ผีขอส่วนบุญ + ตู้ผีสิงในบ้านร้าง


ผีขอส่วนบุญ เพราะจิตยังติดอยู่ในสิ่งที่ต้องการ จึงยังไม่ได้ไปไหน อยากจะขอส่วนบุญเพื่อไปเกิดใหม่เสียที

ตู้ใบนี้มาอยู่ที่บ้านร้างได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครอยากได้ไปไว้เก็บของอย่างแน่นอน (งานเดิมค่ะ ชื่อเก่าคือ ใครอยู่ในตู้ เอามารีไร้ท์ใหม่ อัดเสียงใหม่)

ติดตามฟังทั้งสองเรื่องได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/ashSJ7BbTuc



ผีขอส่วนบุญ

ลุงเลิศ

ผมเป็นคนที่มีสัมผัสในเรื่องที่อธิบายไม่ถูกมาตั้งแต่ยังเล็ก มักเห็นหรือได้ยินในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น หรือฟังไม่ได้ยิน แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมบ่อยนัก ซึ่งผมจะไม่มีทางรู้เลยว่า มันจะเกิดกับตัวเองเมื่อไหร่ บางทีกว่าจะรู้ตัวว่ามันเป็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ก็ทำเอาหลอนแทบเสียสติ แต่ผมเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อน ขี้โมโหง่าย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นอยู่เนือง ๆ  

แม่ผมจึงอยากให้บวช เพื่อเป็นการกล่อมเกลาจิตใจ และอุทิศผลบุญให้แก่บุพการี ความที่ผมไม่ค่อยอยากจะบวช แต่ทนแม่รบเร้าไม่ไหว เพราะแม่อยากจะเห็นชายผ้าเหลืองของลูกชายคนเดียว ประกอบกับตอนนั้นผมกำลังมีปัญหาเรื่องคดีความ ซึ่งเกิดจากการทะเลาะวิวาทกัน ผมจึงตกลงใจไปบวชกับพระอาจารย์ที่สอนวิปัสสนากรรมฐานรูปหนึ่ง ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก ด้วยความที่ผมไม่อยากจะบวชอยู่แล้ว ทำให้ตอนบวชใหม่ ๆ ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองอึดอัดมาก อยากจะสึกไว ๆ แทบจะทนรอให้ครบหนึ่งพรรษาไม่ไหว

พระอาจารย์ท่านเข้าใจ จึงสอนให้ผมหัดนั่งทำสมาธิกำหนดจิต แต่ผมก็มักจะนั่งหลับ จึงโดนพวกภูตผีสัมภเวสีมาหลอกหลอนในรูปแบบต่าง ๆ เอาบ่อย ๆ บางทีพวกมันก็ยื่นหน้าอันใหญ่โตเข้ามา ขณะผมกำลังนั่งทำสมาธิอยู่ บางทีก็เดินผ่านหน้าไปมา แล้วหยุดเดิน หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก โดนแบบนี้บ่อย เข้าทำเอาผมแทบสติแตก โชคดีที่พระอาจารย์ท่านมีวิธีสอนให้ผมมีสมาธิที่ตั้งมั่น และแผ่เมตตาไปให้กับพวกมัน ผมพยายามทำตาม จนกระทั่งพวกผีสางเหล่านั้นจางหายไปในที่สุด 

และจากการเอาชนะความหวาดกลัวในจิตใจ สามารถนิ่งสงบจนสยบเหล่าภูตผีลงได้ ทำให้ผมเห็นถึงคุณค่าของการเจริญสมาธิภาวนา และเมื่อได้ร่ำเรียนธรรมะกับพระอาจารย์ ผมก็เริ่มเข้าใจในหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากขึ้น ผมจึงตั้งใจศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง จนเวลาผ่านไป จิตใจที่เคยหยาบกระด้าง มักจะฟุ้งซ่านและร้อนรุ่มอยู่เสมอของผม ก็ถูกขจัดขัดล้างด้วยหลักธรรมอันประเสริฐของพระพุทธองค์

ด้วยพื้นฐานของผมเป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษอยู่แล้ว วันหนึ่ง ขณะกำลังเจริญสมาธิภาวนาอยู่ใต้ต้นไม้ในบริเวณอาราม ผมก็เกิดนิมิตเห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่ง แกนุ่งขาวห่มขาว เดินเข้ามาหา แล้วนั่งลงก้มกราบพระ บอกว่าชื่อยายเปี่ยน จากนั้นแกก็เล่าว่า แกมีลูกชายอยู่คนหนึ่ง เป็นคนมีนิสัยเหมือนกันกับผม คือเป็นคนใจร้อน โมโหง่าย แกอยากเห็นชายผ้าเหลืองของลูกสักครั้ง จึงขอร้องให้ลูกชายบวช ทีแรกลูกแกไม่ยอมบวช เพราะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว แต่แกก็อ้อนวอนขอร้อง จนในที่สุดลูกชายแกก็ตอบตกลง แกดีใจมาก เตรียมอัฐบริขารต่าง ๆ และเตรียมจัดงานบวชให้ลูก แต่สองวันก่อนจะถึงวันบวช ลูกชายแกมาถูกรถชนตายเสียก่อน ยังความโศกเศร้าเสียใจมาให้แกกับผัวเป็นอย่างมาก หลังลูกชายตายไปไม่นาน ผัวแกก็ตรอมใจตาย ในที่สุด แกก็ตายตามไปอีกคน แต่จิตของแกไม่สงบ จึงยังไม่ได้ไปไหน เฝ้าแต่วนเวียนมาที่หน้าโบสถ์แห่งนี้ เพื่อรอคอยคนที่มีลักษณะนิสัยเหมือนกันกับลูกชาย และมีความตั้งใจจะศึกษาพระธรรมอย่างแท้จริง เพื่อแกจะมาขอส่วนบุญอานิสงส์ในการบวช 

ในนิมิตนั้นผมได้ถามแกไปว่า แล้วอยากให้อาตมาช่วยอย่างไร แกก็บอกว่าอยากให้ผมแผ่เมตตาให้ และเรียกแกว่าโยมแม่ให้ได้ยินสักครั้ง ซึ่งผมก็ทำตาม
ก่อนแกจะเลือนหายไป แกบอกว่า มีทองอยู่จำนวนหนึ่ง ได้ซ่อนฝังไว้ในสถูปใส่อัฐิของผัวแก ขอให้ผมไปขุดเอามา เพื่อนำมาถวายวัดแห่งนี้ ที่กำลังก่อสร้างเจดีย์ แล้วอุทิศผลบุญไปให้แกพร้อมทั้งลูกผัวที่ตายไป ผมสงสัยว่าจะเข้าไปขุดเอามาได้อย่างไร แกจึงบอกว่า ตัวแกเองจะไปเข้าฝันหลานสาว ให้มาพาผมไปขุด

พอออกจากสมาธิมาแล้ว ผมก็รอดูว่าจะเป็นไปตามที่ยายเปี่ยนว่าไว้หรือไม่ ประมาณหนึ่งอาทิตย์ต่อมา ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาที่วัด มาถามหาพระ ซึ่งก็คือตัวผมเอง บอกว่าเป็นหลานสาวของยายเปี่ยน ซึ่งเป็นคุณย่าของเธอ ย่ามาเข้าฝันขอให้มาหา บอกว่าแล้วพระจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง ผมรู้สึกทึ่งต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น พลังศรัทธาดวงจิตของยายเปี่ยนช่างแก่กล้าดีจริง ๆ จึงเล่าถึงสิ่งที่แกต้องการให้หลานแกฟัง ซึ่งเธอก็ยินยอม เธอจึงไปขุดดูทองใต้สถูปใส่อัฐิของปู่ ปรากฏว่ามีแหวนและสร้อยคอทองคำบรรจุอยู่ในนั้นจริง ๆ หลานสาวของแกจึงนำไปถวายวัดตามเจตนารมณ์ของย่า พร้อมทั้งทำบุญกรวดน้ำไปให้

ในวันต่อมา เมื่อผมได้นั่งทำสมาธิ ก็เห็นโยมแม่ในนิมิต คราวนี้แกมีเรือนร่างที่สดใส เปล่งประกายออกมาเรือง ๆ อุ้มแมวมาด้วยตัวหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นลูกชายของแก ยายเปี่ยนบอกว่าได้รับผลบุญทั้งหมดที่ส่งไปให้แล้ว และแกกับลูกชายมาบอกอำลาเพื่อจะไปตามทางของตน จากนั้นแกก็หันหลังเดินจากไป

หลังครบกำหนดลาสิกขา พ่อกับแม่ของผมดีใจมาก ที่เวลาหนึ่งพรรษาทำให้ผมดูเป็นคนใจเย็นลง ท่าทางเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ซึ่งตัวผมเองก็ดีใจเช่นกัน ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ทัน ไม่ให้โยมแม่ของผมต้องตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับโยมแม่ในนิมิต ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน รอผู้มาปลดปล่อยด้วยความเวทนาเป็นเวลานาน

จบ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่