เห็นบางคอมเมนท์จากบางกระทู้พูดถึงการสวดมนต์ว่า..หากไม่รู้ความหมาย ก็เสียเวลาเปล่าๆ
มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?
ผมเห็นต่างว่า ..แม้ไม่รู้ความหมายก็ยังมีประโยขน์ครับ
กล่าวอย่างย่อ..
หลักปฏิบัติในไตรสิกขาที่เราทราบกันอยู่ทั่วไปคือ.. ทาน ศีล ภาวนา
หลักในบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ..ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย
การภาวนาถือว่าเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากที่สุดและมีอานิสงส์สูงกว่า ทาน และ ศีล
การภาวนา มี ๒ อย่างคือ..สมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา
การสวดมนต์จัดอยู่ใน สมถภาวนา
แม้เราจะไม่รู้ความหมายของบทที่สวดก็ตาม แต่กระทำในใจโดยแยบคายน้อมไปในบทสวดนั้น
ก็มีอานิสงส์ให้ใจสะอาด สว่าง สงบได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
อีกทั้งยังเป็นบาทฐานช่วยส่งเสริมเกื้อหนุนให้สามารถเจริญวิปัสสนาภาวนาได้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นด้วย
เหตุผลสั้นๆแค่นี้ ก็มากเกินพอแล้ว..
แค่สงสัย..การสวดมนต์โดยไม่รู้ความหมาย เป็นการเสียเวลาเปล่าๆจริงหรือ?
มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?
ผมเห็นต่างว่า ..แม้ไม่รู้ความหมายก็ยังมีประโยขน์ครับ
กล่าวอย่างย่อ..
หลักปฏิบัติในไตรสิกขาที่เราทราบกันอยู่ทั่วไปคือ.. ทาน ศีล ภาวนา
หลักในบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ..ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย
การภาวนาถือว่าเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากที่สุดและมีอานิสงส์สูงกว่า ทาน และ ศีล
การภาวนา มี ๒ อย่างคือ..สมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา
การสวดมนต์จัดอยู่ใน สมถภาวนา
แม้เราจะไม่รู้ความหมายของบทที่สวดก็ตาม แต่กระทำในใจโดยแยบคายน้อมไปในบทสวดนั้น
ก็มีอานิสงส์ให้ใจสะอาด สว่าง สงบได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
อีกทั้งยังเป็นบาทฐานช่วยส่งเสริมเกื้อหนุนให้สามารถเจริญวิปัสสนาภาวนาได้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นด้วย
เหตุผลสั้นๆแค่นี้ ก็มากเกินพอแล้ว..