**********
สรุปความเห็นส่วนตัว: ปัจจุบันราคา WTI อยู่ที่ประมาณ 82.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามความเห็นที่ 1
ทิศทางน้ำมันปรับมุมมองเป็น ระดับราคาWTI น้ำมันดิบ จะอยู่ที่ 80+-10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจาก ฝั่งของผู้ต้องการให้น้ำมันลงเหมือนจะมีกำลังมากกว่า ผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าแม้ OPEC+ จะลดกำลังการผลิตลงแต่ราคาน้ำมันระดับราคาเพิ่มขึ้นได้ไม่นาน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจะมีตอบสนองจากฝั่งที่ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม มีการปรับลดกำลังการผลิตอีกถ้าระดับราคาอยู่ต่ำลงไปกว่า 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผู้ต้องการให้น้ำมันลง เช่น รัฐบาลสหรัฐ เพื่อลดเงินเฟ้อ
ผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น เช่น ผู้ผลิตน้ำมัน บริษัทน้ำมัน
อนึ่งจากการดูข้อมูลการนำเข้าของจีนตามความเห็นที่ 2 พบว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงจากเดือนเดียวกับของปีที่แล้ว แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
(ไม่รับรองเรื่องกรอบราคานะครับ เพราะแม้กระทั่ง ข่าววิเคราะห์การราคาน้ำมันจากหลายที่เท่าที่อ่านยังมีความเห็นที่แตกต่างกันครับ)
**********
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของ WTI ร่วงลงต่ำกว่า 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพุธ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซาและค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้นยังคงมีค่ามากกว่าความเป็นไปได้ที่อุปทานจะหยุดชะงักต่อไป
*****ข้อมูลศุลกากรที่อ่อนแอจากจีน (ผู้นำเข้าอันดับต้น ๆ) และการต่ออายุข้อจำกัดที่เกิดจาก coronavirus ในหลายเมืองคุกคามความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมและการใช้เชื้อเพลิงที่ลดลง ยิ่งไปกว่านั้น ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวเป็นระยะเวลานานขึ้นยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่า กลุ่ม OPEC+ ตกลงโดยไม่คาดคิดว่าจะลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณการดำเนินการเพิ่มเติม
https://tradingeconomics.com/commodity/crude-oil
http://english.customs.gov.cn/statics/report/preliminary2021.html
ราคาน้ำมันดิบลดลงกับข้อมูลการนำเข้าของจีน
สรุปความเห็นส่วนตัว: ปัจจุบันราคา WTI อยู่ที่ประมาณ 82.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามความเห็นที่ 1
ทิศทางน้ำมันปรับมุมมองเป็น ระดับราคาWTI น้ำมันดิบ จะอยู่ที่ 80+-10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจาก ฝั่งของผู้ต้องการให้น้ำมันลงเหมือนจะมีกำลังมากกว่า ผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าแม้ OPEC+ จะลดกำลังการผลิตลงแต่ราคาน้ำมันระดับราคาเพิ่มขึ้นได้ไม่นาน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจะมีตอบสนองจากฝั่งที่ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม มีการปรับลดกำลังการผลิตอีกถ้าระดับราคาอยู่ต่ำลงไปกว่า 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผู้ต้องการให้น้ำมันลง เช่น รัฐบาลสหรัฐ เพื่อลดเงินเฟ้อ
ผู้ต้องการให้น้ำมันขึ้น เช่น ผู้ผลิตน้ำมัน บริษัทน้ำมัน
อนึ่งจากการดูข้อมูลการนำเข้าของจีนตามความเห็นที่ 2 พบว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงจากเดือนเดียวกับของปีที่แล้ว แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
(ไม่รับรองเรื่องกรอบราคานะครับ เพราะแม้กระทั่ง ข่าววิเคราะห์การราคาน้ำมันจากหลายที่เท่าที่อ่านยังมีความเห็นที่แตกต่างกันครับ)
**********
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของ WTI ร่วงลงต่ำกว่า 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพุธ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซาและค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้นยังคงมีค่ามากกว่าความเป็นไปได้ที่อุปทานจะหยุดชะงักต่อไป
*****ข้อมูลศุลกากรที่อ่อนแอจากจีน (ผู้นำเข้าอันดับต้น ๆ) และการต่ออายุข้อจำกัดที่เกิดจาก coronavirus ในหลายเมืองคุกคามความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมและการใช้เชื้อเพลิงที่ลดลง ยิ่งไปกว่านั้น ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวเป็นระยะเวลานานขึ้นยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่า กลุ่ม OPEC+ ตกลงโดยไม่คาดคิดว่าจะลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณการดำเนินการเพิ่มเติม
https://tradingeconomics.com/commodity/crude-oil
http://english.customs.gov.cn/statics/report/preliminary2021.html