อดีตหัวหน้า CIA เล่าเรื่องการไล่ล่า Bin Laden

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Minutes felt like hours in bin Laden rai
.
.


2 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบปีที่ 5
ของการติดตามไล่ล่าฆ่า Osama Bin Laden
ผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐต้องการตัวมากที่สุดในโลก
การตายของ Bin Laden คือ เรื่องสุดยอดที่สุด
ของการตามล่าอาชญากรรมข้ามโลก
ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าทศวรรษ
และถือว่าเป็นภารกิจเร่งด่วนอย่างยิ่ง
หลังการโจมตีสหรัฐอเมริกา(ที่ตึกแฝด)
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 (9/11)

การปฏิบัติการไล่ล่า Bin Laden ถือว่าเป็น
ช่วงเวลาที่สำคัญในการทำสงครามจิตวิทยา
เพื่อทำลายความเป็นผู้นำของอัลกออิดะห์
โดยเรื่องนี้ผ่านมือ ผู้บริหาร CIA 3 คนก่อน
และเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายพันคน
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค
และทีมสนับสนุนต่าง ๆ จำนวนมาก
ได้ดำเนินการทำสงครามครั้งนี้
เพื่อพัฒนาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
ไปพร้อม ๆ กันเป็นเวลานานแล้ว

แต่ตอนที่พวกเรามาถึง Langley
(สถานที่ทำงานของ CIA)
ในช่วงต้นปี 2009 ไม่มีหลักฐานบ่งชี้
ชัดเจนเลยถึงที่หลบซ่อนของ Bin Laden
ทุกอย่างดูเงียบงันไม่มีอะไรเพิ่มเติม

การไล่ล่า Bin Laden ในช่วงปี 2009–2010
ได้ให้บทเรียนมากมายเกี่ยวกับการจัดการ
องค์กรที่มีขนาดใหญ่และสลับซับซ้อน
ที่มุ่งเน้นทำภารกิจที่หลากหลาย
ต้องทำหน้าที่หลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน
ภายใต้ความกดดันที่รุนแรง
บทเรียนที่ Langley ที่เกี่ยวกับ
การบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้
เราได้รับรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
และได้ประสบการณ์จากที่นี้มาก

.
.


เราเริ่มต้นจากที่ไหน

CIA เป็นสถาบันระดับโลกที่ดำเนินภารกิจ
ที่มีความเสี่ยงสูงในการปกป้องสหรัฐอเมริกา
ผลการวิเคราะห์ข่าวต่าง ๆ
จะมีการตรวจสอบกันทุกเช้าอย่างเข้มงวด
ยิ่งกว่าประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
ผลงานสำเร็จส่วนใหญ่ไม่เป็นที่รู้จัก
แต่ผลงานล้มเหลวจะกลายเป็นตำนาน
แต่ CIA เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลัก
ที่ทำงานยากที่สุดของรัฐบาล

เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยมืออาชีพ
ที่เชี่ยวชาญในงานด้านต่าง ๆ
ที่มีทักษะพิเศษเฉพาะด้าน
ในแต่ละคนที่รับเข้ามาทำงาน
เจ้าหน้าที่เหล่านี้มักจะเข้ามาอยู่
ในหน่วยข่าวกรองในช่วงต้นอาชีพ
และอยู่กันอย่างยาวนานมาก
เพราะความลับในการทำงาน
พนักงานส่วนใหญ่ต่างไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน
และสร้างเกราะกำบังป้องกัน
ความสงสัยจากบุคคลภายนอก
ต่างยอมรับยอมอดทนที่จะต้องทำใจ
และเข้าใจว่าการทำงานในหน่วยงานแห่งนี้
ขึ้นกับความเป็นความตาย
ของหน่วยสืบราชการลับ CIA
ยิ่งในยุคใหม่ที่มีความขัดแย้งที่แหลมคม

การจัดลำดับความสำคัญใหม่
ในระบบราชการของรัฐบาล
ที่มีขนาดใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
ยิ่งการผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ CIA

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2009
ปีที่เราเข้าร่วมเมื่อภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย
มีการต่อต้านจากสื่อมวลชนอย่างรุนแรง
และการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางการเมือง
ในเรื่องต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น

.
.


