'อุ๊งอิ๊ง' ปลื้มโพลเชียร์ขึ้นนายกฯ ยังกั๊กเป็นแคนดิเดต ชี้ฟ้าลิขิตหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3553097
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 กันยายน ที่จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดกิจกรรม “
สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ว่า อาจจะมีเซอร์ไพรส์ขอให้ประชาชนติดตาม ทั้งนี้เราทำงานอย่างหนักเพื่อคิดแต่ละนโยบายขึ้นมาในการนำปัญหาของประชาชนมาแก้ไข ซึ่งเราจะเริ่มทยอยเปิดนโยบายในช่วงการหาเสียง
เมื่อถามว่า กลุ่มเกษตรกร กลุ่มคนฐานรากถือเป็นเป้าหมายที่หวังจะได้คะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์ใช่หรือไม่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า เกษตรกรเป็นแรงสำคัญ เป็นแรงหลัก ซึ่งเราไม่ได้มองแค่การหาเสียงหรือการชนะเลือกตั้ง แต่ปากท้องของประชาชนต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกร หากในส่วนนี้แข็งแรงก็จะสะท้อนภาพใหญ่ของประเทศได้
เมื่อถามว่า พรรค พท.จะมีการเดินหน้าสานต่อนโยบายจำนำข้าวหรือไม่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการทบทวนรายละเอียด และต้องทำให้ดี แต่แน่นอนว่า มีกระบวนการที่มีปัญหาหรือมีอะไรบางอย่าง ซึ่งจะต้องนำมาแก้ไขเพื่อตอบสนองประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้อย่างที่เคยพูดนโนบายจำนำข้าว เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และจุดมุ่งหมายของพรรคพท. คืออยากให้เกษตรกร ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้น นโยบายจำนำข้าวในเรื่องคอนเซปต์ยังเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า ขณะนี้หลายพรรคเริ่มมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. จะมีความชัดเจนได้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากกระแสเริ่มมีมากขึ้น น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อน และพรรค พท.จะมีความชัดเจนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีฟ้าลิขิตให้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนในพรรค และต้องดูเรื่องความเหมาะสม ซึ่งจะต้องดูเมื่อการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทั้งนี้ประเทศต้องไปต่อ ไม่ใช่จะมาดูว่าใครจะเป็นผู้นำ แต่จะต้องเป็นพรรคที่เสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง แก้ปัญหาให้ประชาชน เอาประชาชนเป็นหลัก ซึ่งคือหัวใจของประชาธิปไตย และย้ำว่าพรรคพท.จะมีการเปิดแคนดิเดตนายกฯ เมื่อได้วันเลือกตั้งที่ส.ส. แต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่แน่ ขอให้ประชาชนรอลุ้นต่อไป
ส่วนจะเป็นชื่อ น.ส.
แพทองธาร เลยหรือไม่ เนื่องจากผลโพลและประชาชนก็ต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า กราบขอบพระคุณที่ผลโพลออกมาดี ซึ่งตนดีใจมาก และการทำงานทุกอย่างทั้งการลงพื้นที่ ตนมีพรรค พท. ให้การสนัลสนุน แต่เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้นต้องขอให้รอดูกันอีกที เนื่องจากผลโพลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เราจะเดินหน้าหาเสียงตามจุดมุ่งหมาย ในการเสนอนโยบายให้ประชาชนรู้ว่าเราตั้งใจทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ส่วนที่ทุกคนอยากเห็นความชัดเจนในส่วนนี้นั้น ส่วนตัวตนมีความชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ นั้นยังไม่มีความขัดเจนจริงๆ จึงขอให้รอดูวันที่มีความชัดเจน
ถามต่อว่า ขณะนี้พร้อมที่จะเป็นตังเลือกให้ประชาชนแล้วหรือไม่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะไปเจอประชาชน พร้อมที่จะรับฟังปัญหา และพร้อมที่จะปรึกษากับพรรค พท.ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นขอยังไม่ตอบตอนนี้
เมื่อถามว่า จากนี้จะต้องมีการลงพื้นที่จะต้องใช้แรงเยอะขึ้น จะต้องใช้ใจบันดาลแรงมากขึ้นหรือไม่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า อะไรที่เรามีใจอยู่แล้วไม่ต้องทำมาก
ขณะที่นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการตั้งเป้าจำนวน ส.ส.เชียงใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า จ.เชียงใหม่มีทั้งหมด 11 เขต เราตั้งเป้าและปักธง และมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั้ง 11 เขต โดยเฉพาะเขต 8 ที่เราสูญเสียไปเนื่องจากการเลือกตั้งซ่อม และขณะนี้ในพื้นที่ก็มีการบอกกับเราว่าจะสนับสนุนเรา
ครอบครัวเพื่อไทย ยกพลบุกเชียงใหม่ อิ๊งค์ อ้อนขอแลนด์สไลด์ เลือกทั้งคนทั้งพรรค
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7256535
ครอบครัวเพื่อไทย ยกพลบุกเชียงใหม่ อิ๊งค์ อ้อนขอแลนด์สไลด์ เลือกทั้งคน เลือกทั้งพรรค ลั่นเป็นรัฐบาล พร้อมดูแลชาวเกษตรกรให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ย. 2565 แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นาง
พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นพ.
พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบาย น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยส.ส.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อพบปะตัวแทนเกษตรกรภาคเหนือ
เริ่มที่สหกรณ์การเกษตร อ.สันป่าตอง โดยได้พูคุยกับชาวสวนลำไย เกษตรกรผู้ปลูกหอมใหญ่ เพื่อรับฟังปัญหาและนำไปจัดทำเป็นนโยบาย โดยปัญหาส่วนใหญ่พบว่าสินค้าเกษตรราคาผลผลิตตกต่ำ ถูกจำกัดการส่งออก จึงขอให้เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ลำไย รวมถึงนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาผลักดันสินค้าการเกษตร นอกจากนี้ยังขอให้พรรค พท.ช่วยสะท้อนไปยังรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกรด้วย
นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับฟังจากเกษตรกรในวันนี้ พรรคพร้อมนำไปจัดทำนโยบายทันที ขณะนี้กำลังยกร่าง พ.ร.บ.ลำไย และจะเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต้องผ่านกลไกของสภา สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลอยู่ครบเทอมในเดือนมี.ค.66 คาดว่าจะเลือกตั้งประมาณเดือนพ.ค.66 โดยพรรคเพื่อไทยมั่นใจจะได้แลนด์สไลด์แน่นอน แต่ล่าสุดได้ยินว่า หลังประชุมเอเปกในเดือนพ.ย.นี้เสร็จสิ้น จะมีการยุบสภา ทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้น
ด้าน น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า ทุกพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน แต่รัฐบาลต้องดูแลใส่ใจประชาชน พรรคเห็นใจเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างมาก วันนี้ปัญหาหลักคือ รัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือและให้การดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เราให้ความสนใจในการพัฒนาภาคเหนือมาตลอด ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล เราจะดูแลเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างดี เพราะคือจิตวิญญาณของพวกเราที่มีมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่พรรคก็ตาม
น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า หลังได้มาร่วมฟังปัญหา จึงได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะเป็นคำตอบในการนำไปใช้ได้จริง ขอย้ำว่าเราจะดูแลชาวเกษตรกรให้ดีที่สุด ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ขอให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยขอแลนด์สไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้เรามาแก้ไขปัญหาให้ทุกคน
จากนั้นคณะครอบครัวเพื่อไทย ได้เดินทางมายังบ.ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เพื่อเยี่ยมชมกระบวน แปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับข้าวโพด
อึ้ง! ประชุม กรธ.มีแค่บันทึก-ไม่มีรายงานถอดทุกคำพูด เหตุ 'มีชัย' สั่งไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3553036
เผย สนง.เลขาธิการสภาฯมีแค่บันทึกประชุม กรธ.ช่วงทำความมุ่งหมายของ รธน.60 ไม่มีรายงานชวเลขถอดทุกคำพูด เหตุ “มีชัย” สั่งไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 วันที่ 11 ก.ย. 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย. 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13 ก.ย. นั้น มีรายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุม กรธ. แจ้งว่า การประชุมของ กรธ. ในช่วงที่ทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ทำรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วเสร็จนั้น พบว่ามีเพียงการทำบันทึกการประชุมเท่านั้น ไม่มีรายงานการประชุมที่ใช้เจ้าหน้าที่ชวเลขดำเนินการบันทึกจดคำพูดทุกตัวอักษร เนื่องจากนาย
มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ระบุว่าไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 ซึ่งนาย
มีชัย ระบุในคำชี้แจงที่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน และสรุปตามความเข้าใจของผู้จด อีกทั้ง กรธ. ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 มีคำยืนยันว่าผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการ ที่มีนาย
อภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต กรธ. ในฐานะประธานอนุกรรมการ ซึ่งคณะดังกล่าวมีนาย
สุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธาน กรธ. คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย
“หากบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 ทำไม่ถูกต้องตามที่นายมีชัยระบุในคำชี้แจงที่ให้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายสุพจน์ที่ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม ต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนที่จะนำเสนอให้ที่ประชุม กรธ. พิจารณาแล้ว เนื่องจากในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 นั้นมีการจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของนายสุพจน์ไว้คู่กับนายมีชัยด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับบันทึกการประชุมนั้นเป็นเอกสารที่เผยแพร่ได้ ในห้องสมุดรัฐสภา และอดีต กรธ.ทุกคน จะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละหนึ่งฉบับ” รายงานข่าวระบุ
