Tuva รหัสลับชนเผ่ารัสเซียที่ใช้ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

.


กระทรวงกลาโหมยูเครนได้กล่าวถึง
ปรากฏการณ์ทูวา 
ที่หน่วยข่าวกรองกองทัพยูเครนเผชิญอยู่
เจ้าหน้าที่ทหารยูเครนกำลังเผชิญกับปัญหา
ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในการลักลอบดักฟังข่าว
เพราะกองทหารรัสเซียใช้ภาษาชนเผ่า Tuva
ในการติดต่อสื่อสารทางวิทยุสื่อสารมากขึ้น
เรื่องนี้ถูกรายงานโดยกระทรวงกลาโหมยูเครน

รัสเซียเป็นประเทศข้ามชาติที่มีอาณาเขต
ที่หลากหลายเชื้อชาติ/ชนเผ่าอาศัยอยู่
มีประเพณีวัฒนธรรมและภาษาของตนเอง
ชนเผ่าเหล่านี้ยังเป็นทหารในกองทัพรัสเซีย
และเข้าร่วมปฏิบัติการรบพิเศษในสงคราม

ภาษารัสเซียทึ่ใช้เป็นหลักในกองทัพรัสเซีย
เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในหมู่ศัตรูภายนอก
เพราะเป็นภาษาพื้นเมืองอีกภาษาของยูเครน
แต่การใช้ภาษา Tuva ไม่เป็นที่รู้จักกันในยูเครน
มีการใช้ภาษา Tuva ในการติดต่อสื่อสาร
ทางวิทยุสื่อสารแทนการใช้ภาษารัสเซีย
เพราะการใช้ภาษารัสเซียทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้

ดังนั้น ทางกองทัพรัสเซียจึงตัดสินใจ
ใช้ทหารในกองทัพที่รู้ภาษาอื่นในการสื่อสาร
หน่วยข่าวกรองของยูเครนพบกับ  ปรากฏการณ์ Tuva
เพราะทางการทหารยูเครนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ในการถอดรหัสข้อความจากกองทหารรัสเซีย
ที่ติดต่อสื่อสารระหว่างกันในเขตพื้นที่การสู้รบ

เพราะภาษาสื่อสารที่ติดต่อกันในสนามรบ
จัดส่งข้อความกันโดยทหารชาว Tuva
จากสาธารณรัฐ Tuva (หรือ Tuvan เดิม)
ซึ่งส่งข้อความในภาษา Tuva 
ตามรายงานในแผนกทหาร
ผู้ฟังฝั่งยูเครนไม่เข้าใจคำในข้อความ

" เราใช้ภาษาประจำชาติของเรา คือ Tuva
เพื่อที่ว่าในกรณีที่มีการดักฟังทางวิทยุสนาม
ศัตรูจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังพูดอยู่ได้ 
และเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้  ก็เคยใช้ใน
Great Patriotic War  ในยุคทวดของสงคราม " 
Nikolai Chamyan อาจารย์ประจำแผนกสื่อสาร

เป็นที่น่าสังเกตว่า นี่ไม่ใช่กรณีแรก
ที่กระทรวงกลาโหมยูเครนได้กล่าวถึง
เพราะก่อนหน้านี้ ทหารยูเครนก็ได้พูดถึง
ผู้ส่งจาก Buryatia ในการสื่อสาร
ผู้ส่งสัญญาณจากสาธารณรัฐแห่งนี้
(มีศาสนาพุทธนิกายตันตระประจำชาติ
ศพพระภิกษุรัสเซียไม่เน่าตั้งแต่ปี 2470)
ใช้ภาษาของตนเองอย่างแข็งขัน
ในการสื่อสารผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
ทำให้หน่วยสืบราชการลับของยูเครนเข้าใจผิด
.

---

.
ในสงครามโลกครั้งที่ 2
การปฏิบัติการของนาวิกโยธินสหรัฐ
ที่สำคัญทั้งหมดในมหาสมุทรแปซิฟิก
ตั้งแต่ปี 1942-1945 ในการรบกับญี่ปุ่น
การติดต่อสื่อสารทางวิทยุสนาม/ในสนามรบ
จะใช้ภาษาของ Navajo แบบเข้ารหัส
รายงานทั้งหมดถูกส่งทางวิทยุสนาม/เอกสาร
เป็นภาษาแม่ของชนเผ่านี้เท่านั้น

แนวคิดในการใช้ภาษานาวาโฮ
ถูกเสนอครั้งแรกโดย Philip Johnston
ผู้มีประสบการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 1
และแนวคิดนี้ได้รับการทดสอบเข้ารหัสลับ
ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุโรป
เมื่อสมาชิก 8 คนของชนเผ่า Choctaw
ทำหน้าที่เป็นผู้เข้ารหัสในสงครามโลกครั้งที่ 1

นักเข้ารหัสของนาวาโฮ
ยังใช้ลูกเล่นบางอย่างในการทำงาน เช่น
เรือดำน้ำ คือ  ปลาเหล็ก (besh-lo)
หมวด คือ  แกะดำ (dibe-li-zini)
เพราะคำนี้ไม่มีในภาษานาวาโฮมาก่อน
ทั้งยังใช้หลักการเข้ารหัสแบบอื่น ๆ
ในระหว่างการติดต่อสื่อสาร
เมื่อถอดรหัสข้อความในภาษานาวาโฮ
จะใช้อักษรตัวแรกของคำที่แปลเท่านั้น
ความหายากของภาษา Navajo
ทำให้กองทัพสหรํฐอเมริกา
ใช้ส่งข้อความลับผ่านทางวิทยุสนาม/เอกสาร
.

---

.
กองทัพเรือญี่ปุ่นก็เคยใช้ภาษาถิ่น
Satsuma (บ้านเกิดกองทัพเรือญี่ปุ่น)
มาแปลงเป็นรหัสลับในยุทธนาวี
เพราะการออกเสียงไม่เหมือนภาษาญี่ปุ่น
มีรูปแบบแตกต่างจากภาษาญี่ปุ่นระดับหนึ่ง
พอกองทัพสหรัฐอเมริกาเจอข้อความภาษานี้
ก็งงกับใบแดxเหมือนกันกับที่ญี่ปุ่น
ที่เจอกองทัพสหรัฐใช้ภาษา Navajo
Credit : Markrura
.

---

.

Osama bin Laden หัวหน้ากลุ่ม al-Qaeda
ก็ใช้หลักการ Lowtech ต่อกรสู้กับ Hightech
โดยอยู่ในที่ทึ่อันตรายที่สุด กลับปลอดภัยที่สุด
บ้านพักอยู่ใกล้กับค่ายทหารปากีสถาน
เลี้ยงไก่ในบ้าน 100 กว่าตัว วัวนม 1 ตัว
ปลูกผักปลูกผลไม้ไว้กินเองส่วนหนึ่ง
ขยะในบ้านทุกชนิดจะเผาทิ้งภายในบ้าน
ไม่มีการติดต่อพูดคุยสุงสิงกับคนละแวกบ้าน
มีแค่พี่น้องสองคนที่คอยซื้อข้าวของเข้าบ้านพัก
ลูกชายลูกสาวของตนเองกับของสองพี่น้อง
ใช้ระบบการเรียน Homeschool ภายในบ้าน
เลยหยบ(หลบ)ได้นานเพราะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน

ในบ้านไม่มีโทรศัพท์พื้นฐาน Internet
CableTv Mobilephone ปัองกันการติดตาม
มีแค่จานดาวเทียมไว้รับชมรายการโทรทัศน์
PC Stanalone ไว้พิมพ์คำสั่งการเข้ารหัส
Save ลงใน Flashdrive นำไปใช้งานนอกบ้าน
มีเครื่องเล่น CD VCD DVD กับแผ่นต่าง ๆ
การติดต่อสั่งการเครือข่ายทุกอย่าง
จะมอบหมายให้พี่น้องสองคนเดินทางเข้าเมือง
ที่มีระยะทางห่างถึง 40 กว่ากิโลเมตร
เข้าไปใช้บริการร้าน InternetCafe
ผ่านเครือข่าย DarkWeb เฉพาะคนในวงการ
การตรวจจับจึงทำได้ยากมากกว่าอยู่ที่ไหน
โชคดีที่สายลับสหรัฐฯ จำหน้าสองพี่น้องได้
จึงลอบสะกดรอยจนจ๊ะแอ๋กับบ้าน bin Laden
แต่กว่าจะลงมือจัดการได้ก็ใช้เวลานานเช่นกัน
อดีตหัวหน้า CIA เล่าเรื่องการไล่ล่า bin Laden

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/3cI79EJ
https://bit.ly/3cI5cIp
https://bit.ly/2JQcZkT
https://bit.ly/3AQxUi2
.

---

.


เรื่องเล่าไร้สาระ


รหัสลับในการติดต่อสื่อสารของทหาร
ในยุคสงครามประชาชนของ ทปท. พคท.
(กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย)
หรือสงครามทหารรับจ้างไทยในลาว เวียดนาม
ในการใช้วิทยุสื่อสารมักใช้ภาษาถิ่น เช่น
ม้ง กะเหรี่ยง ไทใหญ่ นายู อีศาน เขมร ญวน
เพราะถอดคำสั่งต่าง ๆ ได้เลยง่าย ๆ
ส่วนฝ่ายตรงข้ามต้องหาคนรู้ภาษามาถอดคำ
จะทำให้เสียเวลามากในการหาคนรู้ภาษา

นอกจากนั้นยังมีรหัสลับคำสั่งพื้นฐาน
เช่น บุก คือ ถอย รุก คือ รับ ซ้าย คือ ขวา ฯลฯ
โดยมีการตกลงกันเบื้องต้นในหน่วยรบ
ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่/ทหารไทยสับสน

รองลงมาคือ การก่อกวนสงครามจิตวิทยา
ในอดีตนาฬิกาพกเป็นยุทธปัจจัยอย่างหนึ่ง
ร้านขายนาฬิกาต้องลงทะเบียนคนซื้อนาฬิกา
(นาฬิกาพกราคาแพง/หายากในสมัยนั้น
พอของจีนแดงราคาถูกเข้ามาเลยยกเลิกไป)

พวกคอมมี่จะใช้โปรดเตรียมเทียบเวลา
ของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
ในเวลา 20.00 น. กับ 24.00 น. แทนนาฬิกา
ในการนัดพร้อมเข้าบุกฐานที่มั่นทางการ
หรือก่อกวนด้วยการยิงฐานที่มั่นทางการ
ทำท่าจะบุกแต่ไม่บุกแต่อย่างใด
ทำหลาย ๆ วันจนฝ่ายตั้งรับชะล่าใจ
ก็ถือโอกาสบุกจริง ๆ จัง ๆ ซะเลย
.

