รีวิวหนังเปรียบเทียบมังงะ The fable ภาค 2 รับชมได้ทางNetflix
ชื่อเรื่อง The fable The killer who doesn't kill
สามารถรับชมได้ทาง Netflix
เรื่องนี้เป็นภาคต่อนะครับ เนื้อหาต่อจากภาคแรกโดยตรง
เนื้อหาเทียบกับมังงะ
เนื้อหาภาคแรกจบที่เจอฮินาโกะ ตัดตอนพระเอกไปขึ้นเขากับคุโรทิ้ง(โคตรเสียดาย ฉากโปรดในมังงะเลย)
เนื้อเรื่องจะเหมือนมังงะประมาณ 80% โดยเน้นไปที่ตัวละคร ฮินาโกะ เด็กสาวอัมพาต ที่พระเอกเคยช่วยไว้ตอนรับงาน(ในมังงะตอนเกิดเหตุการณ์รู้สึกจะไม่ได้ช่วย แต่ในหนังพยายามช่วยเต็มที่) กับตัวละคร อุซึโบะ ตัวร้ายหลักประจำภาค
ฮินาโกะ บทแทบจะเหมือนในมังงะเลย เป็นตัวละครหลักของภาคนี้คนนึงเลยก็ว่าได้
อุซึโบะ ในมังงะ บทจะเลวกว่า ร้ายกว่า ออกแนวเจ้าแผนการ เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ในหนังดูเป็นตัวร้ายธรรมดาๆ ในมังงะเลวชาติกว่าเยอะ
พระเอกภาคนี้ โชว์เทพบ่อยขึ้น เพราะฉากบู๊เยอะขึ้นและทำออกมาได้ดีด้วย สิ่งที่ทำให้ลุ้นคือการที่พระเอกไม่ฆ่าใครและต้องช่วยเหลือคนอื่น ในมังงะไม่มีบู๊แหลกหลาน แต่ในหนังคือเจอทีมนักฆ่า มาเป็นสิบ การที่พระเอกไม่ฆ่าใครทำฉากบู้ยังไงให้น่าสนใจ คือสิ่งที่คนดูอยากเห็น
โยโกะ น้องสาวปลอมๆของพระเอก บทเรื่องชีวิตประจำวันถูกตัดทิ้งซะส่วนใหญ่ แต่ยังคงฉากบู๊ไว้ แถมเพิ่มมากกว่าเดิม
แว่นหื่น ในเรื่องหนังจะตัดจบช่วงบุกหื่นทิ้ง เหลือแค่ตอนแบล็คเมล์ แต่ในมังงะช่วงเปิดแบล็คเมล์จะขยี้มากกว่าเยอะ ในหนังออกจะห้วนๆไปหน่อย
มิซากิ นางเอกของเรื่อง บทมีไม่มาก ต้นเรื่อง มีนิดหน่อยกับกลางเรื่องตรงเจอแว่น นอกนั้นไม่มีบท
ตัวละครอื่นๆ อย่างยากูซ่า คุโรในหนังบทหายเรียบครับ โผล่มานิดเดียว เป็นตัวรองงงง มาแบบจางๆ แต่ในมังงะคือบทเยอะอยู่
ฉาก 18+ เหมือนภาคแรก คือ ในหนังมีแค่พอให้รู้ว่า อ๋อ สองคนนี้มีอะไรกันนะ แต่ในการ์ตูนจะมีภาพชัดเจนกว่าเยอะ
ฉากบู๊ในหนังคือ เพิ่มมาเยอะมากถ้าเทียบกับมังงะ ช่วงกลางเรื่องจะใส่บทบู๊เต็มๆหนักๆ ฉากบู๊ทำได้ดีมาก สร้างสรรค์ดีด้วย พระเอกโชว์เทพได้ดี ดูแล้วคิดถึงเรื่อง Bourne ฉากบู๊ดีกว่าภาคแรกเยอะ แต่ภาคนี้บู๊ค่อนข้างน้อยครับ ถ้าหวังดูฉากแอคชั่นมันๆแบบ จอน วิค เรื่องนี้ข้ามไปเลยดีกว่า
ท้ายเรื่องทำได้ค่อนข้างโอเค โดยเฉพาะฉากระเบิด มีมุมมองและลูกเล่นเยอะกว่าในมังงะ เนื้อเรื่องเหมือนในมังงะ แต่ขยี้ได้ไม่ดีเท่า ในมังงะจะมีบรรยายความสติแตก ความดราม่าของตัวละครได้ดีกว่า
โดยรวม ไม่แย่นะครับ แต่ก็ไม่ดีมาก รู้สึกว่าเอื่อยๆเกินไป บู๊น้อยมาก ถึงฉากบู๊ได้ดีก็เถอะ แต่เนื้อหาเน้นไปที่ฮินาโกะมากเกินไป จนทำให้รู้สึกว่าตัวละครอื่นๆบทจางลงไปมากเลย ทั้งที่น่าจะขยี้เกี่ยวกับแว่นหื่นได้กว่านี้อีกหน่อย เพราะในมังงะช่วงแบล็คเมล์นี่ทำได้ดีมาก แต่ในหนังรู้สึกธรรมดามากเลย
คะแนน 7/10 ให้เท่าภาคแรกครับ ไม่ดีมาก แต่ถ้ามีภาคต่อก็พร้อมดูนะ