JJNY : 'อุ๊งอิ๊ง'ปลื้มโพลเชียร์ขึ้นนายกฯ│ครอบครัวเพื่อไทยบุกเชียงใหม่│อึ้ง!ประชุมกรธ.มีแค่บันทึก│เอกชนแนะรัฐเร่งการวิจัย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3553097
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 กันยายน ที่จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ว่า อาจจะมีเซอร์ไพรส์ขอให้ประชาชนติดตาม ทั้งนี้เราทำงานอย่างหนักเพื่อคิดแต่ละนโยบายขึ้นมาในการนำปัญหาของประชาชนมาแก้ไข ซึ่งเราจะเริ่มทยอยเปิดนโยบายในช่วงการหาเสียง
เมื่อถามว่า กลุ่มเกษตรกร กลุ่มคนฐานรากถือเป็นเป้าหมายที่หวังจะได้คะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เกษตรกรเป็นแรงสำคัญ เป็นแรงหลัก ซึ่งเราไม่ได้มองแค่การหาเสียงหรือการชนะเลือกตั้ง แต่ปากท้องของประชาชนต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกร หากในส่วนนี้แข็งแรงก็จะสะท้อนภาพใหญ่ของประเทศได้
เมื่อถามว่า พรรค พท.จะมีการเดินหน้าสานต่อนโยบายจำนำข้าวหรือไม่ น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการทบทวนรายละเอียด และต้องทำให้ดี แต่แน่นอนว่า มีกระบวนการที่มีปัญหาหรือมีอะไรบางอย่าง ซึ่งจะต้องนำมาแก้ไขเพื่อตอบสนองประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้อย่างที่เคยพูดนโนบายจำนำข้าว เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และจุดมุ่งหมายของพรรคพท. คืออยากให้เกษตรกร ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้น นโยบายจำนำข้าวในเรื่องคอนเซปต์ยังเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า ขณะนี้หลายพรรคเริ่มมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. จะมีความชัดเจนได้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากกระแสเริ่มมีมากขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อน และพรรค พท.จะมีความชัดเจนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีฟ้าลิขิตให้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนในพรรค และต้องดูเรื่องความเหมาะสม ซึ่งจะต้องดูเมื่อการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทั้งนี้ประเทศต้องไปต่อ ไม่ใช่จะมาดูว่าใครจะเป็นผู้นำ แต่จะต้องเป็นพรรคที่เสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง แก้ปัญหาให้ประชาชน เอาประชาชนเป็นหลัก ซึ่งคือหัวใจของประชาธิปไตย และย้ำว่าพรรคพท.จะมีการเปิดแคนดิเดตนายกฯ เมื่อได้วันเลือกตั้งที่ส.ส. แต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่แน่ ขอให้ประชาชนรอลุ้นต่อไป
ส่วนจะเป็นชื่อ น.ส.แพทองธาร เลยหรือไม่ เนื่องจากผลโพลและประชาชนก็ต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กราบขอบพระคุณที่ผลโพลออกมาดี ซึ่งตนดีใจมาก และการทำงานทุกอย่างทั้งการลงพื้นที่ ตนมีพรรค พท. ให้การสนัลสนุน แต่เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้นต้องขอให้รอดูกันอีกที เนื่องจากผลโพลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เราจะเดินหน้าหาเสียงตามจุดมุ่งหมาย ในการเสนอนโยบายให้ประชาชนรู้ว่าเราตั้งใจทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ส่วนที่ทุกคนอยากเห็นความชัดเจนในส่วนนี้นั้น ส่วนตัวตนมีความชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ นั้นยังไม่มีความขัดเจนจริงๆ จึงขอให้รอดูวันที่มีความชัดเจน
ถามต่อว่า ขณะนี้พร้อมที่จะเป็นตังเลือกให้ประชาชนแล้วหรือไม่ น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะไปเจอประชาชน พร้อมที่จะรับฟังปัญหา และพร้อมที่จะปรึกษากับพรรค พท.ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นขอยังไม่ตอบตอนนี้
เมื่อถามว่า จากนี้จะต้องมีการลงพื้นที่จะต้องใช้แรงเยอะขึ้น จะต้องใช้ใจบันดาลแรงมากขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อะไรที่เรามีใจอยู่แล้วไม่ต้องทำมาก
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการตั้งเป้าจำนวน ส.ส.เชียงใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า จ.เชียงใหม่มีทั้งหมด 11 เขต เราตั้งเป้าและปักธง และมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั้ง 11 เขต โดยเฉพาะเขต 8 ที่เราสูญเสียไปเนื่องจากการเลือกตั้งซ่อม และขณะนี้ในพื้นที่ก็มีการบอกกับเราว่าจะสนับสนุนเรา
ครอบครัวเพื่อไทย ยกพลบุกเชียงใหม่ อิ๊งค์ อ้อนขอแลนด์สไลด์ เลือกทั้งคนทั้งพรรค
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7256535
ครอบครัวเพื่อไทย ยกพลบุกเชียงใหม่ อิ๊งค์ อ้อนขอแลนด์สไลด์ เลือกทั้งคน เลือกทั้งพรรค ลั่นเป็นรัฐบาล พร้อมดูแลชาวเกษตรกรให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ย. 2565 แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยส.ส.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อพบปะตัวแทนเกษตรกรภาคเหนือ