---

.

ในปี 2521
ฝ่ายคอมมี่อินโดจีน มี ลาว เวียดนาม กัมพูชา
ฝักใฝ่ฝ่ายรัสเซียไม่ถูกกับคอมมี่จีน
คอมมี่ไทยที่ฝักใฝ่ฝ่ายจีน
เลยถูกเตะตัดขาไร้ฐานที่มั่นแนวหลัง
เพราะถูกขับไล่ออกจาก 3 ประเทศนี้
การส่งเสบียงกรัง/อาวุธจึงด้อยลงไปมาก
นำไปสู่การพ่ายแพ้ในแนวรบ/ฐานที่มั่นหลายแห่ง

ในปี 2522
จีนแดงปิดที่ตั้งสถานีวิทยุ SW ที่คุนหมิง
สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท)
ที่กระจายเสียงเผยแพร่แนวคิดคอมมี่
ยุคนายธง แจ่มศรี เลขาธิการพรรคคอมมี่

ในปี 2523
มีคำสั่งที่ 66/23 ของป๋าเปรม ติณสูลานนท์
ที่ให้คอมมี่ทุกคนมารายงานตัวกับทางการ
ถือว่าไม่มีความผิดใดใดในคดีอาญา
นิสิตนักศึกษาก็ให้กลับเข้าเรียนต่อได้
ไม่ถือว่าถูก Retired แต่อย่างใดในช่วงเข้าป่า

แต่ต้นคิดคำสั่ง 66/23
คือ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
ที่ลาออกในเดือนมีนาคม 2523
แล้วป๋าเปรมรับช่วงต่อประกาศในเดือนเมษายน

พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ คือ
นายกรัฐมนตรีคนแรกในระบบรัฐสภา
ที่ริเริ่มนิรโทษกรรมสุดซอยคดี 6 ตค.2519
ไม่มีความผิดทั้ง ผู้สั่ง ผู้ทำ ผู้รับกรรม ผู้ติดคุก
แต่สมัย นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้ว่าจะถอนพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยแล้ว
ก็ยังโดนพวกผ่ารัฐ Coup d'etat รัฐประหาร

ในปี 2525
มีพรบ.นิรโทษกรรมนักรบคอมมี่ทุกคน
ทำให้สงครามระหว่างคนไทยยุติลงโดยปริยาย
แล้วพรรคคอมมี่แตกแยกกันจนล่มสลาย
แบบ Convert อยู่เมืองมากกว่าเข้าป่า

ในปี 2527
มีนายธง แจ่มศรี เป็นเลขาธิการพรรคคนสุดท้าย
เคลื่อนไหวอยู่ในเขตป่าตะนาวศรี
ก่อนออกจากป่ามาอยู่ในนครปฐมราวปี 2536

ในปี 2560 ได้แต่งตั้งนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
เป็นสมาชิกพรรคคอมมี่ก่อนตายในปี 2562
พร้อมอุดมการณ์ยึดมั่นจนวันตาย
ทุกข์อยู่หน้า สุขอยู่หลัง
ถูกจับหลายครั้งก็ไม่ขายตัว

ต่อมาในปี 2532
จีนเป็ง เลขาธิการพรรคคอมมี่มลายา
อับดุลลาห์ ซิดี ประธานพรรคคอมมี่มลายา
มีการเจรจาสงบศึกกับมาเลย์ที่หาดใหญ่
ที่ห้องประชุมโรงแรมลีการ์เดนส์ สายหนึ่ง
ส่วนโรงแรมลีการ์เดนส์ สายสี่ (อีกหลังหนึ่ง)
ถูกโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนวางระเบิด
ที่ติดตั้งเวลาในรถยนต์ติดแก๊ส LPG
ระเบิดในที่จอดรถยนต์ชั้นใต้ดิน
แต่โครงสร้างอาคารไม่ถึงกับทรุดตัวลง
หาดใหญ่ทุกวันนี้ รถยนต์ติดแก๊สห้ามเข้าจอด
ภายในอาคารสาธารณะ โรงแรม ห้างฯ

แต่ก่อนการเจรจา 3 เส้า(ไทย นายู คอมมี่)
พวกคอมมี่มลายาก็ฆ่ากันเองมากกว่า 200 ศพ
ข้อหาทรยศอุดมการณ์คอมมี่มลายา
ในกลุ่มยอมเจรจากับกลุ่มจับอาวุธสู้ต่อไป