🇹🇭💜มาลาริน💜🇹🇭3ก.ย.โควิดไทยอันดับ29โลก/ป่วย1,942คน หาย1,643คน เสียชีวิต23คน/วัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิดรุนแรงได้


https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1024584

เพี้ยนแคปเจอร์เจอป่วย "โควิด" 60 จังหวัด "อุบลราชธานี" วันนี้เกินร้อย ภาพรวมอัตราป่วยลดลงเริ่มชะลอ

60 จังหวัดรายงานป่วย "โควิด" รวม 1.9 พันราย แนวโน้มป่วยใหม่คงตัว อัตราลดลงชะลอตัว ป่วยหนัก-ดับ ยังมีทิศทางลดลง วันนี้พบตาย 23 ราย เป็นกลุ่มสูงอายุ มีโรคเรื้อรัง 100% "อุบลราชธานี" วันนี้รายงานเกินร้อยราย

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง RT-PCR และ ATK รวม 1,942 ราย สะสม 4,656,911 ราย หายป่วย 1,643 ราย สะสม 4,607,813 ราย เสียชีวิต 23 ราย สะสม 32,375 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 16,723 ราย อยู่ รพ.สนามและอื่นๆ 8,059 ราย และอยู่ใน รพ. 8,664 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 716 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 357 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 12.9% ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในเรือนจำ มีผู้ติดเชื้อเดินทางจากต่างประเทศ 1 ราย ภาพรวมผู้ป่วยเฉลี่ยรายวันแนวโน้มเริ่มคงที่ การลดลงชะลอตัว ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง

ผู้เสียชีวิต 23 ราย มาจาก กทม. และลพบุรี จังหวัดละ 3 ราย , สุราษฎร์ธานี ปราจีนบุรี จังหวัดละ 2 ราย , สมุทรปราการ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี หนองคาย สุรินทร์ เชียงใหม่ น่าน ลำปาง นครศรีธรรมราช ชลบุรี จันทบุรี นครสวรรค์ และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 14 ราย หญิง 9 ราย อายุ 30-96 ปี อายุเฉลี่ย 76 ปี เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและโรคเรื้อรัง 100% ปัจจัยเสี่ยงที่มีการเสียชีวิตมากที่สุด คือ โรคไต 7 ราย , หัวใจ 6 ราย , อ้วน 4 ราย , ติดเตียง 3 ราย , มะเร็ง 1 ราย และหลอดเลือดสมอง 1 ราย

การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 2 ก.ย. 2565 ฉีดได้ 21,919 โดส สะสม 142,800,885 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 57,264,217 โดส คิดเป็น 82.3% เข็มสอง 53,731,327 โดส คิดเป็น 77.2% และเข็มสามขึ้นไป 31,805,341 โดส คิดเป็น 45.7% สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มสามแล้ว 6,445,568 โดส คิดเป็น 50.7% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรก 3,306,590 โดส คิดเป็น 64.2% และเข็มสอง 2,433,197 โดส คิดเป็น 47.2%

ขณะที่กรมควบคุมโรครายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่รายจังหวัด พบว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยรายใหม่สูงสุด ได้แก่...👇

1.กทม. 1,247 ราย
2.อุบลราชธานี 102 ราย
3.สมุทรปราการ 61 ราย
4.ชลบุรี 53 ราย
5.นครศรีธรรมราช 38 ราย
6.สงขลา 35 ราย
7.สมุทรสาคร 30 ราย
8.นนทบุรี 26 ราย
9.บุรีรัมย์ 25 ราย
และ 10.ปทุมธานี 25 ราย

ภาพรวมมีรายงานผู้ป่วย 60 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วย 17 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พะเยา พังงา พัทลุง พิจิตร มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยะลา ลพบุรี สตูล สุพรรณบุรี หนองคาย และอำนาจเจริญ

https://mgronline.com/qol/detail/9650000084672

เพี้ยนแคปเจอร์สธ.เผยวัคซีนเข็มกระตุ้น เพิ่มประสิทธิผลป้องกันป่วยโควิดรุนแรงจากโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยยังมีทิศทางลดลง ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ความครอบคลุมเข็มแรก 82.3% เข็มสอง 77.2% และเข็มกระตุ้น 45.6% โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปฉีดเข็มกระตุ้นได้ 50.6% ทั้งนี้ คณะทำงานศูนย์ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลวัคซีน กรมควบคุมโรค ร่วมกับคณะทำงานวิชาการ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ติดตามประเมินประสิทธิผลวัคซีนโควิด 19 จากการใช้จริงในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ผลของการใช้จริงช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 ที่เป็นการระบาดของ “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 พบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะเพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยรุนแรง คือ อาการปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ จาก 60% ในผู้ที่ได้รับครบ 2 เข็ม เป็น 83% และ 100% ในผู้ที่ได้รับครบ 3 เข็มและ 4 เข็มตามลำดับ, ป้องกันการเสียชีวิตจาก 72% ในผู้ที่ได้รับครบ 2 เข็ม เป็น 93% และ 100% ในผู้ที่ได้รับครบ 3 เข็มและ 4 เข็มตามลำดับ

