พระภิกษุรูปหนึ่ง เรียนกัมมัฏฐานจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าไปสู่สวนร้างแห่งหนึ่งเพื่อปฏิบัติธรรม

กระทู้คำถาม
ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่ง เรียนกัมมัฏฐานจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเข้าไปสู่สวนร้างแห่งหนึ่งเพื่อปฏิบัติธรรม
วันหนึ่ง หญิงโสเภณีได้นัดกับบุรุษคนหนึ่งไว้ในส่วนนั้นแต่เขาไม่มา นางเที่ยวเดินหาอยู่และเกิดความกระสันขึ้น เห็นพระภิกษุรูปนั้นนั่งสมาธิอยู่คิดว่า "ผู้นี้ก็เป็นชายเหมือนกัน เราจะทำจิตของผู้นี้ให้ลุ่มหลง" แล้วยืนข้างหน้าของท่าน เปลื้องผ้านุ่งแล้วนุ่งใหม่บ่อยๆ สยายผมแล้วเกล้า ปรบมือแล้วหัวเราะ ฯลฯ
พระภิกษุท่านคุมสติได้และเกิดความสังเวช ในขณะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งประทับอยู่ในพระคันธกุฎีที่วัดพระเชตวัน ทรงเห็นเหตุการณ์นั้น ทรงประทับนั่งอยู่ในพระคันธกุฎีนั่นแหละและตรัสต่อพระภิกษุเสมือนประทับนั่งต่อหน้าว่า
" ระมะณียานี อะรัญญานิ ยัตถะ นะ ระมะตี ชะโน วีตะราคา ระเมสฺสันติ นะ เต กามะคะเวสิโน แปลว่า ป่าทั้งหลายเป็นที่น่ารื่นรมย์ ท่านผู้ปราศจากราคะทั้งหลายจะยินดีในป่าอันไม่เป็นที่ยินดีของชน เพราะท่านผู้ปราศจากราคะนั้นเป็นผู้มีปกติไม่แสวงหากาม" เมื่อจบเทศนาท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วเหาะไปกราบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้อคิด และแหล่งอ้างอิง
1. กามราคะนั้นนำความทุกข์มาให้อย่างใหญ่หลวง ชายหญิงฆ่ากันตายเพราะนอกใจกันมีเห็นอยู่บ่อยๆ บางคนยับยั้งชั่งใจได้แต่ตัดใจไม่ได้จึงมีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น คนเป็นชู้ก็ใช่ว่าจะเป็นสุขใจนัก สุขชั่วครั้งชั่วคราวแต่ทุกข์ยาวนาน ตายไปก็ตกนรกหลายล้านๆๆๆๆๆปี ทางเดียวที่จะหลุดพ้นได้คือสั่งสมบุญและปฏิบัติธรรมจนละกิเลสได้หมดแล้วไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก
2. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 41 หน้า 412 - 414
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่