สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ชายวัยกำลังสร้างตัว ปัจจุบันอายุ 34 ปี
เดิมทีครอบครัวอยู่ในฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน สมาชิกในครอบครัวมี 3 คน คือ พ่อ แม่ และผม บ้านเดิมของเราเป็นบ้านมุงสังกะสี ไม่มีผนังถาวร แต่ก็มีความมิดชิดและปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราสามคนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีกิน มีใช้ ไม่ขัดสน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ในช่วงเวลาที่ผมจะต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพ ต้องมาอยู่คนเดียว ทำให้หลายครั้งต้องอดบ้าง อิ่มบ้าง เพราะภาระจากการศึกษาเล่าเรียนมันหนักเกินกว่าที่พ่อและแม่จะช่วยได้เต็มที่ ผมจึงต้องหางานทำในขณะที่เรียน ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเรียนจบผมก็ได้ทำงานทันที และต่อมาผมก็ได้รับราชการ หลังจากที่รับราชการคุณภาพชีวิตของเราทั้งสามคนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พ่อกับแม่ สะดวกสบายมากขึ้นและผมเริ่มได้ใช้ชีวิตตามแบบที่ผมต้องการได้บ้างแล้ว และเมื่อเวลาผ่านพ้นไปอายุราชการเริ่มมากขึ้น เงินเดือนมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตนั่นคือการสร้างบ้านของเรา ผมอยากให้พ่อกับแม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และผมก็ซื้อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเค้าทั้งสองคนด้วย ตอนนี้เราทั้งสามคนมีความสุขในแบบของเรา จากนิสัยเดิมที่เคยอยู่ง่าย กินง่าย เมื่อทุกอย่างดีขึ้น พวกเราก็ยังคงคุ้นเคยกับวิถีชีวิตแบบเดิมๆของพวกเรา
แต่เนื่องจากการที่ผมเริ่มต้นชีวิตการทำงานมาจากศูนย์ การใช้จ่ายต่างๆทั้งส่วนตัว ครอบครัว และภาระหนี้สิน มันทำให้ผม "ไม่มีเงินเก็บ" และนี่ก็คือปัญหาของผมสำหรับการมีคู่ครอง หรือการสร้างครอบครัวใหม่
ผมเคยมีแฟนซึ่งคบกันมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย พื้นฐานครอบครัวและฐานะของเราค่อนข้างแตกต่างกัน เมื่อคบกันมาสักระยะหนึ่งเราก็เริ่มคุยกันเรื่องการสร้างครอบครัวใหม่ และสุดท้ายปัญหาของผมก็กลับกลายมาเป็นปัญหาของเราคือ "ผมไม่มีเงินเก็บ" และอีกหลายๆปัญหาก็เข้ามารุมเร้าจนในที่สุดเราต้องเลิกคบกัน
จากนั้นผมก็ได้คบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ก่อนคบกันผมได้พูดกับเธอไปตรงๆว่า ผมไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวกับหนี้สิน ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอไม่สนใจเรื่องเงินทองหรอก เธออยากอยู่กับผมจริงๆ แล้วเราก็คบกัน ผมจริงจังมากจนถึงขั้นไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอ ซึ่งทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงสถานะที่เคยเจอมา คือฐานะของเราค่อนข้างแตกต่างกัน
แม้ว่าแฟนผมจะไม่สนใจเรื่องเงินทองก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้อยู่คนเดียว เธอยังมีพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ที่หน้าตาและฐานะทางสังคมอยู่ในระดับที่ดี มันจึงทำให้เราต้องกลับมานั่งคุยกันเรื่องเงินกันอย่างจริงจัง และได้ข้อสรุปว่าเราคงต้องเก็บเงินรอไปก่อน ซึ่งนั่นมันก็คือปัญหาเดิมของผมเอง คือมันไม่รู้จะเอาที่ไหนมาเก็บ
ตอนนี้ผมค่อนข้างหนักใจเรื่องการที่จะมีชีวิตคู่หรือมีครอบครัวใหม่ ได้แต่ถามว่าทำไมคนที่เขาไม่มีทรัพย์สินเงินทองเขาไม่สามารถจะมีใครสักคนได้หรือ ผมเป็นกังวลใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากเขาขอสินสอดทองหมั้นขึ้นมาจะไปเอาที่ไหนให้เขา หรือเราจะคบกันไปแบบนี้แล้วรอให้ถึงวันสุดท้ายของความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนเหมือนที่ผมเคยผ่านมา
ปล.ผมบ่น ระบาย เฉยๆครับ แต่ก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป ขอบคุณครับ
