ผู้ชายขายตัว (1 ) เรื่องสั้น โดย ดรัสวันต์
https://pantip.com/topic/41465730/
ผู้ชายขายตัว (2)
https://pantip.com/topic/41465772/
ผู้ชายขายตัว (3)
https://pantip.com/topic/41465803/
ผู้ชายขายตัว (END)
https://pantip.com/topic/41499964
เมื่อความสงบเข้ามาครอบงำจิตใจ ความคาดหวังความสิ้นหวังหายไปจากความคิด ผมได้สติอีกครั้ง อยากจะเงยหน้ามองท้องฟ้าและแสงดาว แต่สิ่ง
ที่เห็นมีเพียงเจ็บผืนน้ำที่ดำมืด
ผมรู้สึกได้ว่าเมื่อเชิดหัวทำให้อกของผมแอ่นขึ้น คลื่นใต้น้ำดันตัวให้ผมลอยขึ้นไป จนจมูกของผมโผล่พ้นน้ำ ผมค่อยๆสูดอากาศเข้าปอดอย่างช้าๆ และให้ทันก่อนที่คลื่นลูกถัดไปจะพัดน้ำกลบหน้า ผมสูดหายใจอยู่หลายรอบจนรู้สึกตัวอีกทีแผ่นหลังของผมสัมผัสได้กับพื้นทราย
ผมลากตัวเองขึ้นมาบนหาดทราย พยายามขยับตัวให้พ้นจากละอองน้ำทะเล ร่างกายอ่อนแรงเกินกว่าจะทำอะไรได้นอกจากนอนมองดูท้องฟ้า คืนนี้แสงจันทร์ส่องสว่างคงจะเหมือนกับคืนก่อนๆเพียงแต่ว่าผมไม่ได้สังเกตมันมานานมากแล้ว ผมเพลิดเพลินกับการไล่ดูจุดแสงดาวเล็กๆที่รายล้อมรอบแสงจันทร์นี้ อาจจะเป็นเพราะว่า ผมอยากรู้ว่าจุดสิ้นสุดของแสงดาวนั้นจะไปสิ้นสุดที่ใด
เมื่อคิดถึงกันค้นหา ผมจำได้ผมจำได้ลางๆว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานผมกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ว่าอะไรบางอย่างนั้นคืออะไร ผมก็นึกไม่ออกแล้ว ด้วยสมองที่อ่อนล้าเกินกว่าจะคิดเรื่องได้ ทำได้เพียงแค่เปิดเปลือกตามองท้องฟ้า เปิดหูรับฟังเสียงคลื่นทะเล แล้วทั้งภาพและเสียงนั้นก็กล่อมให้ผมสลบไป
เสียงนกร้องดังแว้ดๆ ดังเข้ามาในหัว ผมสะดุ้งตื่น ผมไม่รู้ว่าเสียงนี้เป็นของสัตว์ชนิดใด แต่เสียงแหลมและดังขนาดนี้คิดว่าเป็นเสียงร้องของนกอย่างแน่นอน ร่างกายและสมองของผมตอนนี้เริ่มฟื้นคืนแรงมากแล้ว รอบข้างยังมืดอยู่ แต่คงอีกไม่นานพระอาทิตย์คงโผล่ขึ้นพ้นขอบฟ้า เพราะผมเห็นฝูงนกมากมายส่งเสียงดังเจี๊ยวจ้าว
สมองปลอดโปร่งโล่งสบายทำให้ผมระลึกได้แล้วว่า สิ่งใดกันแน่นะที่ผมตามหา ผมตามหาจุดกำเนิดของความคิดว่ามันมาจากที่ไหน มันจะเดินทางอย่างไร และมันจะสิ้นสุดลงที่ใด บางทีแล้วทุกสิ่งอย่างที่ผมคิดมันควรจะเริ่มต้นที่ตัวผมเอง มันจะดำเนินไปด้วยตัวผมเอง และมันจะสิ้นสุดที่ตัวผมเองเท่านั้น มันไม่ควรมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
ผมนอนสลับนั่งในจุดเดิมเกินกว่าชั่วโมง จนแสงอาทิตย์อุ่นๆอาบทั่วตัวผม อุณหภูมิร่างกายเคยหนาวเหน็บยาวนาน ถูกทำให้สมดุลจนเจ้าของร่างกายรู้สึกสบายตัว ผมใช้ช่วงเวลานี้เก็บเกี่ยวความงดงามรอบตัวผม ทั้งนกบินส่งเสียงร้อง ความเคลื่อนไหวของใบไม้ รวมถึงพื้นน้ำ ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ผมคิดว่านี่คงพอแล้ว พอแล้วสำหรับเหตุผลที่จะดำเนินชีวิตต่อไป
ชั่วขณะนึงผมคิดถึงเธอ ‘ริน’ ผมควรปล่อยเธอไปแล้ว ปล่อยออกไปจากใจ ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ บางทีแล้วถ้าผมคิดว่าเส้นทางชีวิตของเราสองคน คงจะมาบรรจบกันแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้นเอง ผมคงต้องยอมรับในข้อนี้แล้ว
“ สวัสดีครับคุณลูกค้า ผมขออนุญาตตั้งเตียงให้ครับ”
พนักงานของโรงแรมเข็นเตียงพลาสติกสีขาวมาตั้งข้างๆผม เขาไม่ลืมที่จะทิ้งผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ไว้ให้
“ขอบคุณครับ”
ผมกล่าวพร้อมยิ้ม พนักงานหนุ่มคนนั้นหันมาทางผมก่อนจะพูด
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการรับอาหารเช้าริมหาดไหมครับ”
เมื่อได้ยินคำนี้ เสียงท้องของผมร้องขึ้นมาทันที เรียกเสียงหัวเราะจากเราทั้งคู่
“ขอชุดอาหารเช้าและเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตครับ”
“ชุดอาหารเช้ารับอาหารไทยหรือตะวันตกดีครับ”
“ขอเป็นแบบตะวันตกละกันครับ”
พนักงานหนุ่มรับคำก่อนเดินออกไป
ผมเห็นกริยาและการเก็บรายละเอียดของหนุ่มคนนี้ แล้ว ทำให้ผมมองเห็นตัวเอง อาชีพนี้แหละมั้งที่เป็นอาชีพที่ผมรัก ผมอยากกลับไปทำอาชีพนี้อีกครั้ง
กาแฟสดเข้มข้นและอาหารเช้าทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น ท้องอิ่มหลังจากที่ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว ผมมองกลับไปยังรีสอร์ท เมื่อคิดถึงห้องที่ผมพักอยู่นั้น ทำให้จิตใจผมวูบลงไปชั่วหนึ่ง ผมวางแผนว่าจะกลับขึ้นห้องอาบน้ำแต่งตัวเก็บเสื้อผ้าและแจ้งออกกับทางรีสอร์ทเลย ผมคิดว่าควรกลับไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เร็วที่สุด จะส่งผลดีกับตัวผมเอง
ผมพาร่างกายในชุดเสื้อผ้าคลุกทรายเดินผ่านหลายสายตา คนอื่นๆคงคิดว่าผมไปว่ายน้ำในทะเลยามเช้า เมื่อเดินขึ้นบันไดไป มองไกลๆผมเห็นประตูห้องของตัวเองเปิดอยู่ ผมแปลกใจเล็กน้อยคลับคล้ายคลับคลาว่าผมปิดประตูห้องแล้วเมื่อคืนนี้ แต่เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจของผมตอนนั้นก็คงไม่แปลกที่ผมจะลืม
ใครบางคนอยู่ในห้อง หรืออาจจะเป็นแม่บ้านก็ได้ ผมไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อผมยืนอยู่หน้าประตูและมองเข้าไป ผมเห็นรินนั่งอยู่บนโซฟา แม้ว่าโซฟาจะหันหน้าออกนอกหน้าต่าง ผมเห็นแค่ด้านหลังหญิงสาว แต่ผมก็มั่นใจว่าคือเธออย่างแน่นอน ผมร้องเสียงหลง ‘ริน’
เจ้าของชื่อเหลียวหน้ามาทางผม พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นมาป้องปาก ก่อนจะใช้นิ้วมือนิ้วเดิมชี้ลงไปที่ตักของเธอ
ผมเข้าใจได้ทันที่ว่าบนตักของเธอนั้น 'ใหม่’ ลูกของเธอนอนอยู่ การเดินทางที่ยาวนานคงทำให้เด็กตัวน้อยเหนื่อยล้า ผมไม่รีบเข้าไปหาเธอแม้ว่าจะรู้สึกดีใจปนประหลาดใจเพียงใด แต่ผมยังยืนอยู่หน้าห้องเพื่อตั้งสติอีกครั้งว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเบือนหน้าหนีออกจากห้องและเดินออกไปเล็กน้อย
หรือว่าจากที่ผมจมน้ำทะเลไปนานอาจจะทำให้ผมเกิดภาพหลอนจากจิตใต้สำนึก อาจจะเป็นภาพลวงตาที่สมองผมสร้างขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำมาก่อนก็เป็นได้ ผมทำใจกับเรื่องนี้ไปนานแล้วนี่ สมองไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลวงตาขึ้นมาปลอบใจผมหรอก ผมเดินไปหน้าห้องอีกครั้ง แต่คราวนี้ ภาพลวงตาของผมโผลเข้ามากอดผมทันที
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา สัมผัสจากร่างกายบีบรัดผมไว้แน่น ไออุ่นจากแก้มนวลของเธอแนบชิดกับต้นคอผม
“ฉันคิดถึงคุณค่ะ นิว”
คลื่นเสียงที่เป็นของเธอตัวเป็นๆอย่างแน่นอน นี่คือรินจริงๆ ผมไม่รอช้ารีบโอบรัดเธอไว้แน่นอย่างกลัวเธอจะหลุดลอยไป
“นี่ใช่รินจริงๆใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ นี่รินเอง”
เราทั้งคู่กอดกันกลม
ผมพารินเข้ามานั่งที่โต๊ะกินข้าว ถัดจากโซฟาที่ใหม่ยังนอนอยู่ไม่ไกล
“ใหม่เดินทางมาไกล รู้สึกตื่นเต้นมากไม่ยอมนอนเลยตั้งแต่นั่งเครื่อง และตอนนั่งรถมาที่รีสอร์ท คงอีกนานกว่าจะตื่น”
ผมนั่งคิดถึงสรรพนามที่รินใช้เรียกเด็กว่า ‘ลูก’ ไม่รู้ความหมายนั้นหมายถึงลูกของเธอ หรือลูกของเรา สมองผมมึนงงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นด้วยคำถามประโยคไหนดี
“นี่รินตั้งใจมาเยี่ยมผมเฉยๆ หรือว่าตั้งใจที่จะมาอยู่กับผมตลอดไป”
ผมนึกคำถามออกเพียงเท่านี้ คำถามที่ผมอยากรู้คำตอบ
“รินต้องการย้ายมาอยู่กับนิวเลย รินอยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับนิว”
“ผมยินดีครับ ผมรอเวลานี้มาตลอด”
ผมมองไปที่ใหม่ ที่ตอนนี้ยังหลับอยู่
“แล้วสถานะของผมกับใหม่จะเป็นอย่างไร”
เธอหันหน้ามองไปยังลูกชายก่อนจะพูด
“น้องใหม่ยังไม่รู้ความจริง ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนิวเป็นพ่อเด็ก”
ผมตื่นตันใจปนเศร้า ตื้นตันที่รินยืนยันอีกครั้งว่าใหม่คือลูกผม และยังเศร้าใจที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กังวลใจยิ่งกว่า
“แล้วที่คุณมาที่นี่พร้อมลูก ทางนั้นไม่ว่าอะไรเหรอ”
รินก้มหน้า เธอทำท่าอึดอัดก่อนจะพูด
“สามีรินถูกคู่อริยิงตาย”
ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ยังคงตั้งใจฟังสิ่งที่เธอจะพูดต่อ
“ครอบครัวทางทางสามีริน อยากให้รินหาที่หลบซ่อนตัว เพื่อความปลอดภัยของรินและลูก”
ผมรับฟังแล้วก็ไม่อยากจะรู้สึกดีใจเมื่อมีใครตาย แต่เรื่องนึงที่ยังค้างคาใจผมแต่ผมไม่กล้าพูดมันออกมา
“รินกลัวคุณจะคิดว่าเพราะเหตุนี้รินจึงมาหาคุณ”
เธอทำสีหน้าแววตาอ้อนวอนมาทางผม รินหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
“ตอนนิวยื่นกระดาษแผ่นนี้ให้ รู้ไหมว่าน้ำตารินไหลออกมาเลยนะ รินรู้เลยว่านี่คือความหวังเล็กๆ ที่รินจะได้อยู่กับคนที่รินรัก”
ผมเอื้อมมือของผมไปจับที่มือริน
“ไม่เป็นไรริน ไม่เป็นไร ขอแค่รินอยู่ตรงนี้ก็พอ”
ผู้ชายขายตัว (Finale)
https://pantip.com/topic/41465730/
ผู้ชายขายตัว (2)
https://pantip.com/topic/41465772/
ผู้ชายขายตัว (3)
https://pantip.com/topic/41465803/
ผู้ชายขายตัว (END)
https://pantip.com/topic/41499964
เมื่อความสงบเข้ามาครอบงำจิตใจ ความคาดหวังความสิ้นหวังหายไปจากความคิด ผมได้สติอีกครั้ง อยากจะเงยหน้ามองท้องฟ้าและแสงดาว แต่สิ่ง
ที่เห็นมีเพียงเจ็บผืนน้ำที่ดำมืด
ผมรู้สึกได้ว่าเมื่อเชิดหัวทำให้อกของผมแอ่นขึ้น คลื่นใต้น้ำดันตัวให้ผมลอยขึ้นไป จนจมูกของผมโผล่พ้นน้ำ ผมค่อยๆสูดอากาศเข้าปอดอย่างช้าๆ และให้ทันก่อนที่คลื่นลูกถัดไปจะพัดน้ำกลบหน้า ผมสูดหายใจอยู่หลายรอบจนรู้สึกตัวอีกทีแผ่นหลังของผมสัมผัสได้กับพื้นทราย
ผมลากตัวเองขึ้นมาบนหาดทราย พยายามขยับตัวให้พ้นจากละอองน้ำทะเล ร่างกายอ่อนแรงเกินกว่าจะทำอะไรได้นอกจากนอนมองดูท้องฟ้า คืนนี้แสงจันทร์ส่องสว่างคงจะเหมือนกับคืนก่อนๆเพียงแต่ว่าผมไม่ได้สังเกตมันมานานมากแล้ว ผมเพลิดเพลินกับการไล่ดูจุดแสงดาวเล็กๆที่รายล้อมรอบแสงจันทร์นี้ อาจจะเป็นเพราะว่า ผมอยากรู้ว่าจุดสิ้นสุดของแสงดาวนั้นจะไปสิ้นสุดที่ใด
เมื่อคิดถึงกันค้นหา ผมจำได้ผมจำได้ลางๆว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานผมกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ว่าอะไรบางอย่างนั้นคืออะไร ผมก็นึกไม่ออกแล้ว ด้วยสมองที่อ่อนล้าเกินกว่าจะคิดเรื่องได้ ทำได้เพียงแค่เปิดเปลือกตามองท้องฟ้า เปิดหูรับฟังเสียงคลื่นทะเล แล้วทั้งภาพและเสียงนั้นก็กล่อมให้ผมสลบไป
สมองปลอดโปร่งโล่งสบายทำให้ผมระลึกได้แล้วว่า สิ่งใดกันแน่นะที่ผมตามหา ผมตามหาจุดกำเนิดของความคิดว่ามันมาจากที่ไหน มันจะเดินทางอย่างไร และมันจะสิ้นสุดลงที่ใด บางทีแล้วทุกสิ่งอย่างที่ผมคิดมันควรจะเริ่มต้นที่ตัวผมเอง มันจะดำเนินไปด้วยตัวผมเอง และมันจะสิ้นสุดที่ตัวผมเองเท่านั้น มันไม่ควรมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
ผมนอนสลับนั่งในจุดเดิมเกินกว่าชั่วโมง จนแสงอาทิตย์อุ่นๆอาบทั่วตัวผม อุณหภูมิร่างกายเคยหนาวเหน็บยาวนาน ถูกทำให้สมดุลจนเจ้าของร่างกายรู้สึกสบายตัว ผมใช้ช่วงเวลานี้เก็บเกี่ยวความงดงามรอบตัวผม ทั้งนกบินส่งเสียงร้อง ความเคลื่อนไหวของใบไม้ รวมถึงพื้นน้ำ ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ผมคิดว่านี่คงพอแล้ว พอแล้วสำหรับเหตุผลที่จะดำเนินชีวิตต่อไป
ชั่วขณะนึงผมคิดถึงเธอ ‘ริน’ ผมควรปล่อยเธอไปแล้ว ปล่อยออกไปจากใจ ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ บางทีแล้วถ้าผมคิดว่าเส้นทางชีวิตของเราสองคน คงจะมาบรรจบกันแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้นเอง ผมคงต้องยอมรับในข้อนี้แล้ว
“ สวัสดีครับคุณลูกค้า ผมขออนุญาตตั้งเตียงให้ครับ”
พนักงานของโรงแรมเข็นเตียงพลาสติกสีขาวมาตั้งข้างๆผม เขาไม่ลืมที่จะทิ้งผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ไว้ให้
“ขอบคุณครับ”
ผมกล่าวพร้อมยิ้ม พนักงานหนุ่มคนนั้นหันมาทางผมก่อนจะพูด
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการรับอาหารเช้าริมหาดไหมครับ”
เมื่อได้ยินคำนี้ เสียงท้องของผมร้องขึ้นมาทันที เรียกเสียงหัวเราะจากเราทั้งคู่
“ขอชุดอาหารเช้าและเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตครับ”
“ชุดอาหารเช้ารับอาหารไทยหรือตะวันตกดีครับ”
“ขอเป็นแบบตะวันตกละกันครับ”
พนักงานหนุ่มรับคำก่อนเดินออกไป
ผมเห็นกริยาและการเก็บรายละเอียดของหนุ่มคนนี้ แล้ว ทำให้ผมมองเห็นตัวเอง อาชีพนี้แหละมั้งที่เป็นอาชีพที่ผมรัก ผมอยากกลับไปทำอาชีพนี้อีกครั้ง
กาแฟสดเข้มข้นและอาหารเช้าทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น ท้องอิ่มหลังจากที่ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว ผมมองกลับไปยังรีสอร์ท เมื่อคิดถึงห้องที่ผมพักอยู่นั้น ทำให้จิตใจผมวูบลงไปชั่วหนึ่ง ผมวางแผนว่าจะกลับขึ้นห้องอาบน้ำแต่งตัวเก็บเสื้อผ้าและแจ้งออกกับทางรีสอร์ทเลย ผมคิดว่าควรกลับไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เร็วที่สุด จะส่งผลดีกับตัวผมเอง
ผมพาร่างกายในชุดเสื้อผ้าคลุกทรายเดินผ่านหลายสายตา คนอื่นๆคงคิดว่าผมไปว่ายน้ำในทะเลยามเช้า เมื่อเดินขึ้นบันไดไป มองไกลๆผมเห็นประตูห้องของตัวเองเปิดอยู่ ผมแปลกใจเล็กน้อยคลับคล้ายคลับคลาว่าผมปิดประตูห้องแล้วเมื่อคืนนี้ แต่เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจของผมตอนนั้นก็คงไม่แปลกที่ผมจะลืม
ใครบางคนอยู่ในห้อง หรืออาจจะเป็นแม่บ้านก็ได้ ผมไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อผมยืนอยู่หน้าประตูและมองเข้าไป ผมเห็นรินนั่งอยู่บนโซฟา แม้ว่าโซฟาจะหันหน้าออกนอกหน้าต่าง ผมเห็นแค่ด้านหลังหญิงสาว แต่ผมก็มั่นใจว่าคือเธออย่างแน่นอน ผมร้องเสียงหลง ‘ริน’
เจ้าของชื่อเหลียวหน้ามาทางผม พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นมาป้องปาก ก่อนจะใช้นิ้วมือนิ้วเดิมชี้ลงไปที่ตักของเธอ
ผมเข้าใจได้ทันที่ว่าบนตักของเธอนั้น 'ใหม่’ ลูกของเธอนอนอยู่ การเดินทางที่ยาวนานคงทำให้เด็กตัวน้อยเหนื่อยล้า ผมไม่รีบเข้าไปหาเธอแม้ว่าจะรู้สึกดีใจปนประหลาดใจเพียงใด แต่ผมยังยืนอยู่หน้าห้องเพื่อตั้งสติอีกครั้งว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเบือนหน้าหนีออกจากห้องและเดินออกไปเล็กน้อย
หรือว่าจากที่ผมจมน้ำทะเลไปนานอาจจะทำให้ผมเกิดภาพหลอนจากจิตใต้สำนึก อาจจะเป็นภาพลวงตาที่สมองผมสร้างขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำมาก่อนก็เป็นได้ ผมทำใจกับเรื่องนี้ไปนานแล้วนี่ สมองไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลวงตาขึ้นมาปลอบใจผมหรอก ผมเดินไปหน้าห้องอีกครั้ง แต่คราวนี้ ภาพลวงตาของผมโผลเข้ามากอดผมทันที
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา สัมผัสจากร่างกายบีบรัดผมไว้แน่น ไออุ่นจากแก้มนวลของเธอแนบชิดกับต้นคอผม
“ฉันคิดถึงคุณค่ะ นิว”
คลื่นเสียงที่เป็นของเธอตัวเป็นๆอย่างแน่นอน นี่คือรินจริงๆ ผมไม่รอช้ารีบโอบรัดเธอไว้แน่นอย่างกลัวเธอจะหลุดลอยไป
“นี่ใช่รินจริงๆใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ นี่รินเอง”
เราทั้งคู่กอดกันกลม
ผมพารินเข้ามานั่งที่โต๊ะกินข้าว ถัดจากโซฟาที่ใหม่ยังนอนอยู่ไม่ไกล
“ใหม่เดินทางมาไกล รู้สึกตื่นเต้นมากไม่ยอมนอนเลยตั้งแต่นั่งเครื่อง และตอนนั่งรถมาที่รีสอร์ท คงอีกนานกว่าจะตื่น”
ผมนั่งคิดถึงสรรพนามที่รินใช้เรียกเด็กว่า ‘ลูก’ ไม่รู้ความหมายนั้นหมายถึงลูกของเธอ หรือลูกของเรา สมองผมมึนงงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นด้วยคำถามประโยคไหนดี
“นี่รินตั้งใจมาเยี่ยมผมเฉยๆ หรือว่าตั้งใจที่จะมาอยู่กับผมตลอดไป”
ผมนึกคำถามออกเพียงเท่านี้ คำถามที่ผมอยากรู้คำตอบ
“รินต้องการย้ายมาอยู่กับนิวเลย รินอยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับนิว”
“ผมยินดีครับ ผมรอเวลานี้มาตลอด”
ผมมองไปที่ใหม่ ที่ตอนนี้ยังหลับอยู่
“แล้วสถานะของผมกับใหม่จะเป็นอย่างไร”
เธอหันหน้ามองไปยังลูกชายก่อนจะพูด
“น้องใหม่ยังไม่รู้ความจริง ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนิวเป็นพ่อเด็ก”
ผมตื่นตันใจปนเศร้า ตื้นตันที่รินยืนยันอีกครั้งว่าใหม่คือลูกผม และยังเศร้าใจที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กังวลใจยิ่งกว่า
“แล้วที่คุณมาที่นี่พร้อมลูก ทางนั้นไม่ว่าอะไรเหรอ”
รินก้มหน้า เธอทำท่าอึดอัดก่อนจะพูด
“สามีรินถูกคู่อริยิงตาย”
ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ยังคงตั้งใจฟังสิ่งที่เธอจะพูดต่อ
“ครอบครัวทางทางสามีริน อยากให้รินหาที่หลบซ่อนตัว เพื่อความปลอดภัยของรินและลูก”
ผมรับฟังแล้วก็ไม่อยากจะรู้สึกดีใจเมื่อมีใครตาย แต่เรื่องนึงที่ยังค้างคาใจผมแต่ผมไม่กล้าพูดมันออกมา
“รินกลัวคุณจะคิดว่าเพราะเหตุนี้รินจึงมาหาคุณ”
เธอทำสีหน้าแววตาอ้อนวอนมาทางผม รินหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
“ตอนนิวยื่นกระดาษแผ่นนี้ให้ รู้ไหมว่าน้ำตารินไหลออกมาเลยนะ รินรู้เลยว่านี่คือความหวังเล็กๆ ที่รินจะได้อยู่กับคนที่รินรัก”
ผมเอื้อมมือของผมไปจับที่มือริน
“ไม่เป็นไรริน ไม่เป็นไร ขอแค่รินอยู่ตรงนี้ก็พอ”