
จากกระทู้ก่อนหน้า (
รีวิวบ้านรักไทย – ปางอุ๋ง – ปาย - เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน | Day 1 - 2: บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน) เราได้พาทุกคนไปชมบรรยากาศน่ารักๆของบ้านรักไทยกันมาแล้ว หลังจาก Check out เสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป นั่นก็คือ “ปางอุ๋ง” ที่ซึ่งไม่ไกลจากบ้านรักไทยมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึง
Tips: สำหรับคนที่เมารถ แนะนำให้ทานยาแก้เมารถให้พร้อม เพราะถึงแม้ระยะทางจากบ้านรักไทยไปปางอุ๋ง จะอยู่ไม่ห่างกัน แต่บอกเลยว่าจำนวนโค้งก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน
Day 2: บ้านรักไทย - ปางอุ๋ง
สำหรับที่พักของ
“โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” นั้น จะมีให้เลือกหลักๆ 2 แบบ คือ 1. นอนเต็นท์ และ 2. นอนในอาคาร ซึ่งถ้าใครสนใจนอนเต็นท์ เราต้องทำการจองพื้นที่กางเต็นท์ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานล่วงหน้า(สามารถจองได้ล่วงหน้าไม่เกิน 60 วัน)
https://nps.dnp.go.th/reservation.php?id=144
เมื่อเข้าเว็บไซต์มาแล้ว (โหลดช้าหน่อยนะ) ให้เราเลือกพื้นที่กางเต็นท์ > อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ > เลือกโซน 3 โซนหน่วยพิทักษ์ฯ ปางอุ๋ง บริการเต็นท์ ลานกางเต็นท์ > เลือกวันที่จะเข้าใช้บริการ > กดค้นหาพื้นที่

หลังจากนั้นก็เลือกลำดับที่ 3 ลานกางเต็นท์ปางอุ๋ง ซึ่งค่าจองพื้นที่ก็จะอยู่ที่ 30 บาทต่อคนเท่านั้นเอง ส่วนตัวเต็นท์เป็นค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งนะครับ ตอนนั้นเราไปจองกันหน้างาน ตกเต็นท์ละประมาณ 500 บาท (รวมชุดเครื่องนอน)
Tips:
1. สำหรับใครที่นอนเต็นท์ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ติดกับที่จอดรถ ห่างจากจุดกางเต็นท์นิดหน่อย เดินไม่เกิน 5 - 10 นาทีครับ
2. สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการนอนเต็นท์เหมือนพวกเรา นอกจากจะพกไฟฉายส่วนตัวไปกันแล้ว แนะนำให้ซื้อไฟแคมปิ้ง LED ที่มันแขวนในเต็นท์ได้ไปด้วยก็ดีนะครับ ให้แสงสว่างดีมากๆ
3. สำหรับใครที่ไม่สะดวกนอนเต็นท์ แถวนั้นก็มีบ้านพักที่ดูเหมือนจะอยู่ในความดูแลของอุทยานให้บริการนะครับ ราคาประมาณ 1,400 บาท ตอนนั้นเราก็ไปเช่าบ้านกันหน้างาน ไว้สำหรับเก็บสัมภาระใหญ่ๆและใช้อาบน้ำ โดยตำแหน่งของบ้านก็จะอยู่ตรงสันเขื่อน ซึ่งใกล้กับจุดให้บริการล่องแพ แต่อยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์พอสมควร เดินเท้าน่าจะเหนื่อย ต้องนั่งรถเอา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปางอุ๋ง หรือมีชื่อเต็มว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 คำว่า ปาง แปลว่าที่พักของคนทำงานในป่า ส่วน อุ๋ง หมายถึงที่ลุ่มต่ำ เมื่อรวมกันจึงแปลว่า "ที่พักริมอ่างเก็บน้ำ"ซึ่งที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" กันเลยทีเดียว
หลังจากจัดการที่พักและเก็บสัมภาระเรียบร้อย เราก็เดินถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยทั้งบริเวณสันเขื่อนและพื้นที่รอบๆ เพราะวันนี้ไม่มีแพลนอะไรอย่างอื่นแล้ว รอกินหมูกระทะตอนเย็นอย่างเดียวเลย ส่วนอาหารกลางวันเราก็ซื้อจากร้านอาหารตามสั่งแถวๆลานกางเต็นท์และก็ขอยืมเสื่อเขามาปูนั่ง กินไปชมบรรยากาศไปเรื่อยเปื่อย ชิวดีเหมือนกัน
Tips:
1. แถวจุดกางเต็นท์จะมีร้านค้ามาขายของกันประปราย ดังนั้น ไม่ต้องกลัวอดตายนะ ส่วนหมูกระทะตอนเย็น เราไปนั่งกินกันตรงร้านติดกับที่พักแบบอาคารของอุทยาน
2. ช่วงดึกๆ บริเวณสันเขื่อนเห็นว่าเหมาะกับการถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือก ใครไหวก็ลองดูนะครับ