รีวิวหนังเปรียบเทียบมังงะ The fable ภาค 2 รับชมได้ทางNetflix
ชื่อเรื่อง The fable The killer who doesn't kill
สามารถรับชมได้ทาง Netflix
เรื่องนี้เป็นภาคต่อนะครับ เนื้อหาต่อจากภาคแรกโดยตรง
เนื้อหาเทียบกับมังงะ
เนื้อหาภาคแรกจบที่เจอฮินาโกะ ตัดตอนพระเอกไปขึ้นเขากับคุโรทิ้ง(โคตรเสียดาย ฉากโปรดในมังงะเลย)
เนื้อเรื่องจะเหมือนมังงะประมาณ 80% โดยเน้นไปที่ตัวละคร ฮินาโกะ เด็กสาวอัมพาต ที่พระเอกเคยช่วยไว้ตอนรับงาน(ในมังงะตอนเกิดเหตุการณ์รู้สึกจะไม่ได้ช่วย แต่ในหนังพยายามช่วยเต็มที่) กับตัวละคร อุซึโบะ ตัวร้ายหลักประจำภาค
ฮินาโกะ บทแทบจะเหมือนในมังงะเลย เป็นตัวละครหลักของภาคนี้คนนึงเลยก็ว่าได้
อุซึโบะ ในมังงะ บทจะเลวกว่า ร้ายกว่า ออกแนวเจ้าแผนการ เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ในหนังดูเป็นตัวร้ายธรรมดาๆ ในมังงะเลวชาติกว่าเยอะ
พระเอกภาคนี้ โชว์เทพบ่อยขึ้น เพราะฉากบู๊เยอะขึ้นและทำออกมาได้ดีด้วย สิ่งที่ทำให้ลุ้นคือการที่พระเอกไม่ฆ่าใครและต้องช่วยเหลือคนอื่น ในมังงะไม่มีบู๊แหลกหลาน แต่ในหนังคือเจอทีมนักฆ่า มาเป็นสิบ การที่พระเอกไม่ฆ่าใครทำฉากบู้ยังไงให้น่าสนใจ คือสิ่งที่คนดูอยากเห็น
โยโกะ น้องสาวปลอมๆของพระเอก บทเรื่องชีวิตประจำวันถูกตัดทิ้งซะส่วนใหญ่ แต่ยังคงฉากบู๊ไว้ แถมเพิ่มมากกว่าเดิม
แว่นหื่น ในเรื่องหนังจะตัดจบช่วงบุกหื่นทิ้ง เหลือแค่ตอนแบล็คเมล์ แต่ในมังงะช่วงเปิดแบล็คเมล์จะขยี้มากกว่าเยอะ ในหนังออกจะห้วนๆไปหน่อย
มิซากิ นางเอกของเรื่อง บทมีไม่มาก ต้นเรื่อง มีนิดหน่อยกับกลางเรื่องตรงเจอแว่น นอกนั้นไม่มีบท
ตัวละครอื่นๆ อย่างยากูซ่า คุโรในหนังบทหายเรียบครับ โผล่มานิดเดียว เป็นตัวรองงงง มาแบบจางๆ แต่ในมังงะคือบทเยอะอยู่
ฉาก 18+ เหมือนภาคแรก คือ ในหนังมีแค่พอให้รู้ว่า อ๋อ สองคนนี้มีอะไรกันนะ แต่ในการ์ตูนจะมีภาพชัดเจนกว่าเยอะ
ฉากบู๊ในหนังคือ เพิ่มมาเยอะมากถ้าเทียบกับมังงะ ช่วงกลางเรื่องจะใส่บทบู๊เต็มๆหนักๆ ฉากบู๊ทำได้ดีมาก สร้างสรรค์ดีด้วย พระเอกโชว์เทพได้ดี ดูแล้วคิดถึงเรื่อง Bourne ฉากบู๊ดีกว่าภาคแรกเยอะ แต่ภาคนี้บู๊ค่อนข้างน้อยครับ ถ้าหวังดูฉากแอคชั่นมันๆแบบ จอน วิค เรื่องนี้ข้ามไปเลยดีกว่า
ท้ายเรื่องทำได้ค่อนข้างโอเค โดยเฉพาะฉากระเบิด มีมุมมองและลูกเล่นเยอะกว่าในมังงะ เนื้อเรื่องเหมือนในมังงะ แต่ขยี้ได้ไม่ดีเท่า ในมังงะจะมีบรรยายความสติแตก ความดราม่าของตัวละครได้ดีกว่า
โดยรวม ไม่แย่นะครับ แต่ก็ไม่ดีมาก รู้สึกว่าเอื่อยๆเกินไป บู๊น้อยมาก ถึงฉากบู๊ได้ดีก็เถอะ แต่เนื้อหาเน้นไปที่ฮินาโกะมากเกินไป จนทำให้รู้สึกว่าตัวละครอื่นๆบทจางลงไปมากเลย ทั้งที่น่าจะขยี้เกี่ยวกับแว่นหื่นได้กว่านี้อีกหน่อย เพราะในมังงะช่วงแบล็คเมล์นี่ทำได้ดีมาก แต่ในหนังรู้สึกธรรมดามากเลย
คะแนน 7/10 ให้เท่าภาคแรกครับ ไม่ดีมาก แต่ถ้ามีภาคต่อก็พร้อมดูนะ