีกฎเกณฑ์ ลูกค้าแต่ละรายไม่สามารถสั่งซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในแต่ละครั้งได้เกิน20 ล้านหุ้น
- คนที่ตั้งขายในราคาATO มีประมาณ21 ราย
-การซื้อขายราคาATO จำนวน1,531.77 ล้านหุ้น ในราคา2.90บาท แมทหรือตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยผ่านตลาดหลักทรัพย์ ก่อนที่ราคาหุ้นจะดิ่งลงจนติดพื้น30%และปิดที่ราคา1.95บาท
-คนที่ตั้งคำสั่งซื้อATO คาดว่าเป็นคนเพียงคนเดียว แต่ตั้งตัวแทนหรือนอมินี กระจายเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นตามโบรกเกอร์ประมาณ11 แห่ง โดยนำหุ้นมอร์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งอาจนำหุ้นMOREจำนวน50ล้านหุ้น แต่สามารถใช้มาร์จิ้น หรือใช้วงเงินสินเชื่อซื้อหุ้นได้จำนวน150 ล้านหุ้น
-นอกจากตั้งนอมินีฝั่งซื้อแล้ว อาจตั้งนอมินีฝั่งขายในเวลาเดียวกัน โดยขณะที่สั่งซื้อ นอมินีก็ขายหุ้นออก
-การชำะราคาค่าซื้อขายหุ้นใช้ระบบTบวก2 โดยชำระราคาค่าซื้อขายภายใน 2วัน ซึ่งวันจันทร์ที่14พฤศจิกายนนี้ โบรกเกอร์ฝั่งซื้อจะต้องชำระราคาภายใน12.00น. นาฬิกา และโบรกเกอร์ฝั่งขาย จะต้องชำระเงินให้ลูกค้าที่สั่งขายภายในเวลา15.00น.
-แต่โบรกเกอร์ประมาณ11 รายฝั่งซื้อ กำลังเคลื่อนไหว ขอให้ระงับการชำระราคาทั้งซื้อและขายหุ้นMOREชั่วคราว
-เพราะระแคะระคายว่า คำสั่งซื้อขายหุ้นMOREช่วงATOในราคา2.90บาท อาจเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่วางแผนมาโกงโบรกเกอร์ โดยมีหุ้นจำนวน เพียง500 ล้านหุ้นหรือคำนวณเงินเงินประมาณ1,500ล้านบาท และนำไปวางเป็นหลักประกันกระจายในโบรกเกอร์ประมาณ11แห่ง แต่สามารถซื้อหุ้นได้จำนวน1,531หุ้น ในวงเงินประมาณ4,500ล้านบาท
-และให้นอมีนีประมาณ21 ราย ตั้งขายในราคาATOหมดมือในครั้งเดียว1,531 ล้านหุ้น โดยได้เก็บหุ้นะสมไว้ก่อร ซึ่งจะได้เงินจากการขายประมาณ4,500ล้านบาท
-หุ้นที่วางเป็นหลักประกันตามโบรกเกอร์ประมาณ 11 แห่ง จำนวนประมาณ500 ล้านหุ้น แก๊งมิจฉาชีพคงยอมให้โบรกเกอร์ยึดไป แต่หุ้นที่นอมินีขาย จำนวน1,531 ล้านหุ้น วงเงินประมาณ4,500ล้านบาท โบรกเกอร์ที่รับคำสั่งขาย จะต้องจ่าย
-งานนี้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเกมMORE จะโกยส่วนต่างประมาณ3,000 ล้านบาท
-ปัญหาของโบรกเกอร์คือ จะตรวจสอบได้อย่างไรว่า ฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายหุ้นMOREเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นคนกลุ่มเดียวกัน เพราะถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามกติกา โบรกเกอร์ที่ตั้งคำสั่งซื้อหุ้นMORE ต้องชำระราคา และโบรกเกอร์ที่รับคำสั่งขาย ต้องจ่ายเงินให้ลูกค้าที่ขายหุ้น
-วงเงินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโบรกเกอร์ จากแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้หุ้นMOREมาเป็นเกมปล้น คาดว่าจะมีจำนวน3,000 ล้านบาท โดยโบรกเกอร์บางแห่งอาจเสียหายระดับ1 พันล้านบาท จึงเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ ระงับการชำระราคาหุ้นMOREไว้ก่อน
-แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีอำนาจสั่งระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE และถ้าระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้น อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้
-การระงับชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE มีเพียงหนทางเดียว จะต้องร้องต่อศาล ขอคุ้มครองชั่วคราว โดยระงับการชำระราคาค่าซื้อหุ้น จนกว่าจัตรวจสอบได้ว่า
