เรื่องเล่า #ผ่าทอนซิล 22 ส.ค. 2565 (ค.ศ.2022)
เล่ายาวมากๆ ใครขี้เกียจอ่านไถข้ามเลยนะคะ หรือถ้าอยากไปดูภาพประกอบก็ตามในเฟสบุ้คเราได้
https://www.facebook.com/FBrasinee/posts/pfbid0WzQTiK4kY2iG93YvyEfa7hqFYcCw7hxmyrrdG9NoDHwZadWkeUHW7Njagupvtt7Dl
เราหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆที่กำลังหาข้อมูลรักษาอาการแบบเดียวกัน
ตอนนี้เราอายุ 42ปี เพศหญิง มีบุตรแล้ว เป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เกิด และมีอาการหอบหืดบ้าง
เพื่อนๆคงจะมีคำถามกันแน่ๆว่าทำไมถึงต้องผ่าทอนซิล??
จะขอเล่าแบ็คกราวน์ก่อนว่า เรามีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้และหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก ช่วงหลังดูแลความสะอาดไรฝุ่นดีมากเลยไม่หอบมานานกว่า2ปีแล้ว แต่ว่าอาการคัดจมูก เจ็บคอเป็นหวัดมีบ่อยมากๆ ยิ่งมามีฝุ่นPM.2.5 มีไวรัสโควิดระบาดยิ่งสังเกตุตัวเองว่าเจ็บคอเมื่อไรก็อาจจะเสี่ยงทำให้รู้ว่าเราเจ็บคอบ่อยถึงเกือบ20ครั้งใน2ปีเลย ระหว่างนั้นก็มีสัญญาณแปลกๆจากคนรอบตัวทำให้รู้สึกถึงกลิ่นจากลมหายใจของตัวเองอีกด้วย เอาหล่ะ การรักษาเริ่มขึ้นจากการไล่ตรวจทีละอย่าง
1.ฟันและช่องปาก ตรวจแล้วปกติและดีมาก
2.ไซนัส ไปหาหมอเฉพาะทาง คลีนิคที่เขาว่าดังและดี ผลไม่พบไซนัส ถามหมอว่าจะแก้อาการเหล่านี้ยังไว หมอบอกลองดื่มน้ำมากขึ้นบางทีน้ำในร่างกายน้อยไปก็อาจทำให้น้ำมูกและเสมหะเหนียวสะสมกลิ่นได้ ไอบ่อยได้ ก็ได้ยาปฏิชีวนะมากินเพื่อฆ่าเชื้อและลดอาการบวมของทอนซิน และดื่มน้ำเปล่ามากขึ้นถึงวันละ 2 ลิตร แต่ก็ยังกลับมาเจ็บคออีกในช่วงไม่เกิน 2เดือน
3.หาหมอหู ตา คอ จมูก ที่ร.พ.เอกชนชื่อ "นวเวช"คราวนี้หมอคงจะไม่คำนึงถึงbudgetของคนไข้หมอก็เลยบอกว่าถ้าเป็นถี่ขนาดนี้เขาเรียกว่า "ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง" แนะนำให้ผ่าทอนซิลครับ โห!นึกไม่ถึงเรื่องนี้เลยมันเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แว๊บขึ้นมาในหัวเลย ขอบคุณค่ะหมอ.....
จากนั้นก็มาอ่านหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าต่อมทอนซิลนี้ไปพร้อมๆกับรอให้ประกันพิจารณาว่าจะอนุมัติการผ่าตัดไหม(ประกันกลุ่มที่ทำกับบริษัทไทยสมุทรประกันภัย) ข้อมูลที่หามาได้ก็ลงคะแนนไปที่คำว่า "จงผ่า" 90% อีก10% คือว่าด้วยเรื่องของงบประมาณ
บริษัทประกันไม่อนุมัติวงเงินค่าผ่าตัดโดยให้เหตุผลว่ามีการรักษาโรคทำนองนี้มาก่อนที่จะทำประกัน (แหม ทีอย่างนี้ล่ะเช็คประวัติกูย้อนหลังละเอียดเชียว) งบค่าผ่าตัดของร.พ.นวเวชอยู่ที่ 5หมื่นบาท (ต่อให้ประกันอนุมัติวงเงินก็ไม่พออยู่ดี) เราเลยกลับมานั่งคิดว่าจะใช้ประกันสังคมผ่า แต่จะทำยังไงในเมื่อหมอประกันสังคมไม่เคยเอ่ยถึงแนวทางนี้เลย เราเลยต้องเริ่มต้นใหม่เพื่อให้การรักษาเฉพาะทางทอนซิลเรื้อรังของเรานี้เข้าในประวัติการรักษาประกันสังคม
เดือนมี.ค.2565 จึงได้เริ่มขอใบรับรองแพทย์และประวัติการรักษาจากร.พ.นวเวชมาหาหมอเฉพาะทางที่ร.พ.พญาไท นวมินทร์ แผนกประกันสังคม เขานัดคิวหมอหูตาคอจมูกให้วันที่17เม.ย.2565 พอมาพบหมอก็แสดงเอกสารพร้อมอธิบายเล่าเรื่องว่าเราได้รับคำแนะนำมาให้ผ่านะหมอก็เลยโอเคถ้าคนไข้ยืนยันแบบนั้นหมอก็จะลองพิจารณาส่งเรื่องให้ ตอนนี้เอายาปฏิชีวนะ+ยาสเตอรอยมากินแล้วดูผลอีกที 16พ.ค.
