(โปรดอ่านเนื้อหาให้จบก่อนคอมเม้นท์ค่ะ)
เราเห็นข่าวผู้ป่วยมะเร็งฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง
ซึ่งวิธีที่เขาใช้ ก็ดูไม่น่าจะสบายตัวสักเท่าไหร่
และทำให้ญาติรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่งที่ต้องมาเห็นภาพที่น่ากลัวเหล่านั้น
เราคิดว่า ถ้า ผู้ป่วย มีสิทธิ์ขอให้หมอช่วยให้เขาตายอย่างสงบสุขไม่ทุกข์ทรมาน
ก็น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยมากกว่า
และญาติ ซึ่งยังไงก็คงต้องเสียใจอยู่แล้วเมื่อคนที่ตัวเองรักตายจากไป
แต่เขาก็น่าจะรู้สึกโอเคกว่า ถ้ารู้ว่าญาติของเขาได้ตายอย่างไม่ทุกข์ทรมานใดๆ
ศพสวยๆ ดูเหมือนหลับไปเฉยๆ
เราทราบว่าคุณหมอหลายท่านไม่อยากพูดเรื่องการุณยฆาต
พยายามจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบประคับประคองมากกว่า
แต่เราคิดว่า ตัวผู้ป่วยควรมีโอกาสได้เลือก ว่าจะขอรักษาแบบประคับประคอง หรือขอการุณยฆาต
ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับให้คุณหมอทำ ถ้าคุณหมอท่านใดไม่อยากจะทำ
แต่เราเชื่อว่าคงมีคุณหมอบางท่าน ที่เข้าใจถึงเหตุผลของผู้ป่วยที่ต้องการการุณยฆาตจริงๆ และยอมทำให้
โดยส่วนตัวเราเอง ถ้ากฎหมายไทยอนุญาตให้มีการการุณยฆาต
เราก็จะเขียน Living Will เอาไว้
ว่า ถ้าเราป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หรือ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์
หรือ ป่วยอยู่ในสภาพผักไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร
ขอปฏิเสธการรักษาที่เป็นไปเพื่อยื้อชีวิตทุกกรณี
และขอให้คุณหมอช่วยทำการุณยฆาตให้ด้วย
เราคิดว่าตอนแก่ๆเราคงจะอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูกหลาน
และเรามีความเสี่ยงทางกรรมพันธุ์ ที่จะเป็นมะเร็ง และอัลไซเมอร์
เพราะเรามีบรรพบุรุษที่สืบสายเลือดโดยตรงมา ป่วยเป็นโรคนี้หลายคน
ซึ่งมะเร็ง เป็นโรคที่ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมานมาก ยาแก้ปวดขนานไหนก็แทบเอาไม่อยู่
ส่วนอัลไซเมอร์ มันก็ไม่ใช่แค่อาการหลงลืมอย่างเดียว มันมีอาการเหมือนคนวิกลจริตด้วย
ซึ่งถ้าเราเกิดป่วยอย่างนั้นขึ้นมา เราก็คิดว่า ไหนๆเราก็จะตายอยู่แล้ว
ไม่รู้จะยื้อชีวิตตัวเองไว้ให้เปลืองทรัพยากรโลกทำไม
เราจะเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้มูลนิธิเพื่อการกุศล แล้วก็รีบๆตายซะ
ทรัพย์สินของเราที่เหลืออยู่จะได้เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนที่เขายังมีอนาคตมากกว่าเรา
ไม่ใช่ต้องเอาเงินก้อนนี้มารักษาเรา จ้างคนมาดูแลเรา ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
และตัวเราเอง ก็จะได้ไม่ต้องทนทรมานกับมะเร็งนานๆ หรือกลายเป็นบ้าเพราะอัลไซเมอร์
หรือได้แต่นอนมองเพดานในสภาพผักอยู่ด้วย
เราอยากให้เมืองไทยมีกฎหมายการุณยฆาต จะพอเป็นไปได้ไหมคะ
จะตั้งเงื่อนไขให้รัดกุม เพื่อป้องกันการลักลอบกระทำ ที่ฝ่าฝืนเจตนาของตัวผู้ป่วยเอง ยังไง
ก็ศึกษาจากกฎหมายของต่างประเทศ น่าจะใช้ของเขาเป็นแนวทางได้นะคะ
(ป.ล. ถ้าเมืองไทยไม่มีกฎหมายการุณยฆาต
เราก็ได้ศึกษาวิธีการการุณยฆาตตัวเองด้วยการใช้ก๊าซไว้แล้วนะคะ 555+
แต่มันต้องใช้เทคนิคเยอะ ที่จะทำให้ถูกต้องตามทฤษฎีเป๊ะๆ ไม่งั้นมันก็จะไม่เวิร์ค
และถ้าเราเป็นอัลไซเมอร์ หรือเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ป่วยติดเตียง เราก็อาจจะทำเองไม่ได้
เพราะฉะนั้น เราถึงอยากให้มีการุณยฆาตที่คุณหมอเป็นผู้ทำให้มากกว่าค่ะ)
