[SR] รีวิวหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อม Co-engineered with DEVIALET เพื่อจัดเต็มด้านคุณภาพเสียง

กระทู้รีวิว


ในด้านตลาดหูฟัง TWS ต้องบอกว่าแข่งกันกันดุเดือดมากๆ ทั้งด้านฟังก์ชันการใช้งานและคุณภาพเสียง โดยก่อนหน้านี้ Huawei Freebuds Pro ซึ่งเป็นหูฟังที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงตัวนึงในตลาด และมาในวันนี้ Huawei Freebuds Pro 2 ได้เปิดตัวต่อยอดจากรุ่นเดิม ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องทั้งเรื่องของการออกแบบ และ ฟีเจอร์การใช้งานครับ รวมถึงจุดเด่นสำคัญคือการปรับปรุงเรื่องเสียงครั้งใหญ่โดยการ  Co-engineered with Devialet แบรนด์ลำโพง Hi-End สุดล้ำจากประเทศฝรั่งเศส มาจูนเสียงให้มีโทนเสียงแนวอะคูสติกที่ปรับจูนอย่างประณีต



สำหรับผู้ชื่นชอบการฟังเพลง  พร้อมกับใช้ระบบ Dual-Speaker True Sound การใช้ลำโพงคู่ซึ่งประกอบด้วยไดร์เวอร์ 4 ตัวซึ่งมีพลังเสียงมากกว่ารุ่นเดิมถึง 30% รวมถึงครั้งแรกในหูฟัง TWS กับ UHF planar diaphragm driver ซึ่งนิยมใช้ในหูฟังระดับ Hi-end ที่ให้เสียงสูงที่ไพเราะ เที่ยงตรง พร้อมการพัฒนาระบบการตัดเสียง ลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 47 dB ด้วยเทคโนโลยี Intelligent Dynamic ANC 2.0  ระบบตัดเสียงรบกวนที่ใช้ไมโครโฟน 4 ตัว เรียกได้ว่าพัฒนาขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน ส่วนในด้านคุณภาพเสียงและการใช้งานอื่นๆ จะเป็นยังมารับชมรีวิวกันได้เลยครับ





UNBOX

- 1x หูฟัง HUAWEI Freebuds Pro 2
- 1x กล่องเก็บหูฟังพร้อมชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยในตัว
- 1x คู่มือการใช้งาน
- 4x จุกยางหลากหลายไซซ์ S M L
- 1x สายชาร์จ USB-C



PRICE

- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย: 6,499 บาท

สี: สีฟ้า Silver Blue, สีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White

น้ำหนัก: หูฟัง ประมาณ 5.9 กรัม, เคสชาร์จ ประมาณ 52.1 กรัม



DESIGN

มาเริ่มกันที่การออกแบบ HUAWEI Freebuds Pro 2  ตัวที่เราได้มารีวิวนี้คือ สีฟ้า Silver Blue  โดยหูฟังรุ่นนี้ยังคงการออกแบบทีมีความหรูหราจากรุ่นก่อนด้วยหูฟังอินเอียร์แบบมีก้านที่ออกแบบสวยงาม พร้อมคงความสวมใส่สบายจามหลักสรีระศาสตร์ ใช้ เคสทรงกลม ขนาดเล็ก สวยงาม ด้านข้างเป็นแผ่นป้ายโลโก้ HUAWEI และ DEVIALET หูฟังแบบมีก้าน   มีน้ำหนักเบา และ สวมใส่สบายฟังได้นานไม่ล้าหู ตัวก้านทรงเหลี่ยมสามารถใช้สัมผัสรองรับคำสั่งงานต่างๆ ตัว โดยมีไมโครโฟนถึง 4 ตัว โดย 2 ตัวหันออกด้านนอก ทำหน้าที่ตรวจจับและระบุเสียงรบกวนรอบข้างอย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Beamforming ส่วนไมโครโฟนอีก 1 ตัวหันเข้าด้านใน เป็นไมโครโฟนแบบ SNR (signal-to-noise ratio) คอยจับสัญญาณเสียงพูดของผู้ใช้ และตัวสุดท้ายเป็น Bone Conduction Microphone ที่สามารถแยกแยะระหว่างเสียงบรรยากาศโดยรอบกับเสียงพูดของผู้ใช้ได้  จุกหูฟังนี้เนื้อดีนุ่มสวมใส่สบายช่วยตัดเสียงรบกวน โดยตัวท่อลำโพงหูฟังมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าปกติเล็กน้อยและเป็นวงรี ด้วยการออกแบบลำโพงคู่ สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนจุกหูฟังอาจจะต้องเช็กให้ดีว่าใส่ด้วยกันได้ไหม แต่จุกที่แถมมาให้ก็มีคุณภาพดีอยู่แล้วครับ