วันที่16พ.ค.2565ไปหาหมอเราใช้ลิ้นตวัดไปแตะๆทอนซิลดูก็รู้สึกว่ามันบวมอยู่ไม่เท่ากัน ข้างซ้ายจะปูดกว่าอีกข้าง หมอก็ดูคอเห็นว่าเออจริงในขณะที่มันไม่อักเสบ(ไม่รู้สึกเจ็บคอ)คนไข้ก็ยังมีต่อมทอนซิลบวมอยู่ซึ่งข้างซ้ายบวมกว่าขวานิดนึงด้วย ถ้าแบบนี้อาจจะเป็นเนื้องอกก็ได้นะ อ้าว!ซวยละกู จะรู้ได้ก็ต้องตัดออกมาก่อน ดังนั้นหมอฟันธงให้ว่าผ่าตัดตามที่คนไข้ประสงค์ครับ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกได้นะครับหมอก็อธิบายข้อดี-ข้อเสีย ผลข้างเคียง ความเสี่ยงที่จะมีในการผ่าอย่างละเอียด (ขอบคุณค่ะหมอ) เมื่อเราโอเคทีนี้ก็รอคิวผ่า "เนื่องจากใช้สิทธิประกันสังคมทำให้ต้องรอเตียงผ่าว่างก่อนและคิวยาวไปยันสิงหาคมเลยดังนั้นได้คิวแล้วใกล้ๆพยาบาลจะโทรหานะคะ"เสียงหวานๆพูดมา ทีนี้เราก็กลับมาแปะกระดาษไว้บนปฏิทินเดือนส.ค.
สิ้นเดือน ก.ค.แล้ว เอ๊ะทำไมพยาบาลยังไม่โทรมาอีกล่ะ ก็เลยโทรไปถามได้ความว่าอ้อ งั้นดูคิวให้เลยค่ะ คนไข้ได้คิว22ส.ค.2565นะคะ ก่อนผ่า1สัปดาห์มาพบแพทย์ก่อนนะคะ วันที่14ส.ค.2565ถึงเวลาพบหมอก่อนผ่าก็ส่องดูคออีกรอบหมอบอกว่าผ่านไป2-3เดือนแล้วความโตไม่ได้มากขึ้นคงจะไม่ใช่เนื้องอกแหละ โห...โล่งใจเลย หมอก็ทำใบนัดให้มาตรวจร่างกายก่อนผ่า2วัน และอธิบายสิ่งต่างๆที่จะเกิดระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัดให้ฟังอีกรอบ จากนั้นก็นับถอยหลัง เขียนใบลางาน เตรียมวางแผนการรับส่งและบอกเด็กๆพร้อมทั้งเตรียมใจเตรียมการหลังจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างผ่าตัดขึ้น
ก่อนผ่า2วันไปตรวจโควิด (RT-PCR) และตรวจเลือดหาHIV ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ กลับมารอผลเมื่อทุกอย่างผ่านก็ขึ้นเขียงวันจันทร์ที่ 22ส.ค.ได้เลย เชื่อมะอีการตรวจโควิดนี่มันลุ้นกว่าตรวจอย่างอื่นเลย 555
ต่อไปจะเข้าเรื่องตั้งแต่เริ่มผ่าถึงหลังผ่าละนะ
22 ส.ค. เวลาขึ้นเขียงคือ2ทุ่ม (เตียงว่างแต่กลางคืน) พอรู้ว่าเดี๋ยวต้องอดอาหารและน้ำตั้งแต่เที่ยงเลยจัดหนักมื้อเที่ยงด้วยก๋วยเตี๋ยว1 ข้าวกระเพราเนื้อ1 กาแฟหวานๆ1 อิ่มล้นคอหอยไปร.พ. จากนั้นพยาบาญก็มาคุยเรื่องห้องพักว่าจะจ่ายเพิ่มเอาห้องเดี่ยวไหม เราเอาด้วยค่าส่วนต่างที่ 3,300บาท นอนคืนเดียวจ่ายได้แหละ เรียบร้อยแล้วก็ไปเจาะสายน้ำเกลือ เข็ญรถพาไปห้องพัก นอนเล่นรอเวลา 18.30มาพาไปนอนรอหน้าห้องผ่าตัดตอนนั้นมีผู้ชายผ่าอยู่เราเป็นคนที่2 นอนรอจนหลับได้เวลา 2ทุ่มก็เข็นพาเข้าห้องผ่า ตอนนั้นหิวน้ำคอแห้ง ห้องผ่ากว้างและหนาวมาก น่าจะเพราะตื่นเต้นมากสั่นๆเลย แล้วเค้าก็เอาสายสารพัดอย่างมาแปะหน้าอก คล้องหัว แล้ววิสัญญีแพทย์(หมอดมยา)คนสวย สวยจริงๆนะอย่างกับเน็ตไอดอล ก็มาบอกว่าจะให้หลับแล้วนะคะสูดหายใจลึกๆนะคะ ที่ครอบอ๊อกซิเจนก็มาตรงหน้าพร้อมกับมีน้ำแสบๆไหลเข้าในแขนข้างที่เจาะสายน้ำเกลือ แล้วก็ได้ยินเสียงถามว่าเป็นยังไงบ้างคะเจ็บไหม อ้าว! ผ่าเสร็จแล้ว
