🇹🇭💕มาลาริน💕🇹🇭:)งถอด 15 บทเรียน จาก "โควิด-19" ระบาดในระยะเวลา 3 ปี/รัฐบาลสั่งบรรจุนักรบโควิดเป็นขรก.ประจำ

ยิ้มงถอด 15 บทเรียน จาก "โควิด-19" ระบาดในระยะเวลา 3 ปี

ยิ้มงอธิบาย 15 บทเรียนที่ได้จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ประเทศไทยต้องเผชิญมาตลอดในระยะเวลา 3 ปี
   
วันที่ 4 ต.ค. 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่อง โควิด-19 ถอดบทเรียนโควิด-19 ในระยะเวลารวม 3 ปี 

เมื่อเกิดโรคอุบัติใหม่ขึ้น ที่มีผลต่อสุขภาพ ร่างกายและชีวิต โดยเฉพาะเกี่ยวกับไวรัส และยังไม่มียา วัคซีนที่ใช้ในการรักษาและป้องกัน ในระยะแรกก็มีการตื่นตระหนก และเกิดความกลัว เป็นเรื่องธรรมดาเพราะความไม่รู้

หลักการระบาดของโรคไวรัส โรคยิ่งรุนแรง การระบาดจะอยู่วงแคบเช่น Ebola จะไม่กระจายไปทั่วโลก ที่ไม่รุนแรง หรือรุ่นแรงน้อยกว่าจะสามารถระบาด ไปได้ไกลกว่า เช่นไข้หวัดใหญ่ โรค SARS รุนแรงกว่า Covid-19 มาก มีอัตราตายสูง ถึง 10% ถึงระบาดไปเกือบ 20 ประเทศก็สามารถควบคุมได้ เพราะผู้ป่วยที่เป็นจะมีอาการหนักโอกาสแพร่กระจายไปให้ผู้อื่นได้น้อยกว่า

โควิด-19 ในระยะแรกเหมือนมีอาการมาก แต่เมื่อระบาดออกมากระจายวงกว้าง ตามหลักของวิวัฒนาการของไวรัส จะต้องปรับตัว ให้อยู่ด้วยกันได้เจ้าถิ่นหรือเจ้าบ้าน เช่นเดียวกันทุกวันนี้โควิด-19 พยายามปรับตัวไม่หายไปไหน และจะอยู่กับเราตลอด โดยลดการทำลายเจ้าบ้านลดลง ขณะนี้จึงคล้ายกับไข้หวัดใหญ่

ในระยะแรกเมื่อไม่รู้อะไรเลย ทุกคนต้องสร้างความรู้ ด้วยการศึกษาวิจัยให้เร็วที่สุด ไม่ใช่ใช้ความเชื่อ และงานวิจัยที่เหมาะสมกับบ้านเราเท่านั้นที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด
การป้องกันการแพร่กระจายของโรค ในประเทศไทย ทำได้ดีกว่าตะวันตกมาก ไม่ว่าจะเป็นสุขอนามัยล้างมือ การกำหนดระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย นับว่าลดการแพร่กระจายในระยะแรกได้เป็นอย่างมาก

ทุกคนเรียกร้องวัคซีน คิดว่าวัคซีนจะเป็นทางในการยุติ มีการจองวัคซีนที่ต้องจ่ายเงินก่อนโดยที่ยังไม่เห็นของ ถ้าของนั้นดีหลายอย่าง และจะต้องเสียเงินถึงแม้ว่าจะไม่ได้ของ โชคดีที่ประเทศไทยไม่ได้จับจองแบบนั้น ถ้าเช่นนั้นเราจะต้องสูญเสียเงินอีกมาก

วัคซีนทุกตัวที่พัฒนาขึ้นมาและมีการใช้โดยองค์การอนามัยโลกรับรอง ได้ผลไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย หรือ Virus Vector หรือ mRNA มีการฉีดวัคซีนเชื้อตายทั่วโลกไปเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ในขณะที่ประเทศที่ฉีด mRNA วัคซีน เช่นประเทศอเมริกาและตะวันตก กลับพบว่า มีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าเสียอีก แสดงให้เห็นว่าการป้องกันโรคไม่ได้อยู่ที่วัคซีน

ในระยะแรกที่วัคซีนขาดแคลน การฉีดวัคซีนสูตรสลับ หรือสูตรไขว้ เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้กันมาแต่ในอดีตไม่ว่าวัคซีนในเด็ก เราจึงฉีดต่างบริษัทกันเสมอ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนในที่สุดก็เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ว่าการให้วัคซีนเชื้อตายปูพื้น แล้วกระตุ้นด้วยวัคซีนต่างชนิด ผลลัพธ์ที่ได้ภูมิต้านทานจะเป็นลูกผสม และมีประโยชน์ในการป้องกันได้เป็นอย่างดี งานศึกษาวิจัยที่ออกจากประเทศไทยสูตรไขว้เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก และองค์การอนามัยโลกก็ไปเขียนเป็นคำแนะนำ

ประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มของวัคซีน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน การให้วัคซีนครบ หมายถึงต้องให้อย่างน้อย 3 ครั้ง และในกลุ่มเสี่ยงจะต้องได้อย่างน้อย 4 ครั้งจึงจะเรียกว่าได้รับวัคซีนครบ

ถึงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนกี่เข็มก็ตาม ก็ยังสามารถติดโรคได้ แต่ความรุนแรงลดลง จนในที่สุดทุกคนก็ยอมรับความจริง และจนปัจจุบันนี้เข้าใจว่าประชากรไทยมีการติดเชื้อไปแล้วถึงร้อยละ 70 ร่วมกับการฉีดวัคซีนอีก ทำให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานที่เกิดเป็นแบบลูกผสม ที่ถือว่าเป็นภูมิต้านทานที่ดีที่สุด ที่จะลดความรุนแรงของการติดเชื้อในครั้งต่อๆ

เราลงทุนกับการสั่งซื้อวัคซีนมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ เชื่อว่ามีวัคซีนที่เหลือและกำลังจะหมดอายุ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเงินงบประมาณภาษีของเราทั้งสิ้น เราอยากให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็มหรือ 4 เข็มในกลุ่มเสี่ยง ตามเป้าหมายก็ยังไม่ได้แต่วัคซีนก็เหลือเป็นจำนวนมาก

การว่ากล่าวให้ร้าย bully ในสังคมไทย เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ นักวิชาการจำนวนมากเกรงกลัวและไม่กล้าที่จะพูด ซึ่งเป็นผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ การกล่าวหาในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง หรือไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เราต้องแยกข่าวจริงและข่าวปลอมออกให้ได้ และไม่ควรแชร์ข่าวปลอมออกไปเด็ดขาด

การให้ข้อมูลของประเทศไทย จากนักวิชาการต่างๆ ส่วนมาก จะอ่านมา และจับบางประเด็นที่ตัวเองสนใจมาเผยแพร่ให้เป็นข่าว ทั้งที่ความจริงไม่ได้เกิดจากการศึกษาวิจัยของตัวเอง รวมทั้งก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้น มาให้ข้อมูลทำให้เกิดความสับสนต่อประชาชนเป็นอย่างมาก
ประเทศไทยควรให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัยในโรคอุบัติใหม่ ยกตัวอย่างเช่นโควิด-19 เราลงทุนเป็นแสนล้าน ในบางอย่างถ้าเราใช้เงินเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เพื่อมาทำงานวิจัยตอบคำถามให้ชัดเจนว่าสมควรใช้หรือไม่ จะได้ประโยชน์กว่าอย่างมากและเป็นการประหยัดเงิน โดยเฉพาะเรื่องของยารักษาโรคอุบัติใหม่

การพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย ขีดความสามารถหานักวิจัยอยู่ในวงจำกัด และมีปริมาณน้อยมาก ควรร่วมมือกัน ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง มากกว่าที่ต่างคนต่างๆ เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินทอง ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเครื่องมือ แต่เรายังต้องปรับปรุงมาตรฐาน โดยเฉพาะทางห้องปฏิบัติการ เช่นการตรวจภูมิต้านทาน ต้องได้มาตรฐาน GLP การศึกษาทางคลินิกประเทศไทยมีความสามารถอยู่แล้วในการศึกษาวิจัยอย่าให้ต่างประเทศ แต่ในระดับโรงงาน และห้องปฏิบัติการยังต้องปรับปรุงมาตรฐานขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถผลิตและจำหน่ายออกไปต่างประเทศได้เลย ประชาคมวิจัยมีจำกัด ควรหันหน้าเข้าหากัน พิจารณาเลือกทำตัวใดตัวหนึ่งมากกว่าที่จะต่างคนต่างทำ

เราผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ในการลดการแพร่กระจายของโรคในระยะแรกที่เรายังไม่รู้อะไรเลย และเราเชื่อว่า ต่อไปนี้เราจะอยู่กับโรค Covid-19 ได้เช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้ก็ไม่ได้หายไปไหน เรามีวัคซีนในการลดความรุนแรง ของโรค เรามียาดีขึ้นในการที่จะใช้ในการรักษา ชีวิตจะต้องเดินหน้าต่อไป และสิ่งที่ต้องการอย่างยิ่งก็คือว่าให้สังคมไทย เป็นสังคมที่อุดมปัญญา มากกว่าที่จะมากล่าวให้ร้ายแก่กัน.

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก yong.poovorawan

https://www.thairath.co.th/news/society/2517256

อานิสงส์ “โควิด-19” มท.1 ลงนาม “เหตุพิเศษ” สั่งบรรจุย้อนหลัง “ไม่ต้องสอบ” นักรบโควิดท้องถิ่นเป็น ขรก.ประจำ
 


อานิสงส์ “โควิด-19” มท.1 ลงนาม “เหตุพิเศษ” สั่งบรรจุย้อนหลัง บุคลากรท้องถิ่น “นักรบโควิด” บรรดาลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง เน้นโตๆ “ไม่ต้องสอบ” แค่ส่งรายชื่อให้กรรมการคัดเลือก บรรจุเข้าเป็นข้าราชการ สังกัด อปท.ทั่วประเทศ เป็นกรณีพิเศษ

วันนี้ (3 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงมหาดไทย เผยแพร่ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษ ที่ไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขัน

กรณีบรรจุบุคลากรในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ พ.ศ. 2565

เป็นไปตามมติคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.) คณะกรรมการกลางพนักงาน เทศบาล (ก.ท.) และคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ประกาศฉบับนี้ ลงนามโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธานกรรมการกลางพนักงานเทศบาล และประธานกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล

“เพื่อให้การบริหารงานบุคคลของ อปท.บังเกิดผลดี จึงขอให้ ก.จ.จ. ก.ท.จ. ก.อบต.จังหวัด และ ก.เมืองพัทยา ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้”

ทั้งนี้ อบจ. เทศบาล และ อบต. จะเป็นผู้ดำเนินการออกประกาศ คัดเลือก และให้ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามประกาศนี้ ต้องอยู่ปฏิบัติราชการใน อปท.ที่บรรจุและแต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี จึงโอนไป อปท.อื่น หรือส่วนราชการอื่นได้

และตำแหน่ง ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุงที่ถูกรับสมัครจะ “ยุบเลิก” ไปทันที
มีหลักเกณฑ์ว่า จะต้องเป็นบุคลากรสาธารณสุข ในสังกัด อปท.แห่งนั้นที่ปฏิบัติงาน ก่อนวันที่ 15 มีนาคม 2563
“คณะกรรมการ จาก 3 อปท. จำนวน 6 คน ที่ได้รับการแต่งตั้ง มี “นายก อปท.” เป็นประธาน รวมถึง ปลัด อปท. มีผู้แทนหน่วยงานรัฐส่วนกลาง/ภูมิภาค และผู้มีความรู้ความสามารถ ในตำแหน่งนั้นๆ”

เมื่อต้นเดือน มิ.ย. 2565 กลุ่มชมรมเครือข่ายลูกจ้างด้านสาธารณสุข สังกัด อปท. ที่ได้รับความเหลื่อมล้ำ เข้ายื่นหนังสือคณะ กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร
เพื่อช่วยผลักดันให้มีงบประมาณดำเนินการบรรจุกรณีที่มีเหตุพิเศษ จำนวน 1,400 อัตรา

หลังจาก พบว่า มติคณะรัฐมนตรี (15 เม.ย. 63) มีมติเยียวยาบรรจุลูกจ้าง โควิด-19 จำนวน 38,105 อัตรา ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นกรณีพิเศษ ที่มีเหตุพิเศษเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งโดยไม่ต้องดำเนินการสอบแข่งขัน

“แต่สำหรับลูกจ้างที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขสังกัดอ อปท.ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์เดียวกัน ยังไม่ได้รับการเยียวยา และได้รับความเหลื่อมล้ำ ขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติติหน้าที่”

จากข้อมูลการการสำรวจรายชื่อบุคลากรด้านสาธารณสุขสังกัด อปท. ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 63 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ยังไม่ได้รับความคืบหน้าในเรื่องการบรรจุบุคลากรท้องถิ่นแต่อย่างใด

https://mgronline.com/politics/detail/9650000094882

ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ....

แม้ไม่มีจำนวนผู้ป่วย แต่ ยังมีเรื่องที่เราต้องทราบกันอยู่นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่