สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวชีวิตออแพร์ในอเมริกา ตั้งแต่เริ่มต้นจนได้มาเป็นออแพร์ และ rematch (เปลี่ยนโฮส) จนตอนนี้ชีวิตดีมากๆเลยค่ะ ปัจจุบันเป็นออแพร์อยู่ Seattle, WA นะคะ ดูแลน้อง 2 คน
ขอเกริ่นก่อนเลย ตอนสมัครเราอายุ 26 แล้วค่ะ โทรไปเอเจ้นไหนก็บอกว่ารับไม่เกิน 25 ปี จนมาเจอ Engenius นี่แหละค่ะที่บอกว่าเราไปได้ ถ้าไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาขอแค่บินเข้าประเทศก่อนอายุ 27 ปีค่ะ พื้นฐานเราจบครุศาสตร์ แต่เป็นสาขามัธยมศึกษาวิทยาศาสตร์ เอกวิทย์กับชีวะนะคะ อาจจะไม่ได้คลุกคลีกับเด็กเล็กมากแต่เราสามารถไปเก็บชั่วโมงเพิ่มตาม nursery หรือโรงเรียนอนุบาลแล้วขอใบรับรองได้ค่ะ ใบรับรองก็แล้วแต่เอเจ้นที่เราสมัครไปเลยค่ะ
หลังจากสมัครไปแล้ว เราก็เร่งทำเอกสาร วีดีโอแนะนำตัว เรียนขับรถเพื่อขอใบขับขี่ (ที่นี่บางรัฐสามารถใช้ใบขับขี่ไทยได้ 1 ปีเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่สากล) พอทุกอย่างครบแล้วก็เข้าสู่ขั้นออนไลน์ในระบบ รอให้โฮสแฟมิลี่มาดูโปรไฟล์เรา แล้วทักมาขอ interview จะช่องทางไหนก็ตามแต่เราตกลงกันค่ะ ขั้นนี้ใครรอโฮสในระบบนานก็เพิ่มโอกาสให้ตัวเองโดยการไปหาโฮสนอกระบบได้นะคะ ตามกลุ่ม Facebook แต่ ย้ำ! นะคะระวังสแกมเมอร์ด้วย ระหว่างสัมภาษณ์กับโฮสบ้านต่างๆ ก็เตรียมคำถามไปดีๆค่ะ แรกๆก็ควรถามเกี่ยวกับเด็กให้เยอะๆ โฮสก็จะได้คิดว่าเราใส่ใจเด็กๆ ค่ะ ถามตารางงาน (อันนี้เราถามแล้ว แต่โฮสบ้านแรกไม่สามารถตอบเราได้ชัดเจน กลายเป็นว่าเปลี่ยนตารางทุกอาทิตย์เลยค่ะ) แล้วถ้ามีสัมภาษณ์รอบสองค่อยถามพวก benefits ต่างๆของเรามากขึ้น
เมื่อเรา matched กับโฮสแฟมิลี่แล้ว ขั้นต่อไปคือขั้นหินที่สุด การสัมภาษณ์วีซ่า!!
ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า เราเคยไป W&T 2019 มาแต่ไม่เป็นผลอะไรเลยค่ะ ข้อได้เปรียบของเราคือเราเรียนสายครูมาแล้วก็ทำงานเกี่ยวกับสายการศึกษามาตลอด
อ่ะ พอผ่านวีซ่าอะไรๆก็ดูสดใสไปหมด เราก็เตรียมของ เดินทางมาอเมริกาสวยๆ ด้วยสายการบิน ANA and American Airlines
มาถึง Seattle, WA โฮสก็มารับเลย บ้านแรกเราดูแลน้อง 3 คน อายุ 6, 3, 18 เดือน บ้านเอเชียเราเอ็นจอยอาหาร และสภาพอากาศมาก (หนีร้อนมาจากไทย) วันหยุดก็หาเวลาไปเที่ยวในดาวน์ทาวน์ Seattle ไป hiking บ้าง แต่ทั้งหมดนี้คือไปตอนวันหยุดนะคะ เวลางานก็ทำเต็มที่เลย

ดูเหมือนจะชีวิตดีแล้วใช่มั้ยคะ แต่....ทุกคนล้วนมีอุปสรรคค่ะ ส่วนตัวเราคือน้องคนโตมีปัญหาเรื่องพฤติกรรม ทำให้เราไม่สามารถอยู่ต่อได้ เราเลยต้อง rematch (ทำเรื่องเปลี่ยนโฮสแฟมิลี่) ซึ่งมันก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เราต้องสู้ค่ะ ต้องอยู่รอด
พอได้โฮสใหม่ ครอบครัวใหม่เหมือนได้เกิดใหม่เลยค่ะ (เว่อร์มาก) เราทำงานไม่เคยถึง 45ชม/สัปดาห์ ซักที แถมเวลาไปเที่ยวเค้าก็พาเราไปด้วย เด็กๆครอบครัวใหม่มี 2 คน น่ารักทั้งคู่เลย