ระหว่างที่บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องพัก มีคนเปิดประตูให้เป็นสามี และแว๊บเห็นนาฬิกาบนกำแพงเวลา 4ทุ่มแต่จำไม่ได้ว่ากี่นาที คือสลบไป2ช.ม.เหมือน 1วิ แ้ล้วตอนนั้นก็รู้สึกตัวว่าผ่าเสร็จแล้วจริงๆสินะเพราะเจ็บคอมากเหมือนมีมีดปักคาไว้ในคอตรงส่วนสูงๆที่ไม่ใช่แถวลิ้นไก่ที่ไม่เหมือนเวลาก้างปลาไปติด แต่ไม่เวียนหัวไม่คลื่นไส้ มีแค่เจ็บคอเท่านั้นและหิวน้ำมากเรียกขอกินน้ำก่อนเลย ความที่ยังไม่กล้าดูดเลยใช้หลอดหยดน้ำเข้าปากดูก่อน โอ้โห แม่เจ้า นี่เหรอความผ่าตัดทอนซิล กลืนไม่ลงเลยจ้า แต่กลืนได้นะแค่ต้องฝืนทน ส่วนแผลและความเรียบร้อยของการผ่า หมอบอกว่าทุกอย่างจบสวยรอดูอาการอีก 24ช.ม.ครับไม่มีเลือดออกผิดปกติก็กลับได้ ระหว่างนี้กินเย็นๆ น้ำๆ เท่านั้นนะครับ อาหารของเราหลังจากนั้นก็คือน้ำและน้ำหวานและน้ำผลไม้และน้ำซุปและน้ำข้าว คืนนั้นทั้งคืนนอนหลับๆตื่นๆทุก ๆ 15นาที เพราะความเจ็บ เรียกกินน้ำเกือบทั้งคืนเลย แต่ก็ยังไม่กล้ากลืนแรงๆอยู่ดี
23ส.ค.2565 เช้านอนไม่หลับแล้วก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า อ้าปากแปรงฟันได้ไม่เจ็บเลยเพราะมันเจ็บข้างในคอลึกๆลึกมากๆ เสร็จแล้วก็มานั่งคิดหิวว่ะ จะกินไรดี สามีบอกในตู้เย็นมีน้ำผลไม้กล่อง ก็ดูดปรื๊ดกลืนป๊าบแสบวาบดั่งมีดกรีด โอ้มายก้อด! ต่อมาอาหารเช้าของ ร.พ.มื้อแรกคือน้ำข้าวแบบกรองมาซะไม่เหลือกากแม้แต่นิดแล้วก็แช่เย็นมา1ถ้วย กับน้ำซุปสีเหลืองทองแช่เย็นมาอีก1ถ้วย แถมน้ำเก๊กฮวยเย็น1ขวด เอาหลอดจิ้มใส่ถ้วยดูดกินไป กลืนได้กลืนกลืนไม่ได้อมไว้ก่อนตอนนั้น 555 ส่วนมือเที่ยงและมื้อเย็นไม่ต้องถาม เหมือนมื้อเช้าค่ะ อ้อ...ระหว่างวันนั้นนอนหลับแต่ก็ตื่นบ่อยเพราะมันเจ็บแล้วเหมือนหายใจไม่คล่องยังไงไม่รู้ เลยนอนไม่อิ่มเลย 4โมงเย็นหมอมาดูแผลแล้วบอกว่าดีครับ กลับได้ โอเคค่ะหมอ ก่อนออกจากร.พ.และซื้อช๊อกโกแลตปั่นไปดูดกินแก้หิวเพราะเคยไปอ่านเจอว่าคออักเสบให้กินช๊อคเย็น อิอิ เข้าทางเลย
บันทึกความเปลี่ยนแปลงหลังผ่า
วันที่1(23ส.ค.) กินน้ำข้าวแช่เย็นน้ำซุปเย็นของร.พ. ความเจ็บเต็ม100%
วันที่2(24ส.ค.) พักฟื้นที่บ้าน กินข้าวต้มบดละเอียดแช่เย็น เยลลี่เย็นๆ ไอศครีม ความเจ็บ90% พูดเสียงเบามากเพราะกลัวเจ็บ ก้านคอซ้ายขวาปวดเมื่อยซึ่งน่าจะมาจากท่าทางนอนตอนผ่า เห็นสเก็ดแผลรอบปากชัดขึ้นน่าจะได้จากการใส่เครื่องมือ หลับได้นานขึ้นกว่าวันแรก
25ส.ค. ไปทำงานหลังพักฟื้นวันแรก อาการเวียนหัวเมารถเกิด(สงสัยผลข้างเคียงยาสลบ) ตอนเช้านั่งรถมาได้แต่ดื่มนมกับดูดเยลลี่ เอาวุ้นเส้นในน้ำซุปกับผักเละๆมากินเป็นมื้อเที่ยง อุ่นด้วยเวฟให้นุ่มแล้ววางไว้ให้เย็นค่อยกิน หิวก็บรรเทาด้วยเยลลี่ นม น้ำหวาน ความเจ็บยัง80% ไม่กล้าใช้เสียงเยอะกลืนน้ำลายเจ็บอยู่มาก
26ส.ค. ไปทำงานกินไข่ลวกเย็นๆ2ฟอง บะหมี่เกี๊ยวน้ำที่รอให้อืดและเย็น ชามเดียวกินได้2มื้อเลย ความเจ็บยังมี70% กินกล้วยหอม เยลลี่ อื่นๆ ตลอดทั้งวัน ตอนเย็นได้ราดหน้าเส้นใหญ่ไม่ผักไม่หมูแช่เส้นในน้ำราดหน้าให้เละๆไว้ก็ค่อยๆเคี้ยวกินอร่อยดีนะ
27ส.ค. เช้ากินไข่ลวกแช่เย็น ออกไปธุระซื้อของก็กินแต่น้ำเย็น กลับบ้านสามารถกินข้าวราดแกงจืดเต้าหู้ได้แล้วแต่เคี้ยวละเอียดจนเหลว เจ็บเท่าเดิม60% ตอนเย็นพาครอบครัวไปกินซูชิก็กินได้แต่หน้าปลาแซลมอนกับไข่กุ้งไข่หวานไข่ปลา ตัดออกเป็นคำเล็กๆค่อยๆเคี้ยวให้เหลวค่อยกลืน รวมๆแล้วกินไป4ก้อน สั่งข้าวหน้าปลาไหลมากินแต่พอเคี้ยวได้อยู่แต่ต้องระวังหนังปลาที่กรอบๆแล้วพอเจอสาหร่ายเส้นๆที่โรยหน้าก็ทำให้คันคอแล้วไอ
28ส.ค. วันอาทิตย์ ไปหาหมอหลังผ่า7วัน ผลการเพาะเชื้อทอนซิลที่ตัดไปจะไปเขียนไว้ตอนท้ายนะหมอบอกยังเจ็บอยู่ก็คือปกติ แผลดูดีไม่มีติดเชื้อ วันนี้ก็กินราดหน้าเส้นใหญ่ที่เหลืออยู่1ถุงแบ่งกินได้2รอบแน่ะ น้ำมะพร้าวปั่น โยเกิร์ต มะละกอสด ไอศรีม ความเจ็บน้อยลงอีกประมาณ50%
29ส.ค. กินผัดมักโรนีไส้กรอก ความเจ็บ40%เท่านั้น กลับบ้านไปก็ได้กินบัวลอยน้ำกะทิ อื้มมันดีมากนุ่มๆหวานๆ อิ่มแปร้ก่อนนอนเลย
30 ส.ค. วันนี้ความเจ็บเหลือ 30% กินแซนด์วิชครัวซอง กาแฟเย็น น้ำหวาน กีวี่สด กินปุ๊บแสบคอมากอาจจะเพราะมียาง แสบจนเหมือนแอลกอฮอล์ราดแผลกินน้ำเปล่าก็ไม่หายต้องควานหาลูกอมกะทิหวานๆมาอมถึงจะดีขึ้น วันนี้ลองไปฝึกโยคะดู ก็ทำได้กับเค้าทุกท่านะแต่หลังจากนั้นเวียนหัว กลับบ้านกินไอศครีมกับสาคูเปียกข้าวโพด2-3คำแล้วนอนเลย
31 ส.ค. กินข้าวกับเต้าหู้ทรงเครื่อง กล้วยหอม กาแฟเย็น น้ำหวาน เยลลี่ กินกล้วยเล็บมือนางแล้วแสบคอ ความเจ็บวันนี้50% เพราะกีวี่วันนั้นที่ทำให้แสบจนแผลกลับมาเจ็บมากขึ้นก็ได้ เลยหยิบยาแก้ปวดที่หมอให้ไว้มากินก่อนนอน
1 ก.ย. กินซาลาเปาหมูสับ วุ้นเส้นน้ำซุปผักเละๆ กาแฟปั่น น้ำส้ม น้ำเย็น ขนมจีบ วันนี้ไปโยคะไม่เวียนหัวแล้วแรงกลับมาดีเสร็จแล้วตบท้ายก่อนนอนด้วยขนมปังเย็นที่ใส่น้ำแข็งไสสีชมพู อ้อ...วันนี้กินยาแก้ปวดทุก6ช.ม.ช่วยบรรเทาความเจ็บ ตอนที่ยาหมดฤทธิ์เจ็บประมาณ40%
2ก.ย. ความเจ็บเหลือ30% แล้วดีใจจัง แต่ยังกินยาแก้ปวดมื้อเช้าไว้ก่อน วันนี้กินไข่ลวก2ฟอง ผัดมักโรนีไส้กรอก แล้วก็ขนมจีบ4ลูก บัวลอยเผือก ผัดหมี่ซั่ว ไส้กรอกชีส น้ำปั่น กาแฟปั่น
3ก.ย. เสาร์ที่เป็นวันเกิดแม่อ๋อยเช้ายังคงหาอะไรอ่อนๆนุ่มๆกินรองท้อง วันนี้ไม่ต้องกินยาแก้ปวดช่วยแล้วการส่งเสียงและความกลืนน้ำลายยากหายไปเยอะจนผิดหูผิดตาจนแทบจะไม่ต้องเทียบเป็น%แล้ว บ่ายพากันไปกินซิสเลอร์เจอร์ซอสบางชนิดที่เผ็ดๆหน่อยก็มีอาหารแสบคอหน่อยๆ อ่ะเราก็เลี่ยงไปจิ้มอย่างอื่นแต่ยังคงไม่กล้ากินเนื้อที่เหนียวๆอยู่ดีเพราะว่าไม่กล้ากลืนชิ้นใหญ่ๆผ่านคอ
4ก.ย.วันอาทิตย์นี้ไปหาหมอเช็คแผลรอบ2หลังผ่า หมอบอกว่าไม่ค่อยเห็นปื้นขาวที่เป็นตัวเคลือบแผลแล้วคิดว่าคุณหายเกือบหมดแล้วแหละ คราวนี้ก็ใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิมจ้า วันนี้ก็เลยได้ฟาดขนมจีนน้ำยากะทิปลาช่อนแบบไม่รู้สึกแสบซ่านแล้วแต่อาจจะมีคำแรกๆที่ยังไม่ชินจนสำลักไอหน่อยๆค่ะ
การนอนหลับ จากวันแรกที่ตื่นทุกๆ15นาที ก็หลับได้ยาวขึ้น แต่หลังจากกลับมาบ้านทุกครั้งที่ตื่นกลางดึกคือจะตื่นเพราะไอก็ต้องจิบน้ำเย็นๆแล้วนอนต่อมาถึงวันที่14หลังผ่า นอนหลับสนิทไม่ตื่นกลางดึกอีกแล้วค่ะ
ว่าด้วยเชื้อโรค ผลการเพาะเชื้อเนื้อทอนซิลไม่ปรากฏว่าเป็นเนื้องอกหรือเนื้อร้าย แต่พบเชิ้อโรคชนิดหนึ่งอาศัยอยู่มากผิดป
[CR] ประสบการณ์ผ่าต่อทอนซิล หมดปัญหากลิ่นลมหายใจเหม็น
เล่ายาวมากๆ ใครขี้เกียจอ่านไถข้ามเลยนะคะ หรือถ้าอยากไปดูภาพประกอบก็ตามในเฟสบุ้คเราได้ https://www.facebook.com/FBrasinee/posts/pfbid0WzQTiK4kY2iG93YvyEfa7hqFYcCw7hxmyrrdG9NoDHwZadWkeUHW7Njagupvtt7Dl
เราหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆที่กำลังหาข้อมูลรักษาอาการแบบเดียวกัน
ตอนนี้เราอายุ 42ปี เพศหญิง มีบุตรแล้ว เป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เกิด และมีอาการหอบหืดบ้าง
เพื่อนๆคงจะมีคำถามกันแน่ๆว่าทำไมถึงต้องผ่าทอนซิล??