เมื่อเราได้รับการบรรยายสรุป
เกี่ยวกับการไล่ล่า Bin Laden
เรามั่นใจว่ามีทีมงานที่วิ่งลงไปใส่
ในทุกที่ในทุกโอกาสเท่าที่จะทำได้

แต่ในมุมมองของเรา
พันธกิจเหล่านี้ขาดความเร่งด่วน
และไม่ได้รับความสนใจ
จากหัวหน้าทีมระดับอาวุโส
ที่ให้ความสำคัญในระดับที่จำเป็น
และสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการพิจารณาใหม่

ผู้บริหารอาวุโสสูงสุดของหน่วยงานข่าวกรอง
ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอย่างมีนัยสำคัญ
นี่เป็นข้อมูลเชิงลึกที่เราได้รับ
ในขณะที่เราพยายามแก้ไขสถานการณ์


จัดโครงสร้างทีมเพื่อบรรลุกลยุทธ์

โครงสร้างและห่วงโซ่การรายงานขององค์กร
ต้องสอดคล้องกับการจัดลำดับความสำคัญ
ของแต่เรื่องภายในองค์กร
การไล่ล่า Bin Laden เป็นความสำคัญอันดับแรก
ของประธานาธิบดีและผู้อำนวยการ CIA

แต่เราไม่ได้รับการปรับปรุงข้อมูล
ให้ทันสมัยเป็นประจำ
และไม่มีบุคคลใดคนหนึ่งใน CIA
ที่ลงมือเพื่อหาขอข้อมูลเจาะลึก
และการปรับปรุงการปฏิบัติงาน
ให้ทันต่อเหตุการณ์ไล่ล่า Bin Laden

มีเพียงแต่ในระยะสั้น/ระยะแรกเท่านั้น
ที่ผู้อำนวยการ CIA ได้มุ่งเน้นลงไปที่เรื่องนี้
กับความการพยายามไล่ล่า Bin Laden
ก็เพียงแค่ติดต่อกับสายลับในท้องถิ่น
ที่กำลังไล่ล่าพวกแกนนำศัตรูเท่านั้น

สถานการณ์แบบนี้ช่วยอะไรไม่ได้เลย
กับกลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถป้องกันได้

ในเดือนธันวาคมปี 2009
มีผู้ก่อการร้ายระเบิดฆ่าตัวตาย
พร้อมกับเจ้าหน้าที่ CIA จำนวน 7 คน
ที่ฐานทัพในเขตทุรกันดาร
ในอัฟกานิสถานตะวันออก

เจ้าหน้าที่ได้พบกับพยานหลักฐานว่า
เกี่ยวข้องกับสายสนวงในของ Bin Laden
พยานหลักฐานดังกล่าวนี้กลับกลายเป็นว่า
สายลับสองหน้ารายนี้ตัดสินใจระเบิดฆ่าตัวตาย
พร้อมกับสายลับ CIA จำนวน 7 คน
เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เกิดการเร่งเร้า
การไล่ล่า Bin Laden เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

.
.


ในที่ประชุมไม่นานหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ในห้องประชุมของผู้อำนวยการที่ Langley
เราได้ถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานระดับสูงว่า
" ใครเป็นผู้รับผิดชอบไล่ล่า Bin Laden "
 
ทุกคนต่างยกมือขึ้น
คิดว่านี่เป็นคำตอบที่เรากำลังมองหา
แต่หน้าฉากแบบนี้กลับกลายเป็น
ปัญหาใหญ่ภายในองค์การ CIA
เพราะทุกคนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของเรื่องนี้
ในการไล่ล่า Bin Laden
แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งรับผิดชอบ
หน้าที่นี้โดยตรงเป็นการเฉพาะ
ผู้ซึ่งตื่นขึ้นมาทำงานทุกวัน กลับไปนอนทุกคืน
ตัองทำงานภารกิจหลักคือ การไล่ล่า Bin Laden

เราจึงกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
รับผิดชอบดูแลเรื่องการไล่ล่า Bin Laden
คนที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่การปฏิบัติงานภาคสนาม
และเคยอยู่ในหน่วยกำกับดูแลภารกิจ
การต่อต้านการก่อการร้ายตามชายแดน
อัฟกานิสถาน - ปากีสถาน
มีความรู้และความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
เพื่อทำให้เกิดแรงกดดันต่อทีมงาน
และส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าในทีมงานทราบว่า
ความพยายามในเรื่องการไล่ล่า Bin Laden นี้
เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกสุด

เราได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เราเรียกว่า Gary
ให้ Gary ต้องบรรยายสรุปสั้น ๆ
ให้ Panetta ผู้อำนวยการ CIA
รับทราบในทุกวันอังคารช่วงบ่ายของทุกเดือน
แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ ๆ
มารายงานก็ตามแต่

Gary กับรองหัวหน้าทีมงาน
ได้เริ่มต้นไปสร้างทีมงานขึ้นมาใหม่
และริเริ่มฟื้นฟูแผนงาน
เพื่อติดตามไล่ล่า Bin Laden
ครอบครัวและเครือข่าย
เพื่อนร่วมงานของ Bin Laden
นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
กว่าจะได้ผลลัพท์เพียงเล็กน้อย
ก็กินเวลาหลายเดือนทีเดียว

Gary ไม่มีข่าวสารข้อมูลใด ๆ
ที่จะไปบรรยายสรุป
ให้ผู้อำนวยการ CIA รับทราบ
ในวันอังคารช่วงบ่ายในช่วงแรก ๆ
ช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ยาก
และลำบากใจอย่างยิ่ง
สำหรับ Gary และทีมงานของเขา

ไม่มีใครชอบหรอก ที่ไปพูดกับเจ้านาย

โดยไม่มีรายงานอะไรใหม่ ๆ แจ้งเพื่อทราบ


แต่เรื่องนี้แบบนี้ยิ่งผลักดันให้ทีมงาน Gary
ต้องเจาะลึกลงไปในทุก ๆ ประเด็นทุก ๆ โอกาส
เท่าที่จะเป็นไปได้ในการไล่ล่า Bin Laden
ที่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนแล้ว
สำหรับ Gary และทีมงานทั้งทีม

.
.


ปลายเดือนสิงหาคม 2010
Gary ได้มาบรรยายสรุปเรื่องใหม่ ๆ
เพื่อรายงานความคืบหน้า
ในการไล่ล่า Bin Laden
เพราะได้รับข่าวจากสายลับในพื้นที่ว่า

มีพี่น้องสองคนที่เคยทำหน้าที่เป็น
ผู้รับส่งเอกสาร(ผู้นำสาส์น)ให้ Bin Laden
และเมื่อไม่นานมานี้ ในปากีสถาน
สายลับ CIA ได้ลอบติดตามสองพี่น้องนั้น
ติดตามจนมาถึงย่านชานเมืองชื่อ Abbottabad
และสุดปลายสายที่ทางถนนทางตัน

(Abbottabad มีค่ายทหารอยู่ในพื้นที่ และห่างจากทำเนียบประธานาธิบดี ราว 40 กิโลเมตร)

Gary บรรยายสรุปว่า
ในปลายสุดของถนนมีลักษณะ
เป็นป้อมปราการล้อมรอบบ้านพักที่อยู่ด้านใน
มีกำแพงสูง 12 ฟุต(3.7 เมตร) ด้านหน้า
และยังมีกำแพงสูง 18ฟุต(5.5 เมตร) ด้านหลัง
ทั้งยังมีกำแพงสูง 7 ฟุต(2.1 เมตร) บนระเบียง
ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์
และคนอาศัยข้างในไม่เคยทิ้งขยะนอกบ้านเลย
(เผาขยะทิ้งภายในบ้านทั้งหมด)

นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่
ที่เกิดจากความมุ่งมั่นท้าทายในการทำงาน
และเกาะติดตลอดกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เพราะ Gary ทำงานนี้อย่างมุ่งมั่น
ทำตามคำสั่งอย่างเต็มที่และเต็มเวลา
ในที่สุดก็กรุยทางไปสู่ศัตรูที่ต้องการไล่ล่าได้แล้ว

.
.