ตัวเคสนั้นเป็นวงกลมเรียบๆสีฟ้าด้านๆออกสีมุก และในด้านหน้านั้นจะออกแบบเรียบๆ ไฟสถานะนั้นอยู่ด้านด้านในตัวเคส  ตัวเคสเป็นวงกลมฝาเปิด  ส่วนตรงโลโก้ HAUWEI นั้นจะเป็นด้านหลังที่เห็นแถบสี่เหลี่ยมเงาๆ ที่จะใช้สีโครดำเงินๆ โดนรุ่นนี้เพิ่มโลโก้ DEVIALET ไว้ด้านล่างๆ เรียกว่าลงตัวขึ้น และตรงพอร์ตชาร์จอยู่ด้านล่าง ขนาดเคสกำลังดีพกพาง่าย หยิบจับถนัด



และด้านข้างจะมีปุ่มกดสำหรับเชื่อมต่อบลูทูธ  ตัวเคสปิดด้วยแม่เหล็กค่อนข้างสนิทครับ เมื่อเปิดฝาตัวเคสแล้วนั้นจะกางออกมา 90 องศา ตัวหูฟังเมืองวางลงบนเคสจะมีแม่เหล็กดูดแน่นหนาไม่หล่นออกมาง่ายๆ





ส่วนด้านล่างนั้นจะเป็นพอร์ตชาร์จแบบ USB-C พร้อมกับไฟสถานะของเคสชาร์จว่าเต็มหรือหมดแล้ว ซึ่งไฟตรงนี้จะแสดงสีแตกต่างกันไป ถ้าไฟเขียวคือ แบตนั้นเต็มอยู่ หรือสูงกว่า 60% ครับ แต่ถ้าสีเหลือง คือ 20-60% สีแดงคือต่ำกว่า 20%  แต่ถ้า ขณะชาร์จนั้น เขียวคือสูงกว่า 90 % แต่ถ้าเหลืองคือต่ำกว่า 90% ครับ โดยตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายอีกด้วยสามารถวางบนแท่นชาร์จได้เลย



SPEC

- ขนาดหูฟังต่อข้าง  ความยาว: 29.1 มม.  ความกว้าง: 21.8 มม.  ความสูง: 23.7 มม.
- น้ำหนัก: ประมาณ 6.1 กรัม
- เคสชาร์จ  ความยาว: 67.9 มม.ความกว้าง: 24.5 มม.  ความสูง: 47.5 มม.
- น้ำหนัก: ประมาณ 52 กรัม
- เซนเซอร์  : Bone sensor / Accelerometer / Gyroscope sensor / Infrared sensor
- ลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound  ระบบ Quad-magnet dynamic driver
- ultra-high-frequency planar diaphragm driver
- Triple adaptive EQ
- ความถี่ของเสียง: 14 HZ ถึง 48 kHz
- ไมโครโฟน 4 ตัว
- การเชื่อมต่อ  การเชื่อมต่อบลูทูธ:  BT 5.2
- การจับคู่แบบด่วน:  รองรับเฉพาะสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการ EMUI10 ขึ้นไป
- การเชื่อมต่อบลูทูธ 2 อุปกรณ์:  รองรับ
- แบตเตอรี่  ขนาดแบตเตอรี่  ต่อข้าง: 55 mAh
- เคส: 580 mAh
- ระยะเวลาการเล่น
6.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ปิด ANC)
4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง  (เปิด ANC)
30 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ  (ปิด ANC)
18 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ  (เปิด ANC)
- การชาร์จ สาย: USB Type-C (5 V/0.5 A ขึ้นไป)
- ไร้สาย: Qi Standard (2 W)
- ระยะเวลาการชาร์จ  ประมาณ 1 ชั่วโมงเมื่อชาร์จเคสที่ไม่มีหูฟัง (แบบสาย)
ประมาณ 40 นาทีสำหรับหูฟัง (ในเคสชาร์จ)
ประมาณ 120 นาทีเมื่อชาร์จเคสที่ไม่มีหูฟัง (แบบไร้สาย)
- เทคโนโลยีเสียง  เทคโนโลยี Digital Cross-over / ระบะปรับเสียงอัจฉริยะ 3 ระดับ / ระบบลดเสียงรบกวนรอบข้าง / ระบบลดเสียงรบกวนขณะโทร / โหมดปกติ
- การกันละอองน้ำ กันน้ำ และกันฝุ่น  IP 54
- ไฟล์ที่รองรับ   LDAC / AAC / SBC