จะขอเล่าแบ็คกราวน์ก่อนว่า เรามีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้และหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก ช่วงหลังดูแลความสะอาดไรฝุ่นดีมากเลยไม่หอบมานานกว่า2ปีแล้ว แต่ว่าอาการคัดจมูก เจ็บคอเป็นหวัดมีบ่อยมากๆ ยิ่งมามีฝุ่นPM.2.5 มีไวรัสโควิดระบาดยิ่งสังเกตุตัวเองว่าเจ็บคอเมื่อไรก็อาจจะเสี่ยงทำให้รู้ว่าเราเจ็บคอบ่อยถึงเกือบ20ครั้งใน2ปีเลย ระหว่างนั้นก็มีสัญญาณแปลกๆจากคนรอบตัวทำให้รู้สึกถึงกลิ่นจากลมหายใจของตัวเองอีกด้วย เอาหล่ะ การรักษาเริ่มขึ้นจากการไล่ตรวจทีละอย่าง
1.ฟันและช่องปาก ตรวจแล้วปกติและดีมาก
2.ไซนัส ไปหาหมอเฉพาะทาง คลีนิคที่เขาว่าดังและดี ผลไม่พบไซนัส ถามหมอว่าจะแก้อาการเหล่านี้ยังไว หมอบอกลองดื่มน้ำมากขึ้นบางทีน้ำในร่างกายน้อยไปก็อาจทำให้น้ำมูกและเสมหะเหนียวสะสมกลิ่นได้ ไอบ่อยได้ ก็ได้ยาปฏิชีวนะมากินเพื่อฆ่าเชื้อและลดอาการบวมของทอนซิน และดื่มน้ำเปล่ามากขึ้นถึงวันละ 2 ลิตร แต่ก็ยังกลับมาเจ็บคออีกในช่วงไม่เกิน 2เดือน
3.หาหมอหู ตา คอ จมูก ที่ร.พ.เอกชนชื่อ "นวเวช"คราวนี้หมอคงจะไม่คำนึงถึงbudgetของคนไข้หมอก็เลยบอกว่าถ้าเป็นถี่ขนาดนี้เขาเรียกว่า "ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง" แนะนำให้ผ่าทอนซิลครับ โห!นึกไม่ถึงเรื่องนี้เลยมันเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แว๊บขึ้นมาในหัวเลย ขอบคุณค่ะหมอ.....
จากนั้นก็มาอ่านหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าต่อมทอนซิลนี้ไปพร้อมๆกับรอให้ประกันพิจารณาว่าจะอนุมัติการผ่าตัดไหม(ประกันกลุ่มที่ทำกับบริษัทไทยสมุทรประกันภัย) ข้อมูลที่หามาได้ก็ลงคะแนนไปที่คำว่า "จงผ่า" 90% อีก10% คือว่าด้วยเรื่องของงบประมาณ
บริษัทประกันไม่อนุมัติวงเงินค่าผ่าตัดโดยให้เหตุผลว่ามีการรักษาโรคทำนองนี้มาก่อนที่จะทำประกัน (แหม ทีอย่างนี้ล่ะเช็คประวัติกูย้อนหลังละเอียดเชียว) งบค่าผ่าตัดของร.พ.นวเวชอยู่ที่ 5หมื่นบาท (ต่อให้ประกันอนุมัติวงเงินก็ไม่พออยู่ดี) เราเลยกลับมานั่งคิดว่าจะใช้ประกันสังคมผ่า แต่จะทำยังไงในเมื่อหมอประกันสังคมไม่เคยเอ่ยถึงแนวทางนี้เลย เราเลยต้องเริ่มต้นใหม่เพื่อให้การรักษาเฉพาะทางทอนซิลเรื้อรังของเรานี้เข้าในประวัติการรักษาประกันสังคม
เดือนมี.ค.2565 จึงได้เริ่มขอใบรับรองแพทย์และประวัติการรักษาจากร.พ.นวเวชมาหาหมอเฉพาะทางที่ร.พ.พญาไท นวมินทร์ แผนกประกันสังคม เขานัดคิวหมอหูตาคอจมูกให้วันที่17เม.ย.2565 พอมาพบหมอก็แสดงเอกสารพร้อมอธิบายเล่าเรื่องว่าเราได้รับคำแนะนำมาให้ผ่านะหมอก็เลยโอเคถ้าคนไข้ยืนยันแบบนั้นหมอก็จะลองพิจารณาส่งเรื่องให้ ตอนนี้เอายาปฏิชีวนะ+ยาสเตอรอยมากินแล้วดูผลอีกที 16พ.ค.