สำหรับกลุ่มสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ป้องกันปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจในผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มได้ 80% ต่ำกว่ากลุ่มอายุ 18-59 ปี ที่ป้องกันได้ 89% แต่จะเพิ่มเป็น 100% เมื่อได้รับครบ 4 เข็มทั้งสองกลุ่มอายุ โดยการฉีดวัคซีนกระตุ้น 3 เข็มขึ้นไป จะมีประสิทธิผลในการป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตในระดับสูงกว่า 80% ได้นานถึง 6 เดือน ทั้งนี้ แม้จะฉีดเข็มกระตุ้นแล้วก็ยังสามารถติดเชื้อได้ แต่จะไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ขณะนี้โรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แนวทางการควบคุมโรคต้องดำเนินการอย่างสมดุล ทั้งมาตรการวัคซีน ที่เร่งรัดฉีดเข็มกระตุ้นในประชากรเป้าหมายให้ครอบคลุมสูงสุด มาตรการสังคม ที่ต้องใช้ชีวิต วิถีใหม่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง และจัดการสภาวะแวดล้อมเสี่ยง และมาตรการการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ รู้สถานะการติดเชื้อเร็ว และรักษาเร็วด้วยยาที่มีประสิทธิผล

https://www.infoquest.co.th/2022/230533

ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ....
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02yt2VgPfKsmxYBhP7J9Bo9hY5ZhLhLUnF4VozNSPmzhMM1eyZ8NJvY8GYKgiRBVSfl


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 2 ก.ย. 2565)
รวม 142,800,885 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 2 กันยายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 21,919 โดส

เข็มที่ 1 : 3,329 ราย
เข็มที่ 2 : 5,700 ราย
เข็มที่ 3 : 12,890 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,264,217 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,731,327 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,805,341 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02RqNyjBpwxU9YoVJnwTeUH9eavDaRPfkCmizEuu6itLYt84vXduWkhFDN2mL6Adiel


สธ. มอบนโยบายหน่วยบริการทุกระดับพัฒนาศักยภาพบุคลากร/การบริการ สร้างความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขรองรับพื้นที่ EEC ฝาก อสม.นำประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด และเป็นตัวอย่างด้านพฤติกรรมสุขภาพที่ดี

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของรัฐบาล จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาประกอบกิจการจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับประเทศ อ.หนองใหญ่ อ.บ่อทอง และ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ EEC จึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งบุคลากรผู้ให้บริการและการบริการต่างๆ ให้มีความสะดวก สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและช่วยดึงดูดผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ได้มากขึ้น สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ได้มอบนโยบายให้หน่วยบริการจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งภาพรวมของ จ.ชลบุรี ปัจจุบันประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 90.51% โดยกลุ่ม 608 ครอบคลุม 84% และมีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว 47.32% ได้ให้เร่งสำรวจหาผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น กลุ่มผู้ป่วยฟอกไต กลุ่มผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ปลูกถ่ายไขกระดูก หรือกลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น ให้ได้รับการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ป้องกันโรคโควิด 19 และขอให้ อสม. ช่วยชักนำประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นให้ครบตามเกณฑ์ รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีด้านพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร เพื่อช่วยให้ประชาชนมีร่างกายที่แข็งแรง

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02SUcxhXqCNFsacU4iAVykgjkHks5k3yiv43N19kEsYJLEHynjK2XSqjKzpUHFYRbKl


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 จำนวน 23 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ZULXHfa6hFuTukBi86oGoEXU1PZABHPeXfrRWC5WrADrRunJe4xcohubmXBiAxxbl


กทม. เตรียมพร้อมโควิดสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ย้ำ !! มาตรการ UP และ COVID Free Setting ยังจำเป็น

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะมีการเปลี่ยนสถานะโรคโควิด-19 จาก “โรคติดต่ออันตราย” ไปสู่ “โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง” กทม. เตรียมพร้อมขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ อาทิ การรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ การเฝ้าระวัง แผนการเปลี่ยนผ่านและแผนรองรับการระบาด ซึ่งหลังจากเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ และอาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น รวมทั้งข้อปฏิบัติที่ต้องสื่อสารกับสาธารณะอย่างชัดเจน ว่าเมื่อเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล (Universal Prevention : UP) และมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ยังต้องถือปฏิบัติอยู่โดยเคร่งครัด

โรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข จะเร่งฉีดวัคซีนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ภาวะฟื้นฟู ในส่วนของการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร ยังเปิดให้บริการทุกจุด โดยสามารถ Walk in และรับบริการผ่านการนัดหมาย สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง หรือผู้ที่เดินทางยากลำบาก สามารถติดต่อศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน จะมีทีมเชิงรุกเข้าไปให้บริการวัคซีน ปัจจุบันตัวเลขผู้ฉีดวัคซีน ในกลุ่ม 608 เข็มกระตุ้นอยู่ที่ 69% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของประเทศ

ข้อมูลจาก : กรุงเทพมหานคร
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0F9wZN7WXWscfsUZKjMnZgMGyHb4rapeWR23MDiAhKNGgSfjz1ovfsrYpXKeKrmZGl


ข่าวดี ! ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง สปสช. ขยายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง 30 ก.ย. นี้

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02W2NYU87VaWvgdAodBWCbm9erUwf2eXYu7XePgM5fvh2JqAZ31BiesFMyw8EF7Keyl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่