-รายการATOหุ้นMOREที่2.90บาท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นไปโดยสุจริต หรือทุจริต โดยแก๊งมิจฉาชีพวางแผน ตั้งนอมินีมาสร้างภาพลวงตา เพื่อปล้นเงินจากโบรกเกอร์
-แต่เวลากระชั้นเข้ามา โบรกเกอร์ฝั่งซื้อหุ้นที่กำลังดิ้นรนสุดฤทธ์ เพื่อระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE จะร้องขอคำสั่งศาลขอคุ้มครองชั่วคราวได้ทันหรือ
-วันจันทร์นี้ ลุ้นระทึกจริงๆ ถ้าไม่มีคำสั่งศาลคุ้มครองชั่วคราว ขอให้ระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE โบรกเกอร์ฝั่งซื้อหุ้นMOREบางราย อาจต้องปิดฉากตัวเอง
-เพราะเมื่อไม่สามารถชำระราคาค่าซื้อได้ จะถูกสั่งปิดชั่วคราว
-คนที่อยู่เบื้องหลังเกมปล้นเงินจากหุ้นMORE ซึ่งตอนนี้มีบุคคลที่ถูกกล่าวถึงประมาณ10 รายชื่อ โดยมีนักลงทุนรายใหญ่ชื่อ “ปิงปอง”ถูกพาดพิงไปด้วยนั้น คงวางแผนมานานแล้ว
- และไม่เพียงแต่เก่งเท่านั้น แต่ยังกล้าด้วย ไม่กลัวคุกตาราง แต่งานนี้ถ้าสำเร็จ โกยไปประมาณ3 พันล้านบาท
-ทิ้งความระส่ำระสายและการล่มสลายให้โบรกเกอร์หลายแห่งทีเดียว
MORE แบบนี้คือเรื่องจริงไหม แล้วพวกที่ออกมาด่าว่าทำไมเม่าถึงยอมรับแต่กำไร เวลาขาดทุนไม่ยอมรับ รู้สาเหตุจริงๆแล้วหรอ
MORE...ปฏิบัติปล้นโบรกเกอร์
- จันทร์ที่14 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันชี้ชะตาว่า บริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทโบรกเกอร์ไหนจะอยู่หรือจะไป เพราะเป็นวันที่ครบกำหนดชำระค่าซื้อและขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน)หรือMORE ซึ่งถูกถล่มขายจนราคาติดฟลอร์ 2 วันติดต่อ
- แน่นอนว่า ราคาหุ้นMOREที่ถูกทุบลงมากองกับพื้น ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดา แต่มีการวางแผนมาอย่างดี และงานนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเชือดนักลงทุนรายย่อย เพราะตั้งเป้าปล้นโบรกเกอร์โดยตรง
- การซื้อขายหุ้นMOREเมื่อวันพฤหัสบดีที่10 พฤศจิกายน เกิดรายการที่ผิดปกติตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยมีนักลงทุนตั้งซื้อในราคาATO หรือราคาเปิดที่ราคา2.90 บาท จำนวนหุ้นที่ตั้งซื้อทั้งสิ้น1,531.77 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ4,500ล้านบาท
- คำสั่งซื้อATOที่ราคา2.90บาท กระจายไปประมาณ11 โบรกเกอร์ เพราะตลาดเหลักทรัพย์มีกฎเกณฑ์ ลูกค้าแต่ละรายไม่สามารถสั่งซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในแต่ละครั้งได้เกิน20 ล้านหุ้น
- คนที่ตั้งขายในราคาATO มีประมาณ21 ราย
-การซื้อขายราคาATO จำนวน1,531.77 ล้านหุ้น ในราคา2.90บาท แมทหรือตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยผ่านตลาดหลักทรัพย์ ก่อนที่ราคาหุ้นจะดิ่งลงจนติดพื้น30%และปิดที่ราคา1.95บาท
-คนที่ตั้งคำสั่งซื้อATO คาดว่าเป็นคนเพียงคนเดียว แต่ตั้งตัวแทนหรือนอมินี กระจายเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นตามโบรกเกอร์ประมาณ11 แห่ง โดยนำหุ้นมอร์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งอาจนำหุ้นMOREจำนวน50ล้านหุ้น แต่สามารถใช้มาร์จิ้น หรือใช้วงเงินสินเชื่อซื้อหุ้นได้จำนวน150 ล้านหุ้น
-นอกจากตั้งนอมินีฝั่งซื้อแล้ว อาจตั้งนอมินีฝั่งขายในเวลาเดียวกัน โดยขณะที่สั่งซื้อ นอมินีก็ขายหุ้นออก
-การชำะราคาค่าซื้อขายหุ้นใช้ระบบTบวก2 โดยชำระราคาค่าซื้อขายภายใน 2วัน ซึ่งวันจันทร์ที่14พฤศจิกายนนี้ โบรกเกอร์ฝั่งซื้อจะต้องชำระราคาภายใน12.00น. นาฬิกา และโบรกเกอร์ฝั่งขาย จะต้องชำระเงินให้ลูกค้าที่สั่งขายภายในเวลา15.00น.