เริ่มที่สหกรณ์การเกษตร อ.สันป่าตอง โดยได้พูคุยกับชาวสวนลำไย เกษตรกรผู้ปลูกหอมใหญ่ เพื่อรับฟังปัญหาและนำไปจัดทำเป็นนโยบาย โดยปัญหาส่วนใหญ่พบว่าสินค้าเกษตรราคาผลผลิตตกต่ำ ถูกจำกัดการส่งออก จึงขอให้เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ลำไย รวมถึงนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาผลักดันสินค้าการเกษตร นอกจากนี้ยังขอให้พรรค พท.ช่วยสะท้อนไปยังรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกรด้วย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับฟังจากเกษตรกรในวันนี้ พรรคพร้อมนำไปจัดทำนโยบายทันที ขณะนี้กำลังยกร่าง พ.ร.บ.ลำไย และจะเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต้องผ่านกลไกของสภา สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลอยู่ครบเทอมในเดือนมี.ค.66 คาดว่าจะเลือกตั้งประมาณเดือนพ.ค.66 โดยพรรคเพื่อไทยมั่นใจจะได้แลนด์สไลด์แน่นอน แต่ล่าสุดได้ยินว่า หลังประชุมเอเปกในเดือนพ.ย.นี้เสร็จสิ้น จะมีการยุบสภา ทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้น
ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน แต่รัฐบาลต้องดูแลใส่ใจประชาชน พรรคเห็นใจเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างมาก วันนี้ปัญหาหลักคือ รัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือและให้การดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เราให้ความสนใจในการพัฒนาภาคเหนือมาตลอด ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล เราจะดูแลเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างดี เพราะคือจิตวิญญาณของพวกเราที่มีมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่พรรคก็ตาม
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หลังได้มาร่วมฟังปัญหา จึงได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะเป็นคำตอบในการนำไปใช้ได้จริง ขอย้ำว่าเราจะดูแลชาวเกษตรกรให้ดีที่สุด ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ขอให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยขอแลนด์สไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้เรามาแก้ไขปัญหาให้ทุกคน
จากนั้นคณะครอบครัวเพื่อไทย ได้เดินทางมายังบ.ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เพื่อเยี่ยมชมกระบวน แปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับข้าวโพด
อึ้ง! ประชุม กรธ.มีแค่บันทึก-ไม่มีรายงานถอดทุกคำพูด เหตุ 'มีชัย' สั่งไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3553036
เผย สนง.เลขาธิการสภาฯมีแค่บันทึกประชุม กรธ.ช่วงทำความมุ่งหมายของ รธน.60 ไม่มีรายงานชวเลขถอดทุกคำพูด เหตุ “มีชัย” สั่งไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 วันที่ 11 ก.ย. 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย. 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13 ก.ย. นั้น มีรายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุม กรธ. แจ้งว่า การประชุมของ กรธ. ในช่วงที่ทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ทำรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วเสร็จนั้น พบว่ามีเพียงการทำบันทึกการประชุมเท่านั้น ไม่มีรายงานการประชุมที่ใช้เจ้าหน้าที่ชวเลขดำเนินการบันทึกจดคำพูดทุกตัวอักษร เนื่องจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ระบุว่าไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 ซึ่งนายมีชัย ระบุในคำชี้แจงที่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน และสรุปตามความเข้าใจของผู้จด อีกทั้ง กรธ. ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 มีคำยืนยันว่าผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการ ที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต กรธ. ในฐานะประธานอนุกรรมการ ซึ่งคณะดังกล่าวมีนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธาน กรธ. คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย
“หากบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 ทำไม่ถูกต้องตามที่นายมีชัยระบุในคำชี้แจงที่ให้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายสุพจน์ที่ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม ต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนที่จะนำเสนอให้ที่ประชุม กรธ. พิจารณาแล้ว เนื่องจากในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 นั้นมีการจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของนายสุพจน์ไว้คู่กับนายมีชัยด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับบันทึกการประชุมนั้นเป็นเอกสารที่เผยแพร่ได้ ในห้องสมุดรัฐสภา และอดีต กรธ.ทุกคน จะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละหนึ่งฉบับ” รายงานข่าวระบุ