คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02kD3qxeLFnhvtH94n4qF2wjKaC3tB7tDU7nNLjDg4cuYe2vWVnZg4vkvV72jfch1Cl

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 30 ส.ค. 2565)
รวม 142,712,391 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 30 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 13,763 โดส
เข็มที่ 1 : 1,499 ราย
เข็มที่ 2 : 1,548 ราย
เข็มที่ 3 : 10,716 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,251,528 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,709,833 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,751,030 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02uJKJ98C9xMNFMBH4g2Jsoucgd44VSU97WkNWd22dUZEmErHR51jHxYmPPM44PbNRl

เปิดขั้นตอนการขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีแพ้วัคซีนโควิด -19 มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง ช่องทางการยื่นเรื่องทำอย่างไร ตรวจสอบข้อมูลเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่
ดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/175
สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ChXf1f8uit4EWnr7XYn28zq1iL1bse3UvU9ZdTWLnaB9PS4jX3JQv3hpPaYC1jzMl

โรงพยาบาลตากสิน เปิดจองฉีดวัคซีนใน QueQ ก็ดี จะ Walk in ก็ได้
ณ ศูนย์ฉีดวัคซีน ศูนย์การค้าแพลตฟอร์มวงเวียนใหญ่ (รพ.ตากสิน)
เปิดให้ฉีดวัคซีน เฉพาะวันจันทร์ที่ 5,12,19,26 และวันศุกร์ที่ 2,9,16,23,30 กันยายน 2565
ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 14.00 น. เปิดฉีดวัคซีนโควิด 19 ( Pfizer )
● รับ walk in 150 คิว หรือจองผ่านแอปฯ QueQ 150 คิวต่อวัน
ที่มา : โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0TT5fuMjLa7vGFui86xtH2tyjMh468WHuUdeniLtsfhKhnvPZasPquEouTAxx5Szal

กทม. กำชับ Delivery ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด ป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตดูแลและให้คำแนะนำผู้ประกอบการ Delivery ในพื้นที่ รวมทั้งพูดคุยกับชุมชนให้เข้าใจถึงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลที่ยังต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะมีการประสานไปยังผู้ประกอบการ Delivery ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ทราบแนวทางปฏิบัติ และกำชับพนักงานขนส่งอาหารซึ่งเป็นผู้สัมผัสผู้คนจำนวนมาก ให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยเคร่งครัด หากสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ หรือสำนักอนามัยที่ร่วมตรวจในเรื่องของสาธารณสุข ขอให้เน้นย้ำผู้ประกอบการถึงเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น ให้เป็นมาตรการเชิงรุกไปในตัว ในส่วนของการจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อในชุมชน ซึ่งได้มีการดำเนินการให้คำแนะนำมาเป็นระยะ ๆ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ที่มา กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid03sYzRYwTXR1w4CSbiMgHtRWZnuEGfyWfhxFhkYAy2XZVZJ3UpYpEfioUfKhcZ7wEl

สปสช.เผย ผู้ป่วยโควิด รักษาด้วยการแพทย์ทางไกลผ่าน 3 แอปฯ กว่า 9 พันครั้ง รับยาที่ร้าน 5.5 หมื่นครั้ง
ข้อมูล ณ วันที่ 30 ส.ค. 65 สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร 1330
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาและลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล สปสช.จึงได้ร่วมกับผู้ให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ทั้ง บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปฯ Good Doctor Technology และ ทรู เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ MorDee (หมอดี) และบริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯ Clicknic (คลิกนิก) เพื่อให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งนี้ จากการให้บริการที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึง 30 ส.ค. 65 มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับบริการสะสม เป็นจำนวน 9,043 ครั้ง หรือเฉลี่ย 177.3 ครั้ง/วัน ในจำนวนนี้เป็นการเข้ารับบริการกับแอปฯ Good Doctor เริ่มบริการ 11 ก.ค. จำนวน 4,942 ครั้ง, รับบริการกับแอปฯ MorDee เริ่มบริการ 13 ก.ค. จำนวน 1,950 ครั้ง และรับบริการกับแอปฯ Clicknic เริ่มบริการ 28 ก.ค. จำนวน 2,151 ครั้ง ซึ่งในส่วนของ สปสช. ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่ผ่านมาประชาชนเข้ารับบริการรวม 64,115 ราย ข้อมูล ณ 24 ส.ค. 65
สอบถามเพิ่มเติมที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid028XdNdXVwxJVJybc6AgV2ctDdwArEgSVn9kQBJ3HSWVCk9TKCi25EuEwXc7AnhSPsl

สธ.เดินหน้า รณรงค์กลุ่ม 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ต่อเนื่อง หวังลดป่วยหนักเสียชีวิต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่าจากการรายงานยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าพัน ในรอบหลายเดือน ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่หากจะให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเลขผู้ป่วยหนักที่ใส่ท่อช่วยหายใจต้องไม่เพิ่มและควรจะลดลง ผู้เสียชีวิตก็ต้องลดลงที่น่าห่วงเพราะผู้เสียชีวิตเกือบ 100% ยังเป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงต้องเร่งรณรงค์ให้กลุ่ม 608 นี้ ออกมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ควรให้กลุ่ม608 มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ส่วนกรณีที่ ศบค.กำหนดให้ร้านขายยาสามารถจำหน่ายยาต้านไวรัสโควิดได้ตามใบสั่งแพทย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้เป็นต้นไปนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องราคายาให้เป็นไปตามกลไกตลาด ที่ร้านขายยาและผู้ผลิตยาจะตกลงกันเอง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะดูแลรักษาผู้ป่วยตามความเหมาะสม ซึ่งผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อยามาตุนเอง เพราะกระทรวงสาธารณสุขยังคงดูแลรักษาผู้ป่วยเหมือนเดิม
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0kGyxeQ3QUqrAY44ERULVpTTqTX2EQAjKo5raqjLoPWZaqJ8Ui2xtdS6kE5BeoYNkl

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02kD3qxeLFnhvtH94n4qF2wjKaC3tB7tDU7nNLjDg4cuYe2vWVnZg4vkvV72jfch1Cl

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 30 ส.ค. 2565)
รวม 142,712,391 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 30 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 13,763 โดส
เข็มที่ 1 : 1,499 ราย
เข็มที่ 2 : 1,548 ราย
เข็มที่ 3 : 10,716 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,251,528 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,709,833 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,751,030 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02uJKJ98C9xMNFMBH4g2Jsoucgd44VSU97WkNWd22dUZEmErHR51jHxYmPPM44PbNRl

เปิดขั้นตอนการขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีแพ้วัคซีนโควิด -19 มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง ช่องทางการยื่นเรื่องทำอย่างไร ตรวจสอบข้อมูลเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่
ดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/175
สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ChXf1f8uit4EWnr7XYn28zq1iL1bse3UvU9ZdTWLnaB9PS4jX3JQv3hpPaYC1jzMl

โรงพยาบาลตากสิน เปิดจองฉีดวัคซีนใน QueQ ก็ดี จะ Walk in ก็ได้
ณ ศูนย์ฉีดวัคซีน ศูนย์การค้าแพลตฟอร์มวงเวียนใหญ่ (รพ.ตากสิน)
เปิดให้ฉีดวัคซีน เฉพาะวันจันทร์ที่ 5,12,19,26 และวันศุกร์ที่ 2,9,16,23,30 กันยายน 2565
ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 14.00 น. เปิดฉีดวัคซีนโควิด 19 ( Pfizer )
● รับ walk in 150 คิว หรือจองผ่านแอปฯ QueQ 150 คิวต่อวัน
ที่มา : โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0TT5fuMjLa7vGFui86xtH2tyjMh468WHuUdeniLtsfhKhnvPZasPquEouTAxx5Szal

กทม. กำชับ Delivery ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด ป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตดูแลและให้คำแนะนำผู้ประกอบการ Delivery ในพื้นที่ รวมทั้งพูดคุยกับชุมชนให้เข้าใจถึงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลที่ยังต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะมีการประสานไปยังผู้ประกอบการ Delivery ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ทราบแนวทางปฏิบัติ และกำชับพนักงานขนส่งอาหารซึ่งเป็นผู้สัมผัสผู้คนจำนวนมาก ให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยเคร่งครัด หากสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ หรือสำนักอนามัยที่ร่วมตรวจในเรื่องของสาธารณสุข ขอให้เน้นย้ำผู้ประกอบการถึงเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น ให้เป็นมาตรการเชิงรุกไปในตัว ในส่วนของการจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อในชุมชน ซึ่งได้มีการดำเนินการให้คำแนะนำมาเป็นระยะ ๆ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ที่มา กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid03sYzRYwTXR1w4CSbiMgHtRWZnuEGfyWfhxFhkYAy2XZVZJ3UpYpEfioUfKhcZ7wEl

สปสช.เผย ผู้ป่วยโควิด รักษาด้วยการแพทย์ทางไกลผ่าน 3 แอปฯ กว่า 9 พันครั้ง รับยาที่ร้าน 5.5 หมื่นครั้ง
ข้อมูล ณ วันที่ 30 ส.ค. 65 สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร 1330
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาและลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล สปสช.จึงได้ร่วมกับผู้ให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ทั้ง บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปฯ Good Doctor Technology และ ทรู เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ MorDee (หมอดี) และบริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯ Clicknic (คลิกนิก) เพื่อให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งนี้ จากการให้บริการที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึง 30 ส.ค. 65 มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับบริการสะสม เป็นจำนวน 9,043 ครั้ง หรือเฉลี่ย 177.3 ครั้ง/วัน ในจำนวนนี้เป็นการเข้ารับบริการกับแอปฯ Good Doctor เริ่มบริการ 11 ก.ค. จำนวน 4,942 ครั้ง, รับบริการกับแอปฯ MorDee เริ่มบริการ 13 ก.ค. จำนวน 1,950 ครั้ง และรับบริการกับแอปฯ Clicknic เริ่มบริการ 28 ก.ค. จำนวน 2,151 ครั้ง ซึ่งในส่วนของ สปสช. ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่ผ่านมาประชาชนเข้ารับบริการรวม 64,115 ราย ข้อมูล ณ 24 ส.ค. 65
สอบถามเพิ่มเติมที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid028XdNdXVwxJVJybc6AgV2ctDdwArEgSVn9kQBJ3HSWVCk9TKCi25EuEwXc7AnhSPsl

สธ.เดินหน้า รณรงค์กลุ่ม 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ต่อเนื่อง หวังลดป่วยหนักเสียชีวิต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่าจากการรายงานยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าพัน ในรอบหลายเดือน ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่หากจะให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเลขผู้ป่วยหนักที่ใส่ท่อช่วยหายใจต้องไม่เพิ่มและควรจะลดลง ผู้เสียชีวิตก็ต้องลดลงที่น่าห่วงเพราะผู้เสียชีวิตเกือบ 100% ยังเป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงต้องเร่งรณรงค์ให้กลุ่ม 608 นี้ ออกมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ควรให้กลุ่ม608 มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ส่วนกรณีที่ ศบค.กำหนดให้ร้านขายยาสามารถจำหน่ายยาต้านไวรัสโควิดได้ตามใบสั่งแพทย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้เป็นต้นไปนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องราคายาให้เป็นไปตามกลไกตลาด ที่ร้านขายยาและผู้ผลิตยาจะตกลงกันเอง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะดูแลรักษาผู้ป่วยตามความเหมาะสม ซึ่งผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อยามาตุนเอง เพราะกระทรวงสาธารณสุขยังคงดูแลรักษาผู้ป่วยเหมือนเดิม
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0kGyxeQ3QUqrAY44ERULVpTTqTX2EQAjKo5raqjLoPWZaqJ8Ui2xtdS6kE5BeoYNkl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭💚มาลาริน💚🇹🇭31ส.ค.โควิดไทยที่29โลก/ป่วย2,240คน หายป่วย1,917คน เสียชีวิต28คน/5 เช็คลิสต์ พ่อแม่ต้องรู้/อสม.เฮ!
https://www.bangkokbiznews.com/social/public_health/1023899
ป่วยโควิดกลับมาเพิ่ม 2.2 พันราย หลังลดต่ำกว่าพันรายได้แค่วันเดียว สะท้อนสถานการณ์ยังสวิง แต่แนวโน้มยังเป็นทิศทางลดลงต่อเนื่อง พบป่วยเพิ่มขึ้นมาจาก กทม.กลับมามากกว่าพันรายอีกครั้ง หลังลดต่ำต่อเนื่อง 4 วัน พบดับอีก 28 ราย เจอเด็กอายุ 1 ขวบ
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง RT-PCR และ ATK กลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 2,240 ราย หลังจากที่เมื่อวานลดลงต่ำกว่าพันรายวันแรก ยอดสะสมระลอกโอมิครอนตั้งแต่ ม.ค. 2565 รวม 8 เดือน อยู่ที่ 2,427,484 ราย ตั้งแต่ระลอกแรกสะสม 4,650,919 ราย หายป่วย 1,917 ราย สะสม 4,602,862 ราย เสียชีวิต 28 ราย สะสมระลอกโอมิครอน 10,605 ราย ตั้งแต่ระลอกแรก 32,303 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 15,754 ราย อยู่ รพ.สนามและอื่นๆ 7,120 ราย และอยู่ใน รพ. 8,634 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 765 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 384 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 13.2% ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในเรือนจำ และไม่มีผู้ติดเชื้อเดินทางจากต่างประเทศ ภาพรวมผู้ป่วยเฉลี่ยรายวัน ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง
ผู้เสียชีวิต 28 ราย มาจาก กทม. 8 ราย , ชลบุรี 3 ราย , นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 2 ราย , สมุทรสาคร นนทบุรี ภูเก็ต สิงห์บุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตจากภาคเหนือ ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 21 ราย หญิง 7 ราย อายุ 1-90 ปี อายุเฉลี่ย 76 ปี เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและโรคเรื้อรัง 93% ปัจจัยเสี่ยงที่มีการเสียชีวิตมากที่สุด คือ โรคไต 7 ราย , อ้วน 6 ราย , หัวใจ 4 ราย , หลอดเลือดสมอง 2 ราย , ติดเตียง 2 ราย และมะเร็ง 1 ราย
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 30 ส.ค. 2565 ฉีดได้ 13,763 โดส สะสม 142,712,391 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 57,251,528 โดส คิดเป็น 82.3% เข็มสอง 53,709,833 โดส คิดเป็น 77.2% และเข็มสามขึ้นไป 31,751,030 โดส คิดเป็น 45.6% สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มสามแล้ว 6,433,243 โดส คิดเป็น 50.6% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรก 3,301,711 โดส คิดเป็น 64.1% และเข็มสอง 2,419,741 โดส คิดเป็น 47%
ขณะที่กรมควบคุมโรครายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่รายจังหวัด พบว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยรายใหม่สูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 1,340 ราย กลับมามากกว่าพันราย หลังลดลงต่ำกว่าพันรายมา 4 วัน 2.ราชบุรี 89 ราย 3.สมุทรปราการ 77 ราย 4.ชลบุรี 62 ราย 5.สุรินทร์ 62 ราย 6.ขอนแก่น 55 ราย 7.นนทบุรี 50 ราย 8.ลพบุรี 45 ราย 9.ปทุมธานี 36 ราย และ 10.กาญจนบุรี 27 ราย ภาพรวมมีรายงานผู้ป่วย 63 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วย 14 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กำแพงเพชร ชัยนาท บึงกาฬ ปัตตานี พังงา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี
https://mgronline.com/qol/detail/9650000083596
หลังจากเด็ก ๆ กลับมาเปิดเทอมเรียนออนไซต์ตามปกติเกือบ 2 เดือน พ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องวิตกกังวลกันอีก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทีท่าว่าอาจจะกลับมารุนแรงอีกครั้ง อีกทั้งไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แม้จะรุนแรงน้อย แต่ระบาดได้รวดเร็ว ได้มีการกลายพันธุ์เป็น BA.4 และ BA.5 โดยมีข้อมูลว่าอาจยิ่งระบาดได้ง่ายและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงสร้างความกังวลใจให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยเรียนไม่น้อย อย่างไรก็ดี แม้การแพทย์ปัจจุบันจะยังป้องกันการติดเชื้อโควิดไม่ได้ 100% แต่การฉีดวัคซีนโควิดก็สามารถลดโอกาสการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อได้ โดยผู้ปกครองหลายท่านก็อาจกำลังวางแผนพาลูกหลานไปฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิดในเด็กนั้นมีข้อพิจารณาที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ดังนั้น วันนี้เราจึงมีข้อมูล “5 เช็คลิสต์” เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดในเด็กมากฝากบรรดาคุณพ่อคุณแม่
ล่าสุด มีรายงานผลการวิจัยจาก Chilean Real-World ประเทศชิลี เผยว่า วัคซีนเชื้อตายมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กอายุ 6-16 ปี ได้กว่า 74.5% และป้องกันอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อได้ถึง 91% และอาการรุนแรงฉุกเฉิน 93.8% ในขณะที่ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้น พบว่า ในเด็กอายุ 3-5 ปีสามารถป้องกันการต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล ได้ 64.6% และ ป้องกันอาการรุนแรงฉุกเฉิน ได้ 69% และมีข้อมูลของสถาบันสาธารณสุขชิลี (ISP) จากรายงานประเมินผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กและเยาวชนจำนวนกว่า 6.9 ล้านโดสทั่วประเทศ พบว่า หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค มีอัตราการเกิดผลข้างเคียงในเด็กอยู่ในระดับต่ำ คือ 10.67 ต่อ 100,000 โดส ซึ่งอาการข้างเคียงนั้นก็เป็นอาการในระดับที่ไม่รุนแรง
https://mgronline.com/goodhealth/detail/9650000072939
ครม.อนุมัติ 1,050 ล้านบาท ค่าเสี่ยงภัย อสม.และ อสส.ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในชุมชนประจำเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติ 1,050.31 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และค่าเสี่ยงภัย สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวมทั้งสิ้น 1,050,306 คน ในอัตรา 500 บาท/คน/เดือน ระยะเวลาเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ภายใต้โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และค่าเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของ อสม.ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในชุมชน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มอบหมายให้ อสม.และ อสส.ร่วมดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในชุมชน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีการดำเนินงาน เช่น การให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพตนเองแก่ประชาชน การเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การเคาะประตูบ้านต้านภัยโควิด-19 ร่วมทีมแพทย์ ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แยกจากรักษาตัวในชุมชน (CI) และแยกกักรักษาตัวที่บ้าน (HI) แนะนำกลุ่มเป้าหมายตรวจ ATK และรายงานผลผ่านแอพพลิเคชั่น "สมาร์ท อสม." รวมทั้งเชิญชวนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวมารับวัคซีนเข็มที่ 1/2/3 ด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เคยให้ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยแก่ อสม.และ อสส.ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในชุมชนไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 - มีนาคม 2565 แล้วจำนวนเงิน 3,150.92 ล้านบาท
https://www.naewna.com/politic/676678
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ....
วันนี้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลักพันอีก