JJNY : อุ๊งอิ๊งให้กำลังใจคนอุบล│จ่อเอาผิดครอบครัวเค ร้อยล้าน│ค่าบาทส่อไหลทะลุ40บ.│เครื่องบินทัพรัสเซียร่วงใส่บ้านปชช.อีก

อุ๊งอิ๊ง ลงพื้นที่ ให้กำลังใจคนอุบล บ่น เสียใจช่วยอะไรไม่ได้ เหตุติดกฏเหล็ก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3635282
 
 
“อุ๊งอิ๊ง” ลงพื้นที่ ให้กำลังใจคนอุบล บ่น เสียใจช่วยอะไรไม่ได้ เหตุติดกฏเหล็ก
 
“แพทองธาร” นำคณะ พท. ลงพื้นที่ให้กำลังใจคนอุบลฯ ประสบภัยน้ำท่วม บ่นเสียดายช่วยอะไรไม่ได้ เหตุติดกฎเหล็ก กกต. ขณะที่ “ชลน่าน” ยันดันญัตติด่วนด้วยวาจาแก้ปัญหาน้ำท่วมหนักเข้าสภาฯ ทันที่ที่ประชุม
 
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค, น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์  ส.ส.กทม. โฆษกพรรค, น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรค, พร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ใน อ.เมือง อ.วารินชำราบ
 
ผู้สื่อข่าว รายงานว่าทันทีที่คณะของพรรค พท.มาถึงท่าอากาศยานฯ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และทิศทางการเมือง นำ ส.ส.อุบลราชธานี, ส.ส.ยโสธร, และ ส.ส.อำนาจเจริญ อาทิ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์, น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ, นายสมคิด เชื้อคง, นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ, นายบุญแก้ว สมวงศ์, น.ส.สมหญิง บัวบุตร, นายธนกร ไชวกุล ร่วมต้อนรับคณะ ท่ามกลางประชาชนร่วมต้อนรับและให้กำลังใจกับ ทั้งนี้ ประชาชนยังส่งเสียงให้กำลังใจพร้อมตะโกนว่า “สู้ๆ” เสียงดังสนั่นกึกก้องอาคารท่าอากาศยานอุบลราชธานี
 
จากนั้นเวลา 09.30 น. คณะของพรรค พท. ได้เดินทางมาถึงศูนย์บรรเทาทุกข์น้ำท่วม เทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร ยารักษาโรค ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งเปิดบริการ 24 ชั่วโมง โดยมี น.ส.พิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี พร้อมคณะ รอต้อนรับและพาคณะของพรรค พท.เดินชมศูนย์ฯ เพื่อให้กำลังใจอาสาสมัครที่ทำอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
 
จากนั้นเวลา 10.30 น. คณะพรรค พท.ได้เดินทางมาที่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทุกภัย ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย และต้องอพยพมาอยู่ที่ศูนย์อพยพมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน มีประชาชนจากหลายชุมชนมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 600 คนปักหลักพักค้างคืน โดยประชาชนบางคนบอกว่า ปัญหาน้ำท่วมในปีนี้หนักกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2562 ซึ่งทันทีที่ น.ส.แพทองธาร นพ.ชลน่าน และคณะมาถึง มีประชาชนรอต้อนรับพร้อมมอบดอกไม้ ผูกผ้าขาวให้กับคณะของพรรค พท. จากนั้น น.ส.กิตติ์ธัญญา ได้นำคณะของพรรค พท.เดินไปดูสถานการณ์น้ำท่วมภายในบ้านเรือนของ ชุมชนวัดวาริน ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ ซึ่งบ้านเรือนหลายหลังคาต้องประสบน้ำท่วมสูงจมถึง 1 ชั้นของบ้าน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะของพรรค พท.ยังได้พบกับยายหนู วัย 82 ปี ที่พักอยู่ภายในเต้นท์ศูนย์อพยพ ซึ่ง นพ.ชลน่านได้ถามว่า ยายหนูรู้จักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยายหนูบอกว่ารู้จัก น.ส.แพทองธาร จึงถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อให้ยายหนูเห็นหน้าชัดเจน ทำให้ยายหนูชมว่า น.ส.แพทองธาร ว่า สวยกว่า นายทักษิณอีก น.ส.แพทองธารบอกว่า นายทักษิณหล่อ จากนั้น น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้ให้กำลังใจและขอให้รักษาสุขภาพด้วย
 
ทั้งนี้ น.ส.กิตติ์ธัญญา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ที่ผ่านมาประชาชนต้องประสบกับน้ำท่วมขังและเป็นพาหะนำโรคซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคฉี่หนูไปแล้ว 1 คน ซึ่งนพ.ชลน่านได้ แสดงความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ที่จะต้องลุยน้ำเข้าไปในบ้านเรือนของตนเองซึ่งอาจจะเผชิญกับโรคฉี่หนูได้ ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน อ.เมือง อ.วารินชำราบ
 
จากนั้น น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่รู้สึกเห็นใจประชาชนและต้องให้ ต้องให้กำลังใจ ซึ่งปี 2562 ที่ถือว่าน้ำท่วมหนักแล้ว แต่ปีนี้น้ำท่วมหนักกว่าและประชาชนก็ยังคงอยู่ที่ศูนย์อพยพมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ทั้งนี้ ตนเข้าใจ เรื่องระเบียบ 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ตอนนี้เห็นความลำบากของพี่น้องประชาชน ซึ่งภาครัฐเองก๋ไม่สามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง เราก็ต้องกระจายความช่วยเหลือ ทุกอย่างไม่ใช่การหาเสียงแต่เป็นการช่วยเหลือประชาชนในประเทศ ดังนั้น ต้องระดมกำลังช่วยประชาชนให้เร็วที่สุด ไม่ต้องมาแคร์ว่าใครจะได้เสียงเลือกตั้ง
 
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องการดูแลประชาชนรัฐก็ต้องให้ความสำคัญ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องช่วยอย่างเต็มที่โดยเฉพาะอาหารการกิน เพราะประชาชนหลายครอบครัวอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ฯ และทิ้งบ้านเรือนของตนเองไว้ ยังต้องรักษาบ้านเรือนอีก ดังนั้น ความเป็นอยู่ต้องเต็มที่ ส่วนอีกเรื่องคือการชดเชยเยียวยา แม้ว่าบางหมู่บ้านไม่ได้เสียหาย แต่อยู่ไม่ได้ก็ต้องดูแลและเยียวยา ซึ่งจากการฟังเสียงสะท้อนของประชาชนในพื้นที่ก็บอกว่าระบบการเตือนภัยที่เก็บของไม่ทัน เพราะไม่มีการแจ้งรายละเอียดก่อนเกิดน้ำท่วมว่า น้ำจะท่วมเร็วขนาดไหน ทำให้เสียหาย ฉะนั้น รัฐต้องแก้ไขถึงระบบการแจ้งเตือนภัยและแก้ปัญหาระยะยาว ไม่เช่นนั้น อ.วารินชำราบ จะเป็นเมืองแช่น้ำต่อไป ยืนยันว่าพรรคพท. มีคำตอบในการแก้ปัญหากับเรื่องนี้
 
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังแสดงความเป็นห่วงบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ที่ถูกขโมยทรัพย์สินภายในบ้านเรือนในขณะที่ต้องพำนักอยู่ศูนย์อพยพด้วยว่า ภาครัฐต้องดูแลประชาชน เพราะกลางวันอยู่ที่ศูนย์อพยพ ส่วนกลางคืนต้องผลัดเวรกันไปดูบ้านเรือน ทั้งที่ไฟดับ ดังนั้น ภาครัฐต้องจัดเวรยามดูแลบ้านเรือนประชาชน ที่สำคัญต้องให้ความรู้ความเข้าใจประชาชนด้วย เพราะมีคนแค่กลุ่มหนึ่งที่ฉวยโอกาสในจังหวะที่ประชาชนกำลังประสบความเดือดร้อน
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในสมัยประชุมรัฐสภาที่กำลังจะเปิดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทันทีที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันแรก พรรค พท.จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในประเด็นกราดยิงจ.หนองบัวลำภู และประเด็นปัญหาความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนประสบปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดเข้าสู่ที่ประชุมสภาด้วย เพื่อเสนอ แนวทางไปยังรัฐบาลให้แก้ปัญหาทั้งระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว
 
จากนั้น น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้เข้าพบปะพี่น้อง ประชาชนที่พักคอยอยู่ที่ศาลาภายในชุมชนวัดวาริน โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวกับประชาชนว่า พรรค พท.ขอมาให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งขณะนี้มีกฎเหล็กของ กกต. 180 วันทำให้พรรค พท.ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม จึงทำได้เพียงส่งกำลังใจให้กับประชาชนเท่านั้น แล้วหวังว่าประชาชนจะได้กลับบ้านของตนเองในเร็ววันนี้ และพรรค พท.ขอส่งกำลังใจดีดีให้ประชาชนได้ผ่านปัญหานี้ไปอย่างเร็วที่สุด
 
ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าพรรค พท.มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจประชาชนและขอให้อดทนกับปัญหา

---

 
จ่อเอาผิดครอบครัว เค ร้อยล้าน บช.น.แจงคดีเก่าทำร้ายป้าเป้า ออกหมายจับแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7330588

จ่อเอาผิดครอบครัว “เค ร้อยล้าน” ฐานปล่อยปละละเลย บช.น. แจงคดีเก่า ทำร้ายป้าเป้า ขออนุมัติหมายจับแล้วเมื่อวานนี้
  
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ต.ค. 65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่นายคเณศพิศณุเทพ หรือเค ร้อยล้าน จักรภพมหาเดชา บุกเข้าล็อกคอ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขณะเข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุส่งไปยังโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเพื่อตรวจสอบสภาพอาการทางจิตว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิตหรือไม่ แพทย์ได้ทำการตรวจอาการเพื่อประเมินวิเคราะห์ในเบื้องต้นแล้ว แต่ลูกชายของผู้ก่อเหตุได้มาติดต่อขอรับตัวกลับไปรักษาที่บ้านเอง ทำให้ไม่ได้มีการแอดมิท
 
ซึ่งแพทย์อนุญาตให้นำตัวกลับไปรักษาที่บ้านได้ โดยพนักงานสอบสวนได้มีการนัดหมายให้ผู้ต้องหามารายงานตัวในวันที่ 8 พ.ย. 65 นี้ เพื่อนำตัวเข้าขั้นตอนส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหาแกล้งทำให้ผู้อื่นตื่นตกใจซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท
 
ส่วนทางคดีนี้มีรายงานว่าหลังจากเลิกงาน นายธนาธร ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ระบุข้อหาดังกล่าวลงไปชัดเจนว่าเป็นการทำร้ายร่างกายถึงขั้นใดต้องรอให้ นายธนากร นำผลตรวจของแพทย์มายืนยันว่าเป็นการได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ หากเป็นการได้รับบาดเจ็บสาหัสก็จะเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก
 
ขณะที่ผู้จัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติก็เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมอีกหลายข้อหา แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ผู้จัดงานจะแจ้งข้อหาใดกับผู้ก่อเหตุบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนและร้อยเวรได้เตรียมรับแจ้งความในกรณีดังกล่าวไว้แล้ว และอาจพิจารณาเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในลำดับถัดไป
 
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.สนลุมพินี อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าพฤติการณ์ที่ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุออกมาทำความเดือดร้อนให้กับบุคคลและประชาชนโดยส่วนใหญ่หลายครั้ง ซึ่งหากนับรวมกันแล้วมากกว่า 3-4 ครั้งขึ้นไป จะเข้าข่ายเป็นการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลผู้ป่วยจนทำให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายก็จำเป็นต้องดำเนินคดีกับญาติหรือผู้ดูแลที่ระบุไว้ในคดีก่อนหน้านี้
 
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับตัว เค ร้อยล้าน ล่าสุดที่เคยปรากฏเป็นข่าวคือการบุกเข้าทำร้ายร่างกาย นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า บริเวณสกายวอล์ก เขตปทุมวัน ขณะจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเหตุการดังกล่าวเป็นพื้นที่ของ สน.ปทุมวัน กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวนมีการทำสำนวนส่งฟ้องซึ่งเมื่อถึงวันนัดส่งตัวให้อัยการ ตัวนายเค ร้อยล้าน ไม่มาตามนัดทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน จึงมีการขออนุมัติหมายจับไว้เป็นที่เรียบร้อยวานนี้
ก่อนจะกลับมาก่อเหตุความวุ่นวายอีกครั้งในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติล่าสุด ส่วนคดีที่มีการนำงูไปปล่อยบนถนนราชดำหริ ทางพนักงานสอบสวนมีการนัดหมาย ให้นายเค ร้อยล้าน มาพบเพื่อส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน อีกครั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
  
ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังพร้อมดำเนินการดูแลความปลอดภัยการประชุม APEC ที่จะถึงนี้ว่าจะไม่มีความวุ่นวายในลักษณะนี้ขึ้นอย่างแน่นอน