เรื่องท้ายทายสมมุติฐานการทำงาน

งานหลักของนักวิเคราะห์ CIA
คือ การรวบรวมพยานหลักฐาน
และใช้ความชำนาญทั้งหมดเจาะลึกลงไป
ในหัวข้อที่กำหนดและให้คำตอบ
สำหรับคำถามของผู้กำหนดนโยบาย

นักวิเคราะห์ได้พัฒนาสมมติฐาน
การทำงานโดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ
การลงมือทำงานด้วยคนด้วยสายลับ
เพื่อถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอและหาข้อมูลอื่น ๆ
สมมติฐานเหล่านี้จึงเป็นปัจจัย
ที่ผลักดันให้มีการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมอีก


ในกรณีของการไล่ล่า Bin Laden
 

คำถามก็คือ: เขาจะหลบซ่อนตัวได้อย่างไร
อยู่ที่ไหน เขารักษาความปลอดภัยได้อย่างไร

สมมติฐานการทำงานที่ผ่านมา จึงมักจะระบุว่า
เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ของชนเผ่า
ในปากีสถานตะวันตก
อาจจะอยู่ในถ้ำหรือพื้นที่ชนบท
แยกขาดจากครอบครัวของเขา

สมมติฐานต่อมาคือ มีบรรดากองโจรติดอาวุธห้อมล้อมรอบตัว Bin Laden
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะว่า
สุขภาพของ Bin Laden อาจจะมีปัญหา
Bin Laden อาจจะติดยาเสพติด
หรือ หมกมุ่นกับการดูรายการทีวีผ่านดาวเทียม
หรืออาจจะมีปัญหาเรื่องไต
ที่จะต้องฟอกไตอยู่เป็นประจำ

.
.


แต่สายข่าวชุดใหม่ของเราระบุว่า Bin Laden
อาศัยอยู่ในบ้านพักในเขตชานเมือง
กับภรรยาและเด็ก ๆ พร้อมกับอีกสองครอบครัว
และหมกมุ่นอยู่กับการดูเคเบิลทีวี

เรื่องนี้อาจเป็นไปได้หรือไม่
เพราะสมมุติฐานเกือบทุกอย่างที่ผ่านมา
อาจจะผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องก็ได้

การที่เชื่อว่า Bin Laden
อาศัยอยู่ในบ้านพักย่านชานเมืองนั้น
ทำให้เราต้องปรับสมมติฐานพื้นฐานใหม่
เกี่ยวกับการดำเนินงาน
และชีวิตประจำวันของ Bin Laden

เราคาดการว่า Bin Laden
จะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย
ที่จะอยู่กับครอบครัวอื่น ๆ
และการที่เด็ก ๆ ต้องออกจากบ้าน
เพื่อไปโรงเรียนทุกวัน

เราตั้งข้อสันนิษฐานว่า Bin Laden
ไม่อยากอยู่ใกล้กับค่ายทหาร
เพราะจะมีเฮลิคอปเตอร์
บินวนอยู่เหนือศีรษะได้มากที่สุด

เราตั้งสมมติฐานว่า Bin Laden
จะต้องติดตั้งแนวป้องกันรอบ ๆ บ้านพัก
มีการติดตั้งกลไก/กับดักต่าง ๆ
เพื่อป้องกันตนเองกับส่งเสียงเตือนภัย
มียามรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
และบางทีอาจจะขุดอุโมงค์ลับไว้รอหลบหนี
หรือมีแผนการหลบหนีที่สลับซับซ้อน

สำหรับสายลับที่ Abbottabad
กลับนำไปสู่ความจริงทั้งปวง
ข้อสมมติฐานแต่เดิมเหล่านั้น
ต่างผิดพลาดทั้งหมดเลย

ดังนั้น เราได้แนะนำประธานาธิบดีสหรัฐว่า
จะต้องมีการเสี่ยงชีวิตด้วยยุทธการ
จากกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ SEALs 24 คน
และเราต้องยอมรับว่า แต่เดิมเรามากันผิดทาง
หรือหลงทางกันมาประมาณหนึ่งทศวรรษแล้ว

ความแข็งแกร่งของทีมไล่ล่า Bin Laden คือ
พวกเขาเต็มใจที่จะท้าทายสมมติฐานเดิมที่มีอยู่
พวกเขายินดีที่จะยอมรับว่า
หน่วยงานข่าวกรองผิดพลาด
และพวกเขาก็เต็มใจ
ที่จะทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
ให้กับทฤษฎีใหม่ทั้งหมดที่ตั้งขึ้นมา
ซึ่งเป็นเหตุให้สมมติฐานก่อนหน้านี้
ล้วนแล้วแต่ผิดพลาด

และต้องยอมรับว่า
แผนของ Bin Laden นั้นชาญฉลาดมาก
ซ่อนตัวอยู่ในที่ที่เห็นได้ชัด

ยิ่งกว่าที่เราเคยคาดเดาไว้ซะอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่