ทริปไปทะเลที่ Canon beach, Oregon

ไป arcade เล่นเกมด้วยกันตลอด

บางครั้งก็อบขนมด้วยกัน เด็กๆส่วนใหญ่ชอบช่วยเราทำนะคะ (ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกว่าทำเอง แต่ก็สนุกค่ะ)

บางครั้งมี Play date ก็พาเด็กๆไปบ้านเพื่อนบ้าง กิจกรรมเยอะแยะเลยค่ะ

Bath time ของบ้านนี้ เด็กๆบางครั้งก็อยากเล่นนานๆ บางครั้งก็งอแง แต่เราก็พยายามหาของเล่น หรือเกมไปเล่นกับเค้า หลังอาบน้ำก็มีเวลาดูการ์ตูนค่ะ

อันนี้วันเกิดเราค่ะ น้องๆก็มีเค้กมา happy birthday เรา แต่เป่าเค้กแทนเรานะ (ขำๆค่ะ)

ส่วนเพื่อนๆเราที่นี่ก็น่ารักค่ะ มีมาทำเค้กให้ จัดปาร์ตี้เล็กๆให้ คือรู้สึกว่าได้มาเจอสังคมที่ดีด้วยแหละค่ะ

ว่างๆ ก็ไปดูแข่งเบสบอลค่ะ เปิดประสบการณ์ดีค่ะ สเตเดียมคือใหญ่มาก ที่รัฐ Washinton ที่ hiking คือมีเยอะมาก แล้วมีแต่ที่สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ ถ้าใครสายนี้แนะนำรัฐนี้เลย