วันที่16พ.ค.2565ไปหาหมอเราใช้ลิ้นตวัดไปแตะๆทอนซิลดูก็รู้สึกว่ามันบวมอยู่ไม่เท่ากัน ข้างซ้ายจะปูดกว่าอีกข้าง หมอก็ดูคอเห็นว่าเออจริงในขณะที่มันไม่อักเสบ(ไม่รู้สึกเจ็บคอ)คนไข้ก็ยังมีต่อมทอนซิลบวมอยู่ซึ่งข้างซ้ายบวมกว่าขวานิดนึงด้วย ถ้าแบบนี้อาจจะเป็นเนื้องอกก็ได้นะ อ้าว!ซวยละกู จะรู้ได้ก็ต้องตัดออกมาก่อน ดังนั้นหมอฟันธงให้ว่าผ่าตัดตามที่คนไข้ประสงค์ครับ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกได้นะครับหมอก็อธิบายข้อดี-ข้อเสีย ผลข้างเคียง ความเสี่ยงที่จะมีในการผ่าอย่างละเอียด (ขอบคุณค่ะหมอ) เมื่อเราโอเคทีนี้ก็รอคิวผ่า "เนื่องจากใช้สิทธิประกันสังคมทำให้ต้องรอเตียงผ่าว่างก่อนและคิวยาวไปยันสิงหาคมเลยดังนั้นได้คิวแล้วใกล้ๆพยาบาลจะโทรหานะคะ"เสียงหวานๆพูดมา ทีนี้เราก็กลับมาแปะกระดาษไว้บนปฏิทินเดือนส.ค.
สิ้นเดือน ก.ค.แล้ว เอ๊ะทำไมพยาบาลยังไม่โทรมาอีกล่ะ ก็เลยโทรไปถามได้ความว่าอ้อ งั้นดูคิวให้เลยค่ะ คนไข้ได้คิว22ส.ค.2565นะคะ ก่อนผ่า1สัปดาห์มาพบแพทย์ก่อนนะคะ วันที่14ส.ค.2565ถึงเวลาพบหมอก่อนผ่าก็ส่องดูคออีกรอบหมอบอกว่าผ่านไป2-3เดือนแล้วความโตไม่ได้มากขึ้นคงจะไม่ใช่เนื้องอกแหละ โห...โล่งใจเลย หมอก็ทำใบนัดให้มาตรวจร่างกายก่อนผ่า2วัน และอธิบายสิ่งต่างๆที่จะเกิดระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัดให้ฟังอีกรอบ จากนั้นก็นับถอยหลัง เขียนใบลางาน เตรียมวางแผนการรับส่งและบอกเด็กๆพร้อมทั้งเตรียมใจเตรียมการหลังจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างผ่าตัดขึ้น
ก่อนผ่า2วันไปตรวจโควิด (RT-PCR) และตรวจเลือดหาHIV ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ กลับมารอผลเมื่อทุกอย่างผ่านก็ขึ้นเขียงวันจันทร์ที่ 22ส.ค.ได้เลย เชื่อมะอีการตรวจโควิดนี่มันลุ้นกว่าตรวจอย่างอื่นเลย 555
ต่อไปจะเข้าเรื่องตั้งแต่เริ่มผ่าถึงหลังผ่าละนะ
22 ส.ค. เวลาขึ้นเขียงคือ2ทุ่ม (เตียงว่างแต่กลางคืน) พอรู้ว่าเดี๋ยวต้องอดอาหารและน้ำตั้งแต่เที่ยงเลยจัดหนักมื้อเที่ยงด้วยก๋วยเตี๋ยว1 ข้าวกระเพราเนื้อ1 กาแฟหวานๆ1 อิ่มล้นคอหอยไปร.พ. จากนั้นพยาบาญก็มาคุยเรื่องห้องพักว่าจะจ่ายเพิ่มเอาห้องเดี่ยวไหม เราเอาด้วยค่าส่วนต่างที่ 3,300บาท นอนคืนเดียวจ่ายได้แหละ เรียบร้อยแล้วก็ไปเจาะสายน้ำเกลือ เข็ญรถพาไปห้องพัก นอนเล่นรอเวลา 18.30มาพาไปนอนรอหน้าห้องผ่าตัดตอนนั้นมีผู้ชายผ่าอยู่เราเป็นคนที่2 นอนรอจนหลับได้เวลา 2ทุ่มก็เข็นพาเข้าห้องผ่า ตอนนั้นหิวน้ำคอแห้ง ห้องผ่ากว้างและหนาวมาก น่าจะเพราะตื่นเต้นมากสั่นๆเลย แล้วเค้าก็เอาสายสารพัดอย่างมาแปะหน้าอก คล้องหัว แล้ววิสัญญีแพทย์(หมอดมยา)คนสวย สวยจริงๆนะอย่างกับเน็ตไอดอล ก็มาบอกว่าจะให้หลับแล้วนะคะสูดหายใจลึกๆนะคะ ที่ครอบอ๊อกซิเจนก็มาตรงหน้าพร้อมกับมีน้ำแสบๆไหลเข้าในแขนข้างที่เจาะสายน้ำเกลือ แล้วก็ได้ยินเสียงถามว่าเป็นยังไงบ้างคะเจ็บไหม อ้าว! ผ่าเสร็จแล้ว
