หาวิธีรับมือกับครอบครัวที่มีพ่อเป็นToxic parents

กระทู้คำถาม
ตามหัวข้อเลยค่ะ คือตอนนี้เราท้อง ได้ 8 เดือนแล้ว แต่ก็มีปัญหาคือ พ่อที่เป็นพ่อแท้ๆของเราเอง ชอบใช้คำพูดรุนแรง หลายครั้งหลายหน ชอบใช้ความรุนแรงกับสิ่งของหรือแม้กระทั่งหมาที่เลี้ยงมา ถ้าใครทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็จะว่า เช่น ตอนน้องเราท้อง 9 เดือน พ่อก็ว่าน้องเรา ขี้เกียจ ปากดี ไม่เอาไหน รวมถึงไล่น้องเราไปทำงานเมืองนอก ทั้งที่น้องเรามีงานโรงงานที่ถือว่าดีมากทำอยู่แล้วอีก โบนัสดี พอเราท้องก็ว่าเราไม่เอาไหน ขี้เกียจ ไม่รู้จักหารายได้เสริม แค่นี้มันไม่พอเลี้ยงลูกหรอก ปากดี ขี้เกียจ อย่ามากวนกูเด้อคนนิ สิให้กูเลี้ยงไปฮอดมื้อตายพุ้นติ เถียงงาบๆ ไม่ใช่แค่ว่าเรา กับน้องนะ ว่าแม่ด้วย มีอะไรก็มาเร่งมารอให้แม่เราทำ ทั้งๆที่ตัวเองก็ทำได้ เช่น ไปประชุมหมู่บ้านแทนแม่ หรือเวลาแม่บอกให้ทำอะไรก็ไม่ทำ หนีไปนา หรือไม่ก็บ่น เอาแต่ความคิดตัวเอง ฟังคนอื่นคนอื่นเขาว่าอันนั้นดี แต่ที่บ้านบอกของเราก็ดีอยู่แล้ว ก็ว่ามันไม่ดี คนนั้นบอกอันนี้ดีกว่า ไม่เคยรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวเลย ตั้งแต่จำความได้มา มีแต่แม่เราแก้ปัญหามาโดยตลอด แม่เป็นช้างเท้าหน้าตลอด บ้านเรามีแต่ผู้หญิง มีผช อยู่แค่ 2 คน คือแฟนเรา กับพ่อเรา แต่แฟนเราทำงานประจำ เขาก็ไม่ค่อยได้รับรู้ปัญหาพวกนี้ เพราะเราก็ไม่ค่อยอยากเล่าให้เขาฟัง ถึงเขาฟังเขาก็คงคิดไม่ออกว่าต้องแก้ยังไง เพราะแฟนเราไม่ได้อยู่กับครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เราเหนื่อยมาก ที่ต้องทนกับอะไรแบบนี้แม่เราก็บอกให้เราทน ดีหน่อยที่น้องสาวเรากับแฟนไปทำงานต่างจังหวัดไม่ค่อยได้อยู่ บางทีอยากหนีไปให้พ้นๆ ตอนนี้เราสงสารลูกในท้องเรามาก กลัวเขาเกิดมาเจอกับครอบครัวที่มีตาเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงทางคำพูด และการใช้อารมณ์ร้อน และไม่ยอมรับฟังเมื่อมีคนในบ้านเห็นต่าง แม่เราก็ได้แต่นิ่งทน เพราะเขาทนกันมานานแล้ว อมยิ้ม20สุดท้ายเราสงสารยาย สงสารแม่ สงสารตัวเอง สงสารลูกและหลาน สงสารหมาที่ต้องมารองรับอารมณ์คนแบบนี้ แต่คงแก้นิสัยไม่ได้หรอก เกินเยียวยาแล้ว เราได้แต่รอเวลาที่เหมาะสมแยกครอบครัวใหม่ คงต้องพาตัวเองและครอบครัวของเราที่มีเรา แฟน และลูก ไปตามทางที่ควรจะเป็นดีกว่าอยู่ให้เขาหาเลี้ยงทั้งๆๆที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย งานเรากับแฟนก็มีทำ แค่ไม่ได้ให้เงินเขาแค่นั้นเอง และต่อจากนี้เราก็คงจะโฟกัสไปที่ลูกและการสร้างครอบครัวของเราอย่างเดียว คงไม่ถูกมองว่าอกตัญญุหรอกนะ เพราะเราทำดีที่สุด ทนที่สุดแล้วในขีดความสามารถของคนหนึ่งคน ขอบคุณที่อ่านจนจบหวังว่าคงจะมีเข้าใจในบริบทที่มีพ่อเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางเหมือนเราบ้างนะ เราก็อายุ30+แล้วแหละ เราคงต้องคิดทบทวนอะไรใหม่แล้วว่าควรให้ค่ากับอะไรต่อไป ขอบคุณทุกคนนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่