สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มันคนละเรื่อง ปี 1990 นั้นแคว้นประกาศเจตจำนงจะขอแยก
พอสภาอนุมัติ เค้าก็ไม่แยกทันทีเสนอลงประชามติต่อ พอลงประชามติ
มีผู้แทนรัสเซียเข้าไปดูด้วย ไม่ใช่ทำเองคนเดียวซะเมื่อไหร่
และมีการประกาศล่วงหน้าให้ฝ่ายแยก ไม่แยกไปหาเสียง
สนับสนุนด้วย ไม่ใช่ประกาศอาทิตย์นี้ แยกอาทิตย์หน้าด้วยนะ
และทั้งหมดทั้งมวล เสนอผ่านสภา และ ประธานาธิบดีโซเวียต/รัสเซีย
เสนอเข้าสภาด้วย เอาว่าทุกฝ่ายเห็นชอบจริง ไม่ใช่ทำฝ่ายเดียวแบบนี้
มันคนละอย่างกันเลยถ้าจะพูดน่ะนะน้อง
พอสภาอนุมัติ เค้าก็ไม่แยกทันทีเสนอลงประชามติต่อ พอลงประชามติ
มีผู้แทนรัสเซียเข้าไปดูด้วย ไม่ใช่ทำเองคนเดียวซะเมื่อไหร่
และมีการประกาศล่วงหน้าให้ฝ่ายแยก ไม่แยกไปหาเสียง
สนับสนุนด้วย ไม่ใช่ประกาศอาทิตย์นี้ แยกอาทิตย์หน้าด้วยนะ
และทั้งหมดทั้งมวล เสนอผ่านสภา และ ประธานาธิบดีโซเวียต/รัสเซีย
เสนอเข้าสภาด้วย เอาว่าทุกฝ่ายเห็นชอบจริง ไม่ใช่ทำฝ่ายเดียวแบบนี้
มันคนละอย่างกันเลยถ้าจะพูดน่ะนะน้อง

ความคิดเห็นที่ 2
แต่ตอนนั้นรัสเซียก็ยอมปล่อยไปนี่ครับ อย่างเบลารุส/คาซัคสถาน นี่ไม่ต้องการแยกแต่เยลซินก็ไม่เอาเพราะไม่มีเงินพอจะดูแล แค่รัสเซียก็ไปไม่รอด ตอนมีการเลือกตั้งระหว่างเยลซินกลับกอร์บอชอฟ กอร์บาชอฟต้องการให้โซเวียตคงอยู่ แต่เยลซินต้องการให้รัสเซียแยกจากโซเวียต ประชาชนชาวรัสเซียตอนนั้นเลือกเยลซิน นั้นแปลว่าประชาชนตอนนั้นไม่เอาโซเวียตแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ยูเครน ก็เคยทำประชามติแยกตัวโซเวียต ฝ่ายเดียว เมื่อปี1990 มาแล้ว จะโวยรัสเซีย ทำไม?
กงเกวียนกำเกวียน
4 ต.ค. 2565 05:44 น.
บทความโดย...อ.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย
ตั้งแต่อาจารย์นิติภูมิธณัฐเข้าอูเครนครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1991 จนถึงปัจจุบัน
แผนที่อูเครนเปลี่ยนไปแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออยู่กับโซเวียต ครั้งที่สองเมื่ออูเครนเป็นประเทศใหม่หลังจากโซเวียตล่ม ครั้งที่สามเมื่อคนในสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียลงประชามติขอแยกตัวออกจากอูเครนเพื่อไปรวมกับรัสเซีย (2014)
และครั้งที่สี่เมื่อคนของแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาปอริซเซีย และเคอร์ซอน ลงประชามติขอแยกตัวออกจากอูเครนไปอยู่กับรัสเซีย (2022)
ถ้าสงครามยังไม่สงบจบลง ก็คงต้องลุ้นว่าแผนที่อูเครนจะเปลี่ยนไปอีกสักกี่ครั้ง
ตอนนี้มีเสียงโวยวายจากทั้งสหรัฐฯและอูเครนเรื่องการลงประชามติและการรับรองฝ่ายเดียวของรัสเซีย
ทว่าขอโทษเถิดครับ เรื่องการรับรอง ‘ฝ่ายเดียว’ นี่อูเครนเคยทำมาก่อนรัฐสภาอูเครนแถลงคงประกาศ Declaration of State Sovereignty of Ukraine
หรือคำประกาศเอกราชเป็นชาติอธิปไตยเมื่อ 16 กรกฎาคม 1990
ทำก่อนที่โซเวียตจะล่มเกิน 1 ปีซะด้วยซ้ำ โดยอูเครนบอกว่าพวกตนยึดหลัก Self-determination (หลักอัตวินิจฉัย)
ในการสถาปนาอูเครนเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่แยกจากสหภาพโซเวียต
24 สิงหาคม 1991 รัฐสภาอูเครนแถลงคำประกาศอีกฉบับหนึ่งซึ่งก็คือ Act of Independence เพื่อเป็นการรับรอง ‘ฝ่ายเดียว’ หรือ Unilateral ถึงสถานะความเป็นประเทศเอกราชของอูเครน
อูเครนประกาศแยกประเทศโดยไม่สนใจหรือรอการตัดสินใจจากสหภาพโซเวียต
พอถึง 1 ธันวาคม 1991 อูเครนจัดให้มีการลงประชามติเพื่อเลือกประธานาธิบดี
(ทั้งที่ตอนนั้นโซเวียตยังไม่ล่มสลาย
แต่อูเครนก็เลือกที่จะมีประธานาธิบดีซ้อน) คนอูเครนมากกว่าร้อยละ 90 ของผู้มาลงคะแนนเสียงเลือกนายลีโอนิด คราฟชุคเป็นประธานาธิบดี
ในบรรดา 15 รัฐที่รวมกันเป็นสหภาพโซเวียต
อูเครนมีความสำคัญมาก มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 รองจากรัสเซีย มีกองทัพใหญ่เป็นอันดับ 2
อูเครนเป็น 1 ใน 4 ของรัฐนิวเคลียร์ (รัสเซีย อูเครน เบลารุส และคาซัคสถาน)
เมื่ออูเครนตัดสินใจไม่แคร์การอยู่รวมกันเป็นประเทศใหญ่ ก็ทำให้สถานภาพของโซเวียตง่อนแง่นและล่มสลายเมื่อปลายเดือนธันวาคม 1991
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2516386