-แต่โบรกเกอร์ประมาณ11 รายฝั่งซื้อ กำลังเคลื่อนไหว ขอให้ระงับการชำระราคาทั้งซื้อและขายหุ้นMOREชั่วคราว
-เพราะระแคะระคายว่า คำสั่งซื้อขายหุ้นMOREช่วงATOในราคา2.90บาท อาจเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่วางแผนมาโกงโบรกเกอร์ โดยมีหุ้นจำนวน เพียง500 ล้านหุ้นหรือคำนวณเงินเงินประมาณ1,500ล้านบาท และนำไปวางเป็นหลักประกันกระจายในโบรกเกอร์ประมาณ11แห่ง แต่สามารถซื้อหุ้นได้จำนวน1,531หุ้น ในวงเงินประมาณ4,500ล้านบาท
-และให้นอมีนีประมาณ21 ราย ตั้งขายในราคาATOหมดมือในครั้งเดียว1,531 ล้านหุ้น โดยได้เก็บหุ้นะสมไว้ก่อร ซึ่งจะได้เงินจากการขายประมาณ4,500ล้านบาท
-หุ้นที่วางเป็นหลักประกันตามโบรกเกอร์ประมาณ 11 แห่ง จำนวนประมาณ500 ล้านหุ้น แก๊งมิจฉาชีพคงยอมให้โบรกเกอร์ยึดไป แต่หุ้นที่นอมินีขาย จำนวน1,531 ล้านหุ้น วงเงินประมาณ4,500ล้านบาท โบรกเกอร์ที่รับคำสั่งขาย จะต้องจ่าย
-งานนี้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเกมMORE จะโกยส่วนต่างประมาณ3,000 ล้านบาท
-ปัญหาของโบรกเกอร์คือ จะตรวจสอบได้อย่างไรว่า ฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายหุ้นMOREเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นคนกลุ่มเดียวกัน เพราะถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามกติกา โบรกเกอร์ที่ตั้งคำสั่งซื้อหุ้นMORE ต้องชำระราคา และโบรกเกอร์ที่รับคำสั่งขาย ต้องจ่ายเงินให้ลูกค้าที่ขายหุ้น
-วงเงินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโบรกเกอร์ จากแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้หุ้นMOREมาเป็นเกมปล้น คาดว่าจะมีจำนวน3,000 ล้านบาท โดยโบรกเกอร์บางแห่งอาจเสียหายระดับ1 พันล้านบาท จึงเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ ระงับการชำระราคาหุ้นMOREไว้ก่อน
-แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีอำนาจสั่งระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE และถ้าระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้น อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้
-การระงับชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE มีเพียงหนทางเดียว จะต้องร้องต่อศาล ขอคุ้มครองชั่วคราว โดยระงับการชำระราคาค่าซื้อหุ้น จนกว่าจัตรวจสอบได้ว่า
-รายการATOหุ้นMOREที่2.90บาท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นไปโดยสุจริต หรือทุจริต โดยแก๊งมิจฉาชีพวางแผน ตั้งนอมินีมาสร้างภาพลวงตา เพื่อปล้นเงินจากโบรกเกอร์
-แต่เวลากระชั้นเข้ามา โบรกเกอร์ฝั่งซื้อหุ้นที่กำลังดิ้นรนสุดฤทธ์ เพื่อระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE จะร้องขอคำสั่งศาลขอคุ้มครองชั่วคราวได้ทันหรือ
-วันจันทร์นี้ ลุ้นระทึกจริงๆ ถ้าไม่มีคำสั่งศาลคุ้มครองชั่วคราว ขอให้ระงับการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นMORE โบรกเกอร์ฝั่งซื้อหุ้นMOREบางราย อาจต้องปิดฉากตัวเอง
-เพราะเมื่อไม่สามารถชำระราคาค่าซื้อได้ จะถูกสั่งปิดชั่วคราว
-คนที่อยู่เบื้องหลังเกมปล้นเงินจากหุ้นMORE ซึ่งตอนนี้มีบุคคลที่ถูกกล่าวถึงประมาณ10 รายชื่อ โดยมีนักลงทุนรายใหญ่ชื่อ “ปิงปอง”ถูกพาดพิงไปด้วยนั้น คงวางแผนมานานแล้ว
- และไม่เพียงแต่เก่งเท่านั้น แต่ยังกล้าด้วย ไม่กลัวคุกตาราง แต่งานนี้ถ้าสำเร็จ โกยไปประมาณ3 พันล้านบาท
-ทิ้งความระส่ำระสายและการล่มสลายให้โบรกเกอร์หลายแห่งทีเดียว