รีวิวบ้านรักไทย – ปางอุ๋ง – ปาย - เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน | Day 2 - 3: ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
จากกระทู้ก่อนหน้า (รีวิวบ้านรักไทย – ปางอุ๋ง – ปาย - เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน | Day 1 - 2: บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน) เราได้พาทุกคนไปชมบรรยากาศน่ารักๆของบ้านรักไทยกันมาแล้ว หลังจาก Check out เสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป นั่นก็คือ “ปางอุ๋ง” ที่ซึ่งไม่ไกลจากบ้านรักไทยมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึง
Tips: สำหรับคนที่เมารถ แนะนำให้ทานยาแก้เมารถให้พร้อม เพราะถึงแม้ระยะทางจากบ้านรักไทยไปปางอุ๋ง จะอยู่ไม่ห่างกัน แต่บอกเลยว่าจำนวนโค้งก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน
Day 2: บ้านรักไทย - ปางอุ๋ง
สำหรับที่พักของ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” นั้น จะมีให้เลือกหลักๆ 2 แบบ คือ 1. นอนเต็นท์ และ 2. นอนในอาคาร ซึ่งถ้าใครสนใจนอนเต็นท์ เราต้องทำการจองพื้นที่กางเต็นท์ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานล่วงหน้า(สามารถจองได้ล่วงหน้าไม่เกิน 60 วัน)
https://nps.dnp.go.th/reservation.php?id=144
เมื่อเข้าเว็บไซต์มาแล้ว (โหลดช้าหน่อยนะ) ให้เราเลือกพื้นที่กางเต็นท์ > อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ > เลือกโซน 3 โซนหน่วยพิทักษ์ฯ ปางอุ๋ง บริการเต็นท์ ลานกางเต็นท์ > เลือกวันที่จะเข้าใช้บริการ > กดค้นหาพื้นที่
หลังจากนั้นก็เลือกลำดับที่ 3 ลานกางเต็นท์ปางอุ๋ง ซึ่งค่าจองพื้นที่ก็จะอยู่ที่ 30 บาทต่อคนเท่านั้นเอง ส่วนตัวเต็นท์เป็นค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งนะครับ ตอนนั้นเราไปจองกันหน้างาน ตกเต็นท์ละประมาณ 500 บาท (รวมชุดเครื่องนอน)
Tips:
1. สำหรับใครที่นอนเต็นท์ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ติดกับที่จอดรถ ห่างจากจุดกางเต็นท์นิดหน่อย เดินไม่เกิน 5 - 10 นาทีครับ
2. สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการนอนเต็นท์เหมือนพวกเรา นอกจากจะพกไฟฉายส่วนตัวไปกันแล้ว แนะนำให้ซื้อไฟแคมปิ้ง LED ที่มันแขวนในเต็นท์ได้ไปด้วยก็ดีนะครับ ให้แสงสว่างดีมากๆ
3. สำหรับใครที่ไม่สะดวกนอนเต็นท์ แถวนั้นก็มีบ้านพักที่ดูเหมือนจะอยู่ในความดูแลของอุทยานให้บริการนะครับ ราคาประมาณ 1,400 บาท ตอนนั้นเราก็ไปเช่าบ้านกันหน้างาน ไว้สำหรับเก็บสัมภาระใหญ่ๆและใช้อาบน้ำ โดยตำแหน่งของบ้านก็จะอยู่ตรงสันเขื่อน ซึ่งใกล้กับจุดให้บริการล่องแพ แต่อยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์พอสมควร เดินเท้าน่าจะเหนื่อย ต้องนั่งรถเอา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากจัดการที่พักและเก็บสัมภาระเรียบร้อย เราก็เดินถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยทั้งบริเวณสันเขื่อนและพื้นที่รอบๆ เพราะวันนี้ไม่มีแพลนอะไรอย่างอื่นแล้ว รอกินหมูกระทะตอนเย็นอย่างเดียวเลย ส่วนอาหารกลางวันเราก็ซื้อจากร้านอาหารตามสั่งแถวๆลานกางเต็นท์และก็ขอยืมเสื่อเขามาปูนั่ง กินไปชมบรรยากาศไปเรื่อยเปื่อย ชิวดีเหมือนกัน
Tips:
1. แถวจุดกางเต็นท์จะมีร้านค้ามาขายของกันประปราย ดังนั้น ไม่ต้องกลัวอดตายนะ ส่วนหมูกระทะตอนเย็น เราไปนั่งกินกันตรงร้านติดกับที่พักแบบอาคารของอุทยาน
2. ช่วงดึกๆ บริเวณสันเขื่อนเห็นว่าเหมาะกับการถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือก ใครไหวก็ลองดูนะครับ