ส่วนปิ้งย่าง ชาบูก็ไม่ต้องห่วงมีให้กินอยู่ค่ะ ที่ซีแอตเทิลอาหารเอเชียเยอะมากเลยนะคะ ร้านอาหารไทยก็เยอะ แต่ราคาก็แอบแรงหน่อยค่ะ
สรุปแล้ว เส้นทางการเป็นออแพร์ของเราอาจจะมีสะดุดบ้าง แต่ตอนนี้แฮปปี้สุดๆค่ะ แนะนำเลยนะคะ ถ้าใครสนใจมาเลี้ยงเด็ก ฝึกภาษา และได้ประสบการณ์การอยู่กับครอบครัวอเมริกัน มาเป็นออแพร์กันค่ะ
ส่วนเพื่อนๆคนไหนสนใจสมัครมาเป็น Aupair ที่อเมริกา ก็ติดต่อพี่ๆ Engenius International ได้เลยนะคะ พี่ๆเค้าช่วยเหลือโอเคเลยค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
[SR] Review ชีวิตความเป็นอยู่ของ Aupair in America
ขอเกริ่นก่อนเลย ตอนสมัครเราอายุ 26 แล้วค่ะ โทรไปเอเจ้นไหนก็บอกว่ารับไม่เกิน 25 ปี จนมาเจอ Engenius นี่แหละค่ะที่บอกว่าเราไปได้ ถ้าไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาขอแค่บินเข้าประเทศก่อนอายุ 27 ปีค่ะ พื้นฐานเราจบครุศาสตร์ แต่เป็นสาขามัธยมศึกษาวิทยาศาสตร์ เอกวิทย์กับชีวะนะคะ อาจจะไม่ได้คลุกคลีกับเด็กเล็กมากแต่เราสามารถไปเก็บชั่วโมงเพิ่มตาม nursery หรือโรงเรียนอนุบาลแล้วขอใบรับรองได้ค่ะ ใบรับรองก็แล้วแต่เอเจ้นที่เราสมัครไปเลยค่ะ
หลังจากสมัครไปแล้ว เราก็เร่งทำเอกสาร วีดีโอแนะนำตัว เรียนขับรถเพื่อขอใบขับขี่ (ที่นี่บางรัฐสามารถใช้ใบขับขี่ไทยได้ 1 ปีเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่สากล) พอทุกอย่างครบแล้วก็เข้าสู่ขั้นออนไลน์ในระบบ รอให้โฮสแฟมิลี่มาดูโปรไฟล์เรา แล้วทักมาขอ interview จะช่องทางไหนก็ตามแต่เราตกลงกันค่ะ ขั้นนี้ใครรอโฮสในระบบนานก็เพิ่มโอกาสให้ตัวเองโดยการไปหาโฮสนอกระบบได้นะคะ ตามกลุ่ม Facebook แต่ ย้ำ! นะคะระวังสแกมเมอร์ด้วย ระหว่างสัมภาษณ์กับโฮสบ้านต่างๆ ก็เตรียมคำถามไปดีๆค่ะ แรกๆก็ควรถามเกี่ยวกับเด็กให้เยอะๆ โฮสก็จะได้คิดว่าเราใส่ใจเด็กๆ ค่ะ ถามตารางงาน (อันนี้เราถามแล้ว แต่โฮสบ้านแรกไม่สามารถตอบเราได้ชัดเจน กลายเป็นว่าเปลี่ยนตารางทุกอาทิตย์เลยค่ะ) แล้วถ้ามีสัมภาษณ์รอบสองค่อยถามพวก benefits ต่างๆของเรามากขึ้น
เมื่อเรา matched กับโฮสแฟมิลี่แล้ว ขั้นต่อไปคือขั้นหินที่สุด การสัมภาษณ์วีซ่า!!
ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า เราเคยไป W&T 2019 มาแต่ไม่เป็นผลอะไรเลยค่ะ ข้อได้เปรียบของเราคือเราเรียนสายครูมาแล้วก็ทำงานเกี่ยวกับสายการศึกษามาตลอด
อ่ะ พอผ่านวีซ่าอะไรๆก็ดูสดใสไปหมด เราก็เตรียมของ เดินทางมาอเมริกาสวยๆ ด้วยสายการบิน ANA and American Airlines
มาถึง Seattle, WA โฮสก็มารับเลย บ้านแรกเราดูแลน้อง 3 คน อายุ 6, 3, 18 เดือน บ้านเอเชียเราเอ็นจอยอาหาร และสภาพอากาศมาก (หนีร้อนมาจากไทย) วันหยุดก็หาเวลาไปเที่ยวในดาวน์ทาวน์ Seattle ไป hiking บ้าง แต่ทั้งหมดนี้คือไปตอนวันหยุดนะคะ เวลางานก็ทำเต็มที่เลย
ดูเหมือนจะชีวิตดีแล้วใช่มั้ยคะ แต่....ทุกคนล้วนมีอุปสรรคค่ะ ส่วนตัวเราคือน้องคนโตมีปัญหาเรื่องพฤติกรรม ทำให้เราไม่สามารถอยู่ต่อได้ เราเลยต้อง rematch (ทำเรื่องเปลี่ยนโฮสแฟมิลี่) ซึ่งมันก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เราต้องสู้ค่ะ ต้องอยู่รอด
พอได้โฮสใหม่ ครอบครัวใหม่เหมือนได้เกิดใหม่เลยค่ะ (เว่อร์มาก) เราทำงานไม่เคยถึง 45ชม/สัปดาห์ ซักที แถมเวลาไปเที่ยวเค้าก็พาเราไปด้วย เด็กๆครอบครัวใหม่มี 2 คน น่ารักทั้งคู่เลย
ทริปไปทะเลที่ Canon beach, Oregon
ไป arcade เล่นเกมด้วยกันตลอด
บางครั้งก็อบขนมด้วยกัน เด็กๆส่วนใหญ่ชอบช่วยเราทำนะคะ (ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกว่าทำเอง แต่ก็สนุกค่ะ)
บางครั้งมี Play date ก็พาเด็กๆไปบ้านเพื่อนบ้าง กิจกรรมเยอะแยะเลยค่ะ
Bath time ของบ้านนี้ เด็กๆบางครั้งก็อยากเล่นนานๆ บางครั้งก็งอแง แต่เราก็พยายามหาของเล่น หรือเกมไปเล่นกับเค้า หลังอาบน้ำก็มีเวลาดูการ์ตูนค่ะ
อันนี้วันเกิดเราค่ะ น้องๆก็มีเค้กมา happy birthday เรา แต่เป่าเค้กแทนเรานะ (ขำๆค่ะ)
ส่วนเพื่อนๆเราที่นี่ก็น่ารักค่ะ มีมาทำเค้กให้ จัดปาร์ตี้เล็กๆให้ คือรู้สึกว่าได้มาเจอสังคมที่ดีด้วยแหละค่ะ
ว่างๆ ก็ไปดูแข่งเบสบอลค่ะ เปิดประสบการณ์ดีค่ะ สเตเดียมคือใหญ่มาก ที่รัฐ Washinton ที่ hiking คือมีเยอะมาก แล้วมีแต่ที่สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ ถ้าใครสายนี้แนะนำรัฐนี้เลย
ส่วนปิ้งย่าง ชาบูก็ไม่ต้องห่วงมีให้กินอยู่ค่ะ ที่ซีแอตเทิลอาหารเอเชียเยอะมากเลยนะคะ ร้านอาหารไทยก็เยอะ แต่ราคาก็แอบแรงหน่อยค่ะ
สรุปแล้ว เส้นทางการเป็นออแพร์ของเราอาจจะมีสะดุดบ้าง แต่ตอนนี้แฮปปี้สุดๆค่ะ แนะนำเลยนะคะ ถ้าใครสนใจมาเลี้ยงเด็ก ฝึกภาษา และได้ประสบการณ์การอยู่กับครอบครัวอเมริกัน มาเป็นออแพร์กันค่ะ
ส่วนเพื่อนๆคนไหนสนใจสมัครมาเป็น Aupair ที่อเมริกา ก็ติดต่อพี่ๆ Engenius International ได้เลยนะคะ พี่ๆเค้าช่วยเหลือโอเคเลยค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม