JJNY : เสื้อแดงขอนแก่นรอรับ'ประยุทธ์'│“ปลอดประสพ”แนะ“ชัชชาติ”│หวั่น'โอเปกพลัส'ลดกำลังผลิต│ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัครโอดน้ำท่วม

เสื้อแดงขอนแก่นรอต้อนรับ 'ประยุทธ์' จัดรถไฮด์ปาร์ก ชูป้ายไล่ ลั่นมาหาเสียง ไม่ได้ช่วยแก้น้ำท่วม
https://www.matichon.co.th/region/news_3597913
 
 
เสื้อแดงขอนแก่นจัดรถไฮด์ปาร์ก พร้อมชูป้ายตะโกนขับไล่ ‘บิ๊กตู่’ พ้นตำแหน่ง ลั่น 8 ปีก็เกินทน ด้านตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นนำกำลังตั้งด่านสะกัดไม่ให้เข้าใกล้จุดนายกฯลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
  
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งช่วงเช้ามีกำหนดการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่บึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ทั้งในและนอกเครื่องแบบตั้งด่านตรวจตามทางร่วม ทางแยกต่างๆ ที่จะเข้ามาที่บึงหนองโคตร เพื่อป้องกันม็อบที่จะเดินทางมาขับไล่นายกฯ โดยมีการเรียกตรวจรถยนต์ที่วิ่งผ่านเข้าออกพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมทุกคัน
  
กระทั่งเวลา 09.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น นำโดย นายวรพจน์ สวัสดิ์ถาวร กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมมวลชนประมาณ 10 คน ได้ขับรถยนต์พร้อมเครื่องเสียง และป้ายข้อความมาตะโกนขับไล่นายกฯ ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแถวเป็นแนวกันเอาไว้ ไม่ให้กลุ่มเข้าไปในพื้นที่ที่นายกฯจะเดินทางมา ก่อนที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น จะเข้าชี้แจงทำความเข้าใจและแจ้งข้อกฎหมายให้ทางกลุ่มทราบ
  
นายวรพจน์กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มคือต้องการให้นายกฯออกจากตำแหน่ง เพราะอยู่ไปประชาชนก็เดือดร้อน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องได้ การมาลงพื้นที่น้ำท่วมในวันนี้ก็ไม่ใช่การมาช่วยเหลือประชาชน แต่เป็นการมาหาเสียงในช่วงใกล้เลือกตั้งเท่านั้น
 

 
“ปลอดประสพ”แนะ “ชัชชาติ”ใช้แผ่นปิดปากท่อช่วยระบายน้ำ เชื่อฝนตกอยู่อีกเป็นอาทิตย์
https://www.dailynews.co.th/news/1541345/
 
‘ปลอดประสพ’ แนะ ‘ชัชชาติ’ ใช้แผ่นปิดปากท่อช่วยระบายน้ำ เตือน รัฐบาลเปลี่ยนโหมดการทำงาน เชื่อร่องความกดอากาศจะทรงอยู่อย่างนี้ไปอีกเป็นอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นโชคร้าย เพราะฝนก็จะเยอะและน้ำก็จะท่วมไม่หยุดหย่อน

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า 
 
ภาวะน้ำท่วมตอนนี้ต้องมุ่งที่ลดความเสียหาย 
 
วันอังคารที่ 4 ตุลาคม เวลา 07.30 น. กำลังนั่งมองน้ำในแม่น้ำปิงที่ยังคงไหลเชี่ยว เมื่อวาน (3 ตุลาคม) เย็นถึงกลางคืนดูเหมือนน้ำจะลดไปสัก 30 ซม. แต่เช้านี้มองดูเหมือนน้ำจะเชี่ยวกว่าเดิม จึงสืบหาข้อมูลและได้พบว่าทางต้นน้ำที่เชียงดาวและแม่แตงน้ำกลับเพิ่มขึ้นอีก ก็แปลว่าน้ำที่ท่วมตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ในขณะนี้ นอกจากไม่ลดแล้ว ก็จะเพิ่มอีก ก็ถือเป็นคราวเคราะห์ของชาวเชียงใหม่ ขอแสดงความเสียใจด้วย

นายปลอดประสพ ระบุต่อว่า การแก้น้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นเชียงใหม่แบบนี้ ต้องใช้ระบบปิดล้อม (Polder) เท่านั้น ในสมัยหลังปี 2554 รัฐบาลก็ได้ทำแผนจัดทำเขื่อนแบบนี้ที่เชียงใหม่เช่นกัน แต่เสียดายไม่มีคน (ที่รู้จริง) สานต่อน้ำจึงท่วมเช่นวันนี้ นอกเหนือจากนั้นน้ำที่เข้าเมืองยังมาตามถนนและทางท่อระบายน้ำอีกด้วย ซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นท่อส่งน้ำไปแล้ว วิธีการแก้เรื่องนี้ก็ไม่ยาก คือให้ติดตั้งแผ่นปิด (flab) อัตโนมัติที่ปากท่อริมน้ำ อุปกรณ์มันจะทำงานโดยถ้าน้ำในเมืองสูงก็จะไหลออก แต่หากน้ำในแม่น้ำสูง ความดันของน้ำก็จะปิดแผ่น flab นี้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เครื่องยนต์อะไร ตนเคยใช้ที่บึงบอระเพ็ดมาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง
 
นายปลอดประสพ ระบุด้วยว่า แผ่นปิดปากท่อที่พูดถึงนี้ก็ควรนำมาใช้ที่กรุงเทพมหานครเหมือนกัน เพราะน้ำในคลองหลายแห่งก็ดันผ่านท่อมาท่วมที่หลายพื้นที่ด้วยกัน ขอแนะนำให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลองนำวิธีการอย่างนี้ไปทบทวนใช้ ซึ่งใช้งบประมาณไม่มากเลย อีกเรื่องที่อยากเตือนอีกครั้งก็คือ การออกแบบถนนที่สถานการณ์วันนี้พบว่าเนื่องจากน้ำไม่มีที่ไป ธรรมชาติของน้ำจึงใช้ถนนที่มนุษย์สร้างเป็นคลองไปเสียเลย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทั้งรถยนต์และผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น

“ในยุโรปที่ตั้งบ้านเมืองอยู่เชิงเขา เขาพบว่า น้ำที่วิ่งบนถนนนี้เป็นอันตรายมาก จึงเปลี่ยนการออกแบบถนนให้วกวนมากกว่าเดิม และให้มีช่องทะลุของน้ำออกอีกต่างหาก
 
“ผมเชื่อว่าร่องความกดอากาศจะทรงอยู่อย่างนี้ไปอีกเป็นอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นโชคร้ายเพราะฝนก็จะเยอะและน้ำก็จะท่วมไม่หยุดหย่อน สถานการณ์เช่นนี้รัฐบาลจึงควรเปลี่ยน mode (ขั้นตอน) การทำงานจากการเผชิญเหตุไปเป็นการลดความเสียหายน่าจะเป็นยุทธวิธีที่ดีที่สุด” นายปลอดประสพ ระบุ... 
 
https://www.facebook.com/dr.plodprasop/posts/pfbid02t6mZJqrMCmC3Cquw5MDSo4b45r9Wk3ym6vGvdnRkj9a1qy9ZahDR1SWXF3LBKNDVl
 

 
หวั่น 'โอเปกพลัส' ลดกำลังการผลิต ดันราคาน้ำมันโลกพุ่ง 5% - ลุ้น 'กบน.' ยืดเวลาตรึงดีเซล 35 บาท/ลิตร
https://ch3plus.com/news/economy/morning/313728

ราคาน้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นพุ่งพรวดประมาณ 5% สาเหตุมาจาก กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ ของโลก ที่จะประชุมกันวันที่ 5 ตุลาคม นี้ เตรียมพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งอาจจะลดลงมากว่าช่วงก่อนการเกิดวิกฤติโควิด ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลก มีดังนี้
 
• ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 4.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• ตลาดเบรนท์ ลอนดอน เพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 88.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ลดลง 0.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 117.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
 
-------------
 
วานนี้ (3 ก.ย. 65) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อการทบทวนราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ เป็นการประชุมครั้งแรก หลังสิ้นสุดมาตรการช่วยอุดหนุน 50% จากภาครัฐ

ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายแลยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุว่า ในการประชุม กบน.รอบต่อไป จะพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกดีเซลในประเทศตามความเหมาะสมด้วยดุลยพินิจของ กบน.เอง ซึ่งก็ต้องรอลุ้นว่า จะยังตรึงราคาไว้ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ต่อไปไหวหรือไม่

แต่ที่เกิดขึ้นแล้ว คือ ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ถูกกว่าราคาดีเซลแล้ว หลังเดือนกันยายน ปรับลดลงมา 6 บาทต่อลิตร โดยแก๊สโซฮอล์ 95 ลงมาอยู่ที่ลิตรละ 34.65 บาท
 
-------------
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่