SOUND

เมื่อพูดถึงหูฟัง แน่นอนว่าคุณภาพเสียงเป็นจุดเด่นที่ทุกคนนึกถึง โดยจุดเด่นที่สำคัญที่พัฒนาจากเดิมโดย Freebuds Pro ตัวแรกขึ้นชื่อเรื่องเป็นหูฟังที่คุณภาพเสียงดี ซึ่งในรุ่นต่อยอดนี้ก็ได้ทำการเพิ่มการเพิ่มคุณภาพด้านเสียงด้วยการได้ DEVIALET แบรนด์ลำโพง Hi-End สุดล้ำจากประเทศฝรั่งเศส  ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมด้านเสียงและงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มาทำการจูนเสียงให้ และเสริมด้วยการใช้ Dual-Speaker True Sound ซึ่งประกอบด้วยไดร์เวอร์ 4 ตัวซึ่งมีพลังเสียงมากกว่ารุ่นเดิมถึง 30% โดยมีการใช้ไดรเวอร์ 2 ประเภท คือไดรเวอร์แบบ 11 mm dynamic driver  และ  planar diaphragm driver  โดย dynamic driver  จะโดดเด่นในการให้เสียงย่านตํ่า ให้เสียงเบสที่แรงปะทะฟังสนุก และมีเสียงเป็นธรรมชาติ อีกตัวคือมีการใช้ UHF planar diaphragm driver ซึ่งนิยมใช้ในหูฟังระดับ Hi-end ที่ให้เสียงสูงที่ไพเราะ ใช้เทคโนโลยีไดอะแฟรมความถี่สูงที่ใช้วัสดุแผ่นฟิล์มสอดไว้ระหว่างแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำอันทรงพลัง ช่วยเก็บรายละเอียดให้ใกล้เคียงกับเสียงที่แท้จริง มีความเที่ยงตรงสูง โดยไดเวอร์ตัวนี้เอามาใช้ขับเสียงสูง พร้อมการใช้ cross-over อัจฉริยะเพื่อจูนเสียงลำโพงทั้ง 2 ตัวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีร่วมกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Devialet  ยังมีการรองรับระบบการฟังเพลงความละเอียดสูงแบบไร้สาย Bluetooth Codec LDAC™ และมีการรับรอง HWA ที่มอบคุณภาพเสียง Hi-Res Wireless Dual HD Audio เป็นตัวแรก



ในด้านการใช้งานเสียงสนทนาด้วยความที่มีไมโครโฟนถึง 4 ตัว โดย 2 ตัวหันออกด้านนอก ทำหน้าที่ตรวจจับและระบุเสียงรบกวนรอบข้างอย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Beamforming ส่วนไมโครโฟนอีก 1 ตัวหันเข้าด้านใน เป็นไมโครโฟนแบบ SNR (signal-to-noise ratio) คอยจับสัญญาณเสียงพูดของผู้ใช้ และตัวสุดท้ายเป็น Bone Conduction Microphone ที่สามารถแยกแยะระหว่างเสียงบรรยากาศโดยรอบกับเสียงพูดของผู้ใช้ได้ ทำให้การสนทนาทำได้ค่อนข้างดี

ในด้านการดูหนัง และ เล่นเกมส์ จากการทดลองดูภาพยนตร์ใน Netflix และเล่มเกมก็พบว่าได้ดี อาการหน่วงแทบไม่มีให้เห็นด้วยการที่ตัวหูฟังมีระบบการปรับคุณภาพเสียงและการปรับรูปแบบเสียงที่เหมาะสมต่อพฤติกรรมการใช้งานของเราอัตโนมัติ ทำให้พอรับชมภาพยนตร์จะมีการปรับไฟล์เสียงให้ส่งสัญญาณโดยลดอาการดีเลย์เสียงอัตโนมัติ เรียกว่าการดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมต่างๆ ก็ให้ประสบการณ์ทีดี โดยโทนเสียงถือว่าฟังสนุกทีเดียวมีเวทีเสียงกว้าง การตอบสนองย่านเบสดี ทำให้ดูภาพยนตร์ต่างๆ มีมิติ ฟังสนุก





SOFTWARE

ทางด้าน Software นั้นจะใช้ชื่อ Huawei AI Life เป็นตัวควบคุมยุคใหม่ของทาง Huawei ทั้งหมด และรองรับ  Android และ iOS   สามารถเชื่อมต่อได้ง่าย โดยในด้านคำสั่งต่างๆ ก็จะมีAudio Connection Center สำหรับจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่โดยสามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ต่อมาด้านการตั้งค่าเสียง จะมีเมนู Noise Control 3 แบบคือ Noise Canceling ซึ่งสามารถตั้งค่าเป็น Dynamic ซึ่งจะตั้งค่าเสียงอัตโนมัติ  Cozy General และ Ultra การตั้งค่า Sound Effect หรือ Equalizer โดยการตั้งค่าเริ่มต้นจะเป็นตัวที่ทำการจูนเสียงโดย DEVIALET ซึ่งเป็นเสียงที่ทำการจูนมาเข้ากับหูฟังที่สุด แต่ถ้าใครชอบโทนเสียงแบบอื่นๆ ก็สามารถเลือกแบบ Bass Boost Treble Boost และ Clear Vocal หรือจะตั้งค่าเองก็สามารถทำได้ ต่อมาคือ Sound Quality เราสามารถเลือกเพื่อให้ระบบทำการเลือก Code เสียงให้อัตโนมัติตั้งแต่ LDAC ความละเอียดสูงเพื่อคุณภาพการฟังเพลง หรือ แบบ AAC เพื่อลดการดีเลย์ของเสียงสำหรับดูหนังหรือเล่นเกม การตั้งค่า VOICE CALL เพื่อเน้นความคมชัดของการสนทนา การตั้งค่า Gestures การสั่งงานสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย การแตะ เพื่อรับสาย หรือ วางสาย เมื่อมีสายเข้า หรือแตะ เพื่อเล่นเพลง และ แตะ 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง การแตะค้าง เพื่อปรับโหมดตัดเสียงรบกวน  การสไลด์ขึ้นลง เพื่อเพิ่มและลดเสียง ซึ่งสามารถสั่งงานอิสระได้ทั้งด้านซ้ายและขวา  รวมถึงมีโหมดแนะนำการใช้งานเพื่อให้เราทดลองใช้คำสั่งได้แม่นยำ Find Earphone ใช้กดเพื่อหาหูฟัง เมนูอื่นๆ ก็ได้แก่ Tip fit test สำหรับตรวจจับว่าเราใส่จุกหูฟังได้พอดีไหม เพื่อคุณภาพเสียงที่ดี   Wear detection ที่เป็นระบบตรวจจับการสวมใส่หูฟัง หยุดเพลงเมื่อถอดหูฟังออก  Dynamic latency ที่ช่วยในการตรวจจับค่าดีเลย์ของเสียง สำหรับการใช้งานประเภทดูภาพยนตร์หรือเล่นเกม
ชื่อสินค้า:   HUAWEI FreeBuds Pro 2
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่