เรื่องหนักใจของผู้ชายวัยสร้างตัว
เดิมทีครอบครัวอยู่ในฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน สมาชิกในครอบครัวมี 3 คน คือ พ่อ แม่ และผม บ้านเดิมของเราเป็นบ้านมุงสังกะสี ไม่มีผนังถาวร แต่ก็มีความมิดชิดและปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราสามคนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีกิน มีใช้ ไม่ขัดสน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ในช่วงเวลาที่ผมจะต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพ ต้องมาอยู่คนเดียว ทำให้หลายครั้งต้องอดบ้าง อิ่มบ้าง เพราะภาระจากการศึกษาเล่าเรียนมันหนักเกินกว่าที่พ่อและแม่จะช่วยได้เต็มที่ ผมจึงต้องหางานทำในขณะที่เรียน ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเรียนจบผมก็ได้ทำงานทันที และต่อมาผมก็ได้รับราชการ หลังจากที่รับราชการคุณภาพชีวิตของเราทั้งสามคนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พ่อกับแม่ สะดวกสบายมากขึ้นและผมเริ่มได้ใช้ชีวิตตามแบบที่ผมต้องการได้บ้างแล้ว และเมื่อเวลาผ่านพ้นไปอายุราชการเริ่มมากขึ้น เงินเดือนมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตนั่นคือการสร้างบ้านของเรา ผมอยากให้พ่อกับแม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และผมก็ซื้อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเค้าทั้งสองคนด้วย ตอนนี้เราทั้งสามคนมีความสุขในแบบของเรา จากนิสัยเดิมที่เคยอยู่ง่าย กินง่าย เมื่อทุกอย่างดีขึ้น พวกเราก็ยังคงคุ้นเคยกับวิถีชีวิตแบบเดิมๆของพวกเรา
แต่เนื่องจากการที่ผมเริ่มต้นชีวิตการทำงานมาจากศูนย์ การใช้จ่ายต่างๆทั้งส่วนตัว ครอบครัว และภาระหนี้สิน มันทำให้ผม "ไม่มีเงินเก็บ" และนี่ก็คือปัญหาของผมสำหรับการมีคู่ครอง หรือการสร้างครอบครัวใหม่
ผมเคยมีแฟนซึ่งคบกันมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย พื้นฐานครอบครัวและฐานะของเราค่อนข้างแตกต่างกัน เมื่อคบกันมาสักระยะหนึ่งเราก็เริ่มคุยกันเรื่องการสร้างครอบครัวใหม่ และสุดท้ายปัญหาของผมก็กลับกลายมาเป็นปัญหาของเราคือ "ผมไม่มีเงินเก็บ" และอีกหลายๆปัญหาก็เข้ามารุมเร้าจนในที่สุดเราต้องเลิกคบกัน
จากนั้นผมก็ได้คบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ก่อนคบกันผมได้พูดกับเธอไปตรงๆว่า ผมไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวกับหนี้สิน ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอไม่สนใจเรื่องเงินทองหรอก เธออยากอยู่กับผมจริงๆ แล้วเราก็คบกัน ผมจริงจังมากจนถึงขั้นไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอ ซึ่งทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงสถานะที่เคยเจอมา คือฐานะของเราค่อนข้างแตกต่างกัน
แม้ว่าแฟนผมจะไม่สนใจเรื่องเงินทองก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้อยู่คนเดียว เธอยังมีพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ที่หน้าตาและฐานะทางสังคมอยู่ในระดับที่ดี มันจึงทำให้เราต้องกลับมานั่งคุยกันเรื่องเงินกันอย่างจริงจัง และได้ข้อสรุปว่าเราคงต้องเก็บเงินรอไปก่อน ซึ่งนั่นมันก็คือปัญหาเดิมของผมเอง คือมันไม่รู้จะเอาที่ไหนมาเก็บ
ตอนนี้ผมค่อนข้างหนักใจเรื่องการที่จะมีชีวิตคู่หรือมีครอบครัวใหม่ ได้แต่ถามว่าทำไมคนที่เขาไม่มีทรัพย์สินเงินทองเขาไม่สามารถจะมีใครสักคนได้หรือ ผมเป็นกังวลใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากเขาขอสินสอดทองหมั้นขึ้นมาจะไปเอาที่ไหนให้เขา หรือเราจะคบกันไปแบบนี้แล้วรอให้ถึงวันสุดท้ายของความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนเหมือนที่ผมเคยผ่านมา
ปล.ผมบ่น ระบาย เฉยๆครับ แต่ก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป ขอบคุณครับ