คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ด้วยความเคารพนะครับ ผมว่านักเขียนบ้านเราตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครใกล้เคียงกับระดับโนเบลเลยนะครับ อย่างยุคนี้ที่ว่ากันว่า คุณ แดนอรัญ ใกล้เคียงมากที่สุด แต่เนื่องจากมันเป็นรางวัลแบบ life achievement หรือเอาผลงานทั้งขีวิตมาวัด พอไปเทียบกับพวกตัวเก็งเบอร์ใหญ่ๆ ก็ยิ่งทำให้โอกาสน้อยลงไปเยอะอีก แต่หากมองกลับมาที่ญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่ผลิตนักเขียนคุณภาพ และสร้างอิมแพคต่อภาษา วิธีคิด และวรรณศิลป์อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ค่อยแปลกหรอกครับที่เค้าจะได้โนเบลสาขานี้มาหลายครั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่า เค้าควรได้มากกว่านี้อีก อย่าง ถ้า มิชิมะ ไม่ฆ่าตัวตายไปซะก่อน คิดว่ายังไงก็ต้องได้แน่ๆ หรือถ้าเป็นตัวเก็งประจำปีเร็วๆนี้อย่าง ทะวะดะ โยโกะ ยังพ่อคั่วๆสูสีกับ คอร์แมค แมคคาธี, โธมัส พินชิน หรือ จอยซ์ แคโรล โอทส์ ได้บ้างเลยครับ
(ส่วนตัวปีนี้อยากให้ พินชิน หรือไม่ก็แมคคาธีได้มากครับ ปล. ต้องขอโทษแฟนๆคุณ มุราคามิ ด้วยที่ไม่อ้างถึงเป็นหนึ่งผู้คั่วตำแหน่ง แต่ผมคิดว่า งานของคุณ มุราคามิ ยังดีไม่ถึงระดับคนอื่นขนาดนั้น และอีกอย่างหากเค้าจะได้โนเบล ก็ควรต้องได้ไปนานแล้ว)
เขียนมายาวเหยียดยังงี้ ส่วนตัวก็อยากให้มีคนไทยได้โนเบลสาขานี้บ้างนะครับ แต่ด้วยความที่สังคมบ้านเราไม่ได้เน้นการอ่านงานวรรณกรรมเท่าไรนัก จึงไม่แปลกที่จะมีนักเขียนแนว serious literature น้อย และนั่นก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะผลิตนักเขียนคุณภาพระดับเทพก็ยิ่งน้อยลงไปอีกโข
ปล.ถ้าส่วนตัวแล้ว ตลอดประวัติศาสตร์นักเขียนบ้านเรา คงไม่มีใครมีผลงาน ลีลา และวิธีการใช้ภาษาได้โดดเด่น เท่า คุณ รงค์ วงษ์สวรรค์ แล้วล่ะครับ ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าคุณ รงค์ เกิดเป็นคนสวีเดน หรือ เดนมาร์กแล้วล่ะก็คงต้องมีสิทธิ์คั่วตำแหน่งโนเบลยาวๆหลายปีแน่นอน หรือดีไม่ดีอาจได้โนเบลเลยก็ได้
(ส่วนตัวปีนี้อยากให้ พินชิน หรือไม่ก็แมคคาธีได้มากครับ ปล. ต้องขอโทษแฟนๆคุณ มุราคามิ ด้วยที่ไม่อ้างถึงเป็นหนึ่งผู้คั่วตำแหน่ง แต่ผมคิดว่า งานของคุณ มุราคามิ ยังดีไม่ถึงระดับคนอื่นขนาดนั้น และอีกอย่างหากเค้าจะได้โนเบล ก็ควรต้องได้ไปนานแล้ว)
เขียนมายาวเหยียดยังงี้ ส่วนตัวก็อยากให้มีคนไทยได้โนเบลสาขานี้บ้างนะครับ แต่ด้วยความที่สังคมบ้านเราไม่ได้เน้นการอ่านงานวรรณกรรมเท่าไรนัก จึงไม่แปลกที่จะมีนักเขียนแนว serious literature น้อย และนั่นก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะผลิตนักเขียนคุณภาพระดับเทพก็ยิ่งน้อยลงไปอีกโข
ปล.ถ้าส่วนตัวแล้ว ตลอดประวัติศาสตร์นักเขียนบ้านเรา คงไม่มีใครมีผลงาน ลีลา และวิธีการใช้ภาษาได้โดดเด่น เท่า คุณ รงค์ วงษ์สวรรค์ แล้วล่ะครับ ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าคุณ รงค์ เกิดเป็นคนสวีเดน หรือ เดนมาร์กแล้วล่ะก็คงต้องมีสิทธิ์คั่วตำแหน่งโนเบลยาวๆหลายปีแน่นอน หรือดีไม่ดีอาจได้โนเบลเลยก็ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ต้องย้อนไปที่การสนับสนุนจากรัฐแหละครับ ฟังนะครับในระยะแค่10ปีหลังงานวรรณกรรมแปลจากภาษาไทยไปภาษาอื่นมีน้อยมากเกินกว่าจะได้รับการrecogniseในระดับนานาชาติ ยังไม่ต้องไปนับวัฒนธรรมการอ่านวรรณกรรม การส่งเสริมการศึกวรรณคดีวิจารณ์นะครับ ผมพูดเลยว่าเรื่องพวกยังตามหลังประเทศในเอเชียอย่างอินเดีย/ญี่ปุ่น/เกาหลีอยู่เยอะ จริงอยู่ที่เกณฑ์การรับคัดเลือกมันอาจจะไม่ได้มีความเป็นภาวะวิสัยมากนัก แต่เท่าที่ดูากnobel candidate/laureate lists สาขาวรรณกรรมช่วงหลัง ๆ นะครับ นักเขียนที่ได้รางวัลส่วนใหญ่จะเน้นจับประเด็นความเป็นมนุษย์/สังคม-การเมือง/ประสบการณ์/ความทรงจำ ฟังแค่นี้คงนับคนได้ว่ามีใครในไทยบ้างที่เขียนงานแนวนี้ ถ้าเขียนไม่ถูกใจคนอ่าน/รัฐอีกยากนะครับที่จะได้รับการยอมรับในประเทศ (ซึ่งตัดการยอมรับในระดับนานาชาติไปได้เลย) ผมว่าไทยเรามีresourceอยู่เยอะนะทั้งในแง่ของภาษา ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แต่มันไม่เปิดกว้างในการศึกษาวรรณกรรม การแปลเชิงวรรณกรรม การวิพากษ์/วิจารณ์วรรณกรรมแบบจริง ๆ จัง ๆ จริง ๆ ดังนั้นนะครับผมว่ายากที่นักเขียนจะผลิตงานได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ก็เอาให้มันเกิดความหลากหลายและเปิดกว้างในเสพงานเขียน (อย่างอินเดีย/ญี่ปุ่น/เกาหลี เป็นต้น) เสียก่อนจะไปถึงNobel 555
ความคิดเห็นที่ 5
โนเบลวรรณกรรม โดนติติงมานานแล้วครับเรื่องหลักเกณฑ์และความลำเอียงที่มีต่อนักเขียนส่วนบุคคล
มีกรรมการโนเบลกี่คนที่จะรู้ภาษาไทย จะให้นักเขียนไทยไปเขียนวรรณกรรมภาษาอื่นก็ไม่เหลือคุณค่าอะไรอีก
โนเบลก็เลยได้แต่ภาษาที่มีใช้งานเยอะ และภาษาที่มีอิทธิพล ไม่ได้เปิดรับพิจารณาทุกวัฒนธรรมทุกมุมโลก
มีกรรมการโนเบลกี่คนที่จะรู้ภาษาไทย จะให้นักเขียนไทยไปเขียนวรรณกรรมภาษาอื่นก็ไม่เหลือคุณค่าอะไรอีก
โนเบลก็เลยได้แต่ภาษาที่มีใช้งานเยอะ และภาษาที่มีอิทธิพล ไม่ได้เปิดรับพิจารณาทุกวัฒนธรรมทุกมุมโลก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมญี่ปุ่น ถึงได้รางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรมบ่อยครับ คนไทยน่าจะได้บ้าง