อยากให้เมืองไทยออกกฎหมายอนุญาตให้มีการ การุณยฆาต สำหรับผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่ไม่มีทางรักษาหาย พอจะเป็นไปได้ไหมคะ
เราเห็นข่าวผู้ป่วยมะเร็งฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง
ซึ่งวิธีที่เขาใช้ ก็ดูไม่น่าจะสบายตัวสักเท่าไหร่
และทำให้ญาติรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่งที่ต้องมาเห็นภาพที่น่ากลัวเหล่านั้น
เราคิดว่า ถ้า ผู้ป่วย มีสิทธิ์ขอให้หมอช่วยให้เขาตายอย่างสงบสุขไม่ทุกข์ทรมาน
ก็น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยมากกว่า
และญาติ ซึ่งยังไงก็คงต้องเสียใจอยู่แล้วเมื่อคนที่ตัวเองรักตายจากไป
แต่เขาก็น่าจะรู้สึกโอเคกว่า ถ้ารู้ว่าญาติของเขาได้ตายอย่างไม่ทุกข์ทรมานใดๆ
ศพสวยๆ ดูเหมือนหลับไปเฉยๆ
เราทราบว่าคุณหมอหลายท่านไม่อยากพูดเรื่องการุณยฆาต
พยายามจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบประคับประคองมากกว่า
แต่เราคิดว่า ตัวผู้ป่วยควรมีโอกาสได้เลือก ว่าจะขอรักษาแบบประคับประคอง หรือขอการุณยฆาต
ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับให้คุณหมอทำ ถ้าคุณหมอท่านใดไม่อยากจะทำ
แต่เราเชื่อว่าคงมีคุณหมอบางท่าน ที่เข้าใจถึงเหตุผลของผู้ป่วยที่ต้องการการุณยฆาตจริงๆ และยอมทำให้
โดยส่วนตัวเราเอง ถ้ากฎหมายไทยอนุญาตให้มีการการุณยฆาต
เราก็จะเขียน Living Will เอาไว้
ว่า ถ้าเราป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หรือ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์
หรือ ป่วยอยู่ในสภาพผักไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร
ขอปฏิเสธการรักษาที่เป็นไปเพื่อยื้อชีวิตทุกกรณี
และขอให้คุณหมอช่วยทำการุณยฆาตให้ด้วย
เราคิดว่าตอนแก่ๆเราคงจะอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูกหลาน
และเรามีความเสี่ยงทางกรรมพันธุ์ ที่จะเป็นมะเร็ง และอัลไซเมอร์
เพราะเรามีบรรพบุรุษที่สืบสายเลือดโดยตรงมา ป่วยเป็นโรคนี้หลายคน
ซึ่งมะเร็ง เป็นโรคที่ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมานมาก ยาแก้ปวดขนานไหนก็แทบเอาไม่อยู่
ส่วนอัลไซเมอร์ มันก็ไม่ใช่แค่อาการหลงลืมอย่างเดียว มันมีอาการเหมือนคนวิกลจริตด้วย
ซึ่งถ้าเราเกิดป่วยอย่างนั้นขึ้นมา เราก็คิดว่า ไหนๆเราก็จะตายอยู่แล้ว
ไม่รู้จะยื้อชีวิตตัวเองไว้ให้เปลืองทรัพยากรโลกทำไม
เราจะเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้มูลนิธิเพื่อการกุศล แล้วก็รีบๆตายซะ
ทรัพย์สินของเราที่เหลืออยู่จะได้เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนที่เขายังมีอนาคตมากกว่าเรา
ไม่ใช่ต้องเอาเงินก้อนนี้มารักษาเรา จ้างคนมาดูแลเรา ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
และตัวเราเอง ก็จะได้ไม่ต้องทนทรมานกับมะเร็งนานๆ หรือกลายเป็นบ้าเพราะอัลไซเมอร์
หรือได้แต่นอนมองเพดานในสภาพผักอยู่ด้วย
เราอยากให้เมืองไทยมีกฎหมายการุณยฆาต จะพอเป็นไปได้ไหมคะ
จะตั้งเงื่อนไขให้รัดกุม เพื่อป้องกันการลักลอบกระทำ ที่ฝ่าฝืนเจตนาของตัวผู้ป่วยเอง ยังไง
ก็ศึกษาจากกฎหมายของต่างประเทศ น่าจะใช้ของเขาเป็นแนวทางได้นะคะ
(ป.ล. ถ้าเมืองไทยไม่มีกฎหมายการุณยฆาต
เราก็ได้ศึกษาวิธีการการุณยฆาตตัวเองด้วยการใช้ก๊าซไว้แล้วนะคะ 555+
แต่มันต้องใช้เทคนิคเยอะ ที่จะทำให้ถูกต้องตามทฤษฎีเป๊ะๆ ไม่งั้นมันก็จะไม่เวิร์ค
และถ้าเราเป็นอัลไซเมอร์ หรือเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ป่วยติดเตียง เราก็อาจจะทำเองไม่ได้
เพราะฉะนั้น เราถึงอยากให้มีการุณยฆาตที่คุณหมอเป็นผู้ทำให้มากกว่าค่ะ)