ระหว่างที่บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องพัก มีคนเปิดประตูให้เป็นสามี และแว๊บเห็นนาฬิกาบนกำแพงเวลา 4ทุ่มแต่จำไม่ได้ว่ากี่นาที คือสลบไป2ช.ม.เหมือน 1วิ แ้ล้วตอนนั้นก็รู้สึกตัวว่าผ่าเสร็จแล้วจริงๆสินะเพราะเจ็บคอมากเหมือนมีมีดปักคาไว้ในคอตรงส่วนสูงๆที่ไม่ใช่แถวลิ้นไก่ที่ไม่เหมือนเวลาก้างปลาไปติด แต่ไม่เวียนหัวไม่คลื่นไส้ มีแค่เจ็บคอเท่านั้นและหิวน้ำมากเรียกขอกินน้ำก่อนเลย ความที่ยังไม่กล้าดูดเลยใช้หลอดหยดน้ำเข้าปากดูก่อน โอ้โห แม่เจ้า นี่เหรอความผ่าตัดทอนซิล กลืนไม่ลงเลยจ้า แต่กลืนได้นะแค่ต้องฝืนทน ส่วนแผลและความเรียบร้อยของการผ่า หมอบอกว่าทุกอย่างจบสวยรอดูอาการอีก 24ช.ม.ครับไม่มีเลือดออกผิดปกติก็กลับได้ ระหว่างนี้กินเย็นๆ น้ำๆ เท่านั้นนะครับ อาหารของเราหลังจากนั้นก็คือน้ำและน้ำหวานและน้ำผลไม้และน้ำซุปและน้ำข้าว คืนนั้นทั้งคืนนอนหลับๆตื่นๆทุก ๆ 15นาที เพราะความเจ็บ เรียกกินน้ำเกือบทั้งคืนเลย แต่ก็ยังไม่กล้ากลืนแรงๆอยู่ดี
23ส.ค.2565 เช้านอนไม่หลับแล้วก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า อ้าปากแปรงฟันได้ไม่เจ็บเลยเพราะมันเจ็บข้างในคอลึกๆลึกมากๆ เสร็จแล้วก็มานั่งคิดหิวว่ะ จะกินไรดี สามีบอกในตู้เย็นมีน้ำผลไม้กล่อง ก็ดูดปรื๊ดกลืนป๊าบแสบวาบดั่งมีดกรีด โอ้มายก้อด! ต่อมาอาหารเช้าของ ร.พ.มื้อแรกคือน้ำข้าวแบบกรองมาซะไม่เหลือกากแม้แต่นิดแล้วก็แช่เย็นมา1ถ้วย กับน้ำซุปสีเหลืองทองแช่เย็นมาอีก1ถ้วย แถมน้ำเก๊กฮวยเย็น1ขวด เอาหลอดจิ้มใส่ถ้วยดูดกินไป กลืนได้กลืนกลืนไม่ได้อมไว้ก่อนตอนนั้น 555 ส่วนมือเที่ยงและมื้อเย็นไม่ต้องถาม เหมือนมื้อเช้าค่ะ อ้อ...ระหว่างวันนั้นนอนหลับแต่ก็ตื่นบ่อยเพราะมันเจ็บแล้วเหมือนหายใจไม่คล่องยังไงไม่รู้ เลยนอนไม่อิ่มเลย 4โมงเย็นหมอมาดูแผลแล้วบอกว่าดีครับ กลับได้ โอเคค่ะหมอ ก่อนออกจากร.พ.และซื้อช๊อกโกแลตปั่นไปดูดกินแก้หิวเพราะเคยไปอ่านเจอว่าคออักเสบให้กินช๊อคเย็น อิอิ เข้าทางเลย
บันทึกความเปลี่ยนแปลงหลังผ่า
วันที่1(23ส.ค.) กินน้ำข้าวแช่เย็นน้ำซุปเย็นของร.พ. ความเจ็บเต็ม100%
วันที่2(24ส.ค.) พักฟื้นที่บ้าน กินข้าวต้มบดละเอียดแช่เย็น เยลลี่เย็นๆ ไอศครีม ความเจ็บ90% พูดเสียงเบามากเพราะกลัวเจ็บ ก้านคอซ้ายขวาปวดเมื่อยซึ่งน่าจะมาจากท่าทางนอนตอนผ่า เห็นสเก็ดแผลรอบปากชัดขึ้นน่าจะได้จากการใส่เครื่องมือ หลับได้นานขึ้นกว่าวันแรก
25ส.ค. ไปทำงานหลังพักฟื้นวันแรก อาการเวียนหัวเมารถเกิด(สงสัยผลข้างเคียงยาสลบ) ตอนเช้านั่งรถมาได้แต่ดื่มนมกับดูดเยลลี่ เอาวุ้นเส้นในน้ำซุปกับผักเละๆมากินเป็นมื้อเที่ยง อุ่นด้วยเวฟให้นุ่มแล้ววางไว้ให้เย็นค่อยกิน หิวก็บรรเทาด้วยเยลลี่ นม น้ำหวาน ความเจ็บยัง80% ไม่กล้าใช้เสียงเยอะกลืนน้ำลายเจ็บอยู่มาก
26ส.ค. ไปทำงานกินไข่ลวกเย็นๆ2ฟอง บะหมี่เกี๊ยวน้ำที่รอให้อืดและเย็น ชามเดียวกินได้2มื้อเลย ความเจ็บยังมี70% กินกล้วยหอม เยลลี่ อื่นๆ ตลอดทั้งวัน ตอนเย็นได้ราดหน้าเส้นใหญ่ไม่ผักไม่หมูแช่เส้นในน้ำราดหน้าให้เละๆไว้ก็ค่อยๆเคี้ยวกินอร่อยดีนะ
27ส.ค. เช้ากินไข่ลวกแช่เย็น ออกไปธุระซื้อของก็กินแต่น้ำเย็น กลับบ้านสามารถกินข้าวราดแกงจืดเต้าหู้ได้แล้วแต่เคี้ยวละเอียดจนเหลว เจ็บเท่าเดิม60% ตอนเย็นพาครอบครัวไปกินซูชิก็กินได้แต่หน้าปลาแซลมอนกับไข่กุ้งไข่หวานไข่ปลา ตัดออกเป็นคำเล็กๆค่อยๆเคี้ยวให้เหลวค่อยกลืน รวมๆแล้วกินไป4ก้อน สั่งข้าวหน้าปลาไหลมากินแต่พอเคี้ยวได้อยู่แต่ต้องระวังหนังปลาที่กรอบๆแล้วพอเจอสาหร่ายเส้นๆที่โรยหน้าก็ทำให้คันคอแล้วไอ
28ส.ค. วันอาทิตย์ ไปหาหมอหลังผ่า7วัน ผลการเพาะเชื้อทอนซิลที่ตัดไปจะไปเขียนไว้ตอนท้ายนะหมอบอกยังเจ็บอยู่ก็คือปกติ แผลดูดีไม่มีติดเชื้อ วันนี้ก็กินราดหน้าเส้นใหญ่ที่เหลืออยู่1ถุงแบ่งกินได้2รอบแน่ะ น้ำมะพร้าวปั่น โยเกิร์ต มะละกอสด ไอศรีม ความเจ็บน้อยลงอีกประมาณ50%
29ส.ค. กินผัดมักโรนีไส้กรอก ความเจ็บ40%เท่านั้น กลับบ้านไปก็ได้กินบัวลอยน้ำกะทิ อื้มมันดีมากนุ่มๆหวานๆ อิ่มแปร้ก่อนนอนเลย
30 ส.ค. วันนี้ความเจ็บเหลือ 30% กินแซนด์วิชครัวซอง กาแฟเย็น น้ำหวาน กีวี่สด กินปุ๊บแสบคอมากอาจจะเพราะมียาง แสบจนเหมือนแอลกอฮอล์ราดแผลกินน้ำเปล่าก็ไม่หายต้องควานหาลูกอมกะทิหวานๆมาอมถึงจะดีขึ้น วันนี้ลองไปฝึกโยคะดู ก็ทำได้กับเค้าทุกท่านะแต่หลังจากนั้นเวียนหัว กลับบ้านกินไอศครีมกับสาคูเปียกข้าวโพด2-3คำแล้วนอนเลย
31 ส.ค. กินข้าวกับเต้าหู้ทรงเครื่อง กล้วยหอม กาแฟเย็น น้ำหวาน เยลลี่ กินกล้วยเล็บมือนางแล้วแสบคอ ความเจ็บวันนี้50% เพราะกีวี่วันนั้นที่ทำให้แสบจนแผลกลับมาเจ็บมากขึ้นก็ได้ เลยหยิบยาแก้ปวดที่หมอให้ไว้มากินก่อนนอน
1 ก.ย. กินซาลาเปาหมูสับ วุ้นเส้นน้ำซุปผักเละๆ กาแฟปั่น น้ำส้ม น้ำเย็น ขนมจีบ วันนี้ไปโยคะไม่เวียนหัวแล้วแรงกลับมาดีเสร็จแล้วตบท้ายก่อนนอนด้วยขนมปังเย็นที่ใส่น้ำแข็งไสสีชมพู อ้อ...วันนี้กินยาแก้ปวดทุก6ช.ม.ช่วยบรรเทาความเจ็บ ตอนที่ยาหมดฤทธิ์เจ็บประมาณ40%
2ก.ย. ความเจ็บเหลือ30% แล้วดีใจจัง แต่ยังกินยาแก้ปวดมื้อเช้าไว้ก่อน วันนี้กินไข่ลวก2ฟอง ผัดมักโรนีไส้กรอก แล้วก็ขนมจีบ4ลูก บัวลอยเผือก ผัดหมี่ซั่ว ไส้กรอกชีส น้ำปั่น กาแฟปั่น
3ก.ย. เสาร์ที่เป็นวันเกิดแม่อ๋อยเช้ายังคงหาอะไรอ่อนๆนุ่มๆกินรองท้อง วันนี้ไม่ต้องกินยาแก้ปวดช่วยแล้วการส่งเสียงและความกลืนน้ำลายยากหายไปเยอะจนผิดหูผิดตาจนแทบจะไม่ต้องเทียบเป็น%แล้ว บ่ายพากันไปกินซิสเลอร์เจอร์ซอสบางชนิดที่เผ็ดๆหน่อยก็มีอาหารแสบคอหน่อยๆ อ่ะเราก็เลี่ยงไปจิ้มอย่างอื่นแต่ยังคงไม่กล้ากินเนื้อที่เหนียวๆอยู่ดีเพราะว่าไม่กล้ากลืนชิ้นใหญ่ๆผ่านคอ
4ก.ย.วันอาทิตย์นี้ไปหาหมอเช็คแผลรอบ2หลังผ่า หมอบอกว่าไม่ค่อยเห็นปื้นขาวที่เป็นตัวเคลือบแผลแล้วคิดว่าคุณหายเกือบหมดแล้วแหละ คราวนี้ก็ใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิมจ้า วันนี้ก็เลยได้ฟาดขนมจีนน้ำยากะทิปลาช่อนแบบไม่รู้สึกแสบซ่านแล้วแต่อาจจะมีคำแรกๆที่ยังไม่ชินจนสำลักไอหน่อยๆค่ะ
การนอนหลับ จากวันแรกที่ตื่นทุกๆ15นาที ก็หลับได้ยาวขึ้น แต่หลังจากกลับมาบ้านทุกครั้งที่ตื่นกลางดึกคือจะตื่นเพราะไอก็ต้องจิบน้ำเย็นๆแล้วนอนต่อมาถึงวันที่14หลังผ่า นอนหลับสนิทไม่ตื่นกลางดึกอีกแล้วค่ะ
ว่าด้วยเชื้อโรค ผลการเพาะเชื้อเนื้อทอนซิลไม่ปรากฏว่าเป็นเนื้องอกหรือเนื้อร้าย แต่พบเชิ้อโรคชนิดหนึ่งอาศัยอยู